xs
xsm
sm
md
lg

แดดดี้ "พิธา" ช่วย "โน้ส-อุดม" บิดแซะพอเพียงแค่สโลว์ไลฟ์ ดาวตลกร้ายขยี้ต่อ "โจ๊ะเลย" ประชดคืนจาน คืนกล่อง Netflix! ** นี่ก็ดรามา แบ่งข้างซัดกันนัว...ข้าวยิ่งลักษณ์ 10 ปี ยังกินได้ หุงขึ้นหม้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** แดดดี้ "พิธา" ช่วย "โน้ส-อุดม" บิดแซะพอเพียงแค่สโลว์ไลฟ์ ดาวตลกร้ายขยี้ต่อ "โจ๊ะเลย" ประชดคืนจาน คืนกล่อง Netflix!

ดรามา “โน้ส- อุดม แต้พานิช”ยังลุกลามไปทุกหย่อมหญ้าของโซเชียลฯ

ปรอทความเดือดทะลุองศา ทั้งฝ่ายที่เชียร์ “โน้ส อุดม” และ ฝ่ายที่รุมด่า ต่างโพสต์ความเห็นรัวกระหน่ำ ทำให้แฮชแท็ก #โน้ส อุดม ติดอันดับตลอดทั้งวัน

แน่นอนว่า ประเด็นปะทะเดือดยังอยู่ที่มุกของ “โน้ส-อุดม” ที่เล่นเกินเลยไม่สมควรนำมาล้อเลียน หรือเล่นตลก

โดยเฉพาะ ปรัชญาพอเพียง และวัฒนธรรมอันดี ที่โดน “โน้ส” จับมาแซะ ในเชิงดูหมิ่น ดูแคลน

หลายคนเชื่อว่า “โน้ส” มีเจตนาให้เกิดดรามาเพื่อต้องการเรตติ้ง และในที่สุด ผู้ชนะศึกดรามาครั้งนี้ย่อมเป็น บริษัทพอดีพานิช ของ “โน้ส อุดม”เอง และ Netflix ที่ซื้อคอนเทนต์ไป

เรียกว่า วิน-วิน โนสน โนแคร์ว่า จะทำให้สังคมแตกแยกอย่างไร?

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเจ้าต้ว "โน้ส อุดม" ก็เป็นเช่นที่ว่าออกมาโพสต์โปรโมตเพลงที่ชื่อ "ลองโจ๊ะ" ที่ โน้ส ร่วมร้องกับ "สิงโต นำโชค" และ"ก้อง ห้วยไร่" ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "เดี่ยว" พร้อมระบุข้อความว่า ...

“โจ๊ะสิครับ โจ๊ะเลย ไม่ต้องกลั้นเอาไว้ โจ๊ะ มันออกมา”

ตามมาด้วยโพสต์คอนเทนต์ "ประชด" กลุ่มที่รับตัวเองและเน็ตฟิกส์ไม่ได้ เรียกร้องให้แบนโน้ส อุดม และNetflix ด้วยการตั้งใจสร้างภาพหอบกล่อง และจานดาวเทียมเขียนข้อความว่า "ทนกระแสกดดันไม่ไหว โน้ส อุดม บุกสำนักงานใหญ่ ตัดสินใจคืนจานและกล่อง ไม่ดูเดี่ยวมันแล้ว พอกันที”

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป ก็ปรากฏ มีความเห็นหลั่งไหลเข้าไปดรามาตามหลุมที่ “โน้ส” ตั้งใจดัก

พร้อมพวกเดียวกับ “โน้ส” เช่น “ก้อง ห้วยไร่” และ “ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” ตัวตึงผู้ลี้ภัย คดี112 เข้ามาหัวร่อกันใหญ่

ฝ่ายเชียร์ก็ขำขัน ในทำนอง เฮียก้อ ขยี้ ไปอี๊กกกก ขณะฝ่ายด่า ย่อมด่าว่า ดาวตลกร้ายไม่รู้จักสำนึก!!

งานนี้คงว่ากันไปยาวๆ ยิ่ง "นักร้องกราบเรียน" อย่าง "สนธิญา สวัสดี" โดดเข้าหาแสง ด้วยการเดินทางไปยื่นหนังสือต่อกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ตรวจสอบเนื้อหาที่ “โน้ส อุดม”พูดถึงเรื่อง “ความพอเพียง” ว่า มีเจตนาพูดพาดพิงไปถึงโครงการฯ “เศรษฐกิจพอเพียง”หรือไม่ !?

หากยืนยันว่าไม่ได้พาดพิง ก็คงจบ แต่หากพบว่าเจตนาก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย งานก็จะเข้า “โน้ส อุดม”

ทว่า “โน้ส อุดม” ไม่เดียวดาย เมื่อ "แดดดี้" พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า อยากจะชวนสังคมตั้งสติ และมีวุฒิภาวะกับกรณี โน้ส อุดม แค่บอกว่า อยากใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ แต่ว่ามันไม่ง่าย และหากฟังด้วยใจที่เป็นธรรม ก็จะเข้าใจว่า “โน้ส อุดม”ต้องการสื่อสารอะไร!?

งานนี้ก็ต้องบอก “โน้ส อุดม-พิธา” เอาที่สบายใจ เป็นสิทธิ์ที่จะคิดได้

ส่วนคนที่เขาไม่เห็นด้วยก็มีสิทธิ์คิดแบนพวกสติต่ำตม-ไร้ราคาแบบนี้เช่นกัน


** นี่ก็ดรามา แบ่งข้างซัดกันนัว...ข้าวยิ่งลักษณ์ 10 ปี ยังกินได้ หุงขึ้นหม้อ

หลังจาก “รองอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ จัดอีเวนต์ “กินข้าวโชว์” ซึ่งเป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อ 10 ปีก่อน ที่ยังเหลือคาโกดังประมาณ 1.5 หมื่นตัน ว่าเป็นข้าวที่ยังกินได้ และเตรียมนำออกประมูล

มีการเชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน บริษัทเซอร์เวย์ ผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว สมาคมโรงสี ผู้ส่งออกข้าว ตลอดจนคณะผู้สื่อข่าว ร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมกินข้าวโชว์ ในครั้งนี้

ตามราคาคุยบอกว่า ข้าวที่เก็บไว้ 10 ปีนี้ ถูกเก็บรักษาอย่างดี ไม่มีนกเข้า ฝนตกน้ำไม่รั่ว มีการรมยาตามมาตรฐาน 2 เดือนครั้ง ก่อนนำมาหุง ก็ได้มีการซาวข้าวไป 15 น้ำ หุงขึ้นหม้อ สุกแล้วสีจะออกขุ่นๆ ไม่ขาวเหมือนข้าวใหม่ แต่ยังกินได้ แม้ความหอมจะลดลงไปบ้าง

หลังมีการเผยแพร่ข่าวออกไป เรื่อง “ข้าวยิ่งลักษณ์” ก็เป็นประเด็นดรามาในโลกเชียลฯ ว่าสุดท้ายแล้วหากมีพ่อค้าประมูลไปแล้ว ข้าวจะขายอยู่ในประเทศ หรือต่างประเทศ ถ้านำไปปรับปรุงแล้วขายในประเทศ คนไทยก็เสี่ยงต่อการรับสารตกค้างจากการรมยา ถ้าขายไปต่างประเทศก็เสี่ยงที่จะทำให้ภาพลักษณ์ข้าวไทยเสียหาย ...ขายแล้วเงินที่ได้จะพอจ่ายค่าเช่าโกดังหรือไม่
ขณะที่ในทางการเมืองก็แบ่งฝ่ายกันดรามา มีทั้งสวด ทั้งอวย และยังมีประเด็นที่โยงไปถึง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่กำลังจะหาทางกลับไทย ว่าเห็นไหม ใครว่าข้าวยิ่งลักษณ์เน่า นี่ขนาดเก็บไว้ 10 ปี ยังหุงกินได้ ยังขายได้ บรรดาไอโอ ก็เอาไปขยายความต่อว่า เห็นมั้ย โครงการจำนำข้าวไม่มีปัญหาอะไร

แต่สำหรับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลแล้ว เรื่องนี้ถือว่าเข้าทาง อย่าง“ราเมศ รัตนะเชวง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ข้าวที่เก็บไว้ 10 ปี แล้วยังหุงได้ กินได้ แต่ก่อนหุงซาวข้าวถึง 15 น้ำ เพราะน้ำแรกๆ มีมอดลอยอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าข้าว ไม่ได้คุณภาพ แต่ถ้า “รองภูมิธรรม” เห็นว่ายังมีคุณภาพ ก็ขอให้เอาไปหุงให้รัฐมนตรีได้กินกันทั้งคณะ ในทุกวันอังคาร ที่มีการประชุมครม. แล้วบอกแม่บ้านที่หุงข้าวว่า อย่าซาวน้ำมากกว่า 3 ครั้ง เพราะจะสูญเสียสารอาหาร และความหอมของข้าวได้
ถ้าทำอย่างนี้ ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และยังประหยัดค่าใช้จ่ายของครม.ได้ด้วย

ไม่เท่านั้น “ราเมศ”ยังแซะต่อไปว่า ตอนที่ “รองอ้วน” กินข้าวโชว์นั้น ดูเหมือนก็ไม่มีความกล้าเต็มร้อย เพราะเวลาตัก “เน้นกับ” ไม่ “เน้นข้าว” จนมีคนฝากถามว่า ช้อนซื้อที่ไหน เวลาตักถึงติดแต่กับ ไม่ค่อยติดข้าว

ตามด้วยทิ้งหมัดปิดท้ายว่า ต่อให้มากินข้าวโชว์ เพื่อจะสื่อสารว่า โครงการรับจำนำข้าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ถึงอย่างไร มันก็ไม่สามารถ ลบล้าง เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาในคดีทุจริตรับจำนำข้าวได้

ด้าน“เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษา (ฝ่ายการเมือง) ของรองนายกรัฐมนตรี (ภูมิธรรม เวชยชัย) เห็นลูกพี่โดน “ ด้อยค่า” ก็รีบออกมาเป็นองครักษ์พิทักษ์ลูกพี่ โดยถามกลับไปยัง “ราเมศ” ว่า เป็นอะไรมากหรือเปล่า เสียใจมากหรือ ที่รองนายกฯภูมิธรรม พาสื่อมวลชนและผู้ส่งออก ไปตรวจสอบข้าว จากโครงการจำนำข้าว เพื่อบรรเทาความเสียหาย อย่างน้อยถ้าประมูลได้ราคามาตรฐาน 17-18 บาท ก็จะมีรายได้เข้ามาถึง 200-400 ล้านบาท สิ่งที่ท่านรองนายกฯทำ ล้วนแต่เรื่องดี ใครๆ ก็เห็นด้วย มีแต่ “ราเมศ” ที่ออกมาท้าทาย ออกมาเล่นการเมือง

“ทั้งเรื่อง ช้อนซื้อที่ไหน ตักติดแต่กับ ไม่ค่อยติดข้าว พูดไปไกลถึงเรื่องลบล้างเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาในคดีทุจริตรับจำนำข้าว ไม่เคยตกเลยจริงๆ เรื่องใช้จินตนาการมากกว่าสมอง ถนัดเหลือเกินกับการเล่นการเมือง แบบไม่สนความเสียหาย”

“เด็จพี่” ยังซ้ำไปอีกว่าตนเอง เข้าใจว่า “ราเมศ” เป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ต้องทำงานในฐานะฝ่ายค้าน แต่คำพูดคำจา สิ่งที่สื่อสารออกมา เหมือนมาจาก “ตลาดล่าง” ไม่มีผิด

“ราเมศ”ได้ฟังคำ “เด็จพี่” กระแนะกระแหน จีบปาก จีบนิ้ว ว่าเป็น “โฆษกตลาดล่าง” ก็ออกมายอมรับว่า เป็นโฆษกตลาดล่าง น่ะถูกต้องแล้ว ตลาดล่างชาวบ้านธรรมดา เขาผิดตรงไหน สื่อสารให้ชาวบ้านฟัง ไม่ดีตรงไหนถึงด้อยค่า นักการเมือง พรรคการเมืองที่แบ่งชนชั้นแบบนี้ จบไม่ดีสักราย แต่ก็ยังดีที่เป็นโฆษกตลาดล่าง ดีกว่าเป็น “โฆษกลิเกหลงโรง”

ส่วนถ้าขายข้าวได้ ทุกคนก็ดีใจด้วยอยู่แล้ว ขอให้ขายได้จริงๆ แต่ 200 ล้าน หรือ 400 ล้าน ก็เทียบกับ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นกี่แสนล้าน จากการทุจริตในโครงการนี้

...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ต่อจากนี้ก็ต้องมาตรวจดูข้อมูลว่า โกดังที่เก็บข้าวจำนำ เป็นโกดังของใคร และได้ค่าเช่าจากการเช่าโกดัง 10 ปี เป็นจำนวนเงินเท่าไร กระทรวงใด หน่วยงานใด เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

การเก็บเป็นเวลากว่า 10 ปี ต้องฉีดยาทุก 3 เดือนใช่หรือไม่ รัฐนำเงินภาษีของประชาชนมาใช้ในส่วนนี้ ถามว่าต้องนำเงินภาษีมารับผิดชอบโครงการจำนำข้าวเป็นจำนวนเท่าไร “พร้อมพงศ์”ช่วยออกมาตอบด้วย เพราะประชาชนผู้เสียภาษีอยากรู้ข้อมูลที่แท้จริง

“อย่าทำตัวเป็นรัฐบาลน้ำเต็มแก้ว ถ้าน้ำในแก้ว เป็นน้ำเน่าก็เททิ้ง เอาน้ำดีใส่ไปบ้าง และถ้าออกมาโต้ในทางการเมือง รับประกันได้ว่าเข้าเนื้อแน่นอน ก่อนที่จะกลิ้งน่ะนิ่งๆ ไว้ก่อนจะดีกว่า” โฆษกตลาดล่าง ทิ้งท้าย

ติดตามกันให้ดี เรื่องนี้ยังมีดรามาอีกเยอะ!!


กำลังโหลดความคิดเห็น