มท. สนองนโยบาย "เศรษฐา 2" สั่งแก้ระเบียบ TK Park 26 จังหวัด หารายได้บริหารจัดการองค์กรตัวเอง หลัง "นายกฯลงพื้นที่พะเยา" พบได้แค่งบอุดหนุนจากท้องถิ่น ผ่านข้อบัญญัติงบประจำปี รวมถึงรายได้จากการจัดเก็บค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมฯ จ่อหาไฟเขียวหารายได้จากการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ฝึกอาชีพ-สินค้าโอทอป
วันนี้ (7 พ.ค.2567) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปรับปรุงแก้ไข กฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมให้ "อุทยานการเรียนรู้" (TK Park) ทุกแห่ง ที่อยู่ในรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
สามารถบริหารจัดการ และสามารถดำเนินภารกิจต่าง ๆ ในกรอบหน้าที่ และอำนาจของตนได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เช่น การห้ามจำหน่ายสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จากการฝึกอาชีพ การไม่เก็บค่าสมาชิกห้องสมุด และค่าปรับกรณีคืนหนังสือล่าช้า ในบางพื้นที่ เป็นต้น
โดย คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการตามมติครม.ที่เกี่ยวข้อง หลังจากนายกฯ ลงพื้นที่เยี่ยมชมนิทรรศการและผลิตภัณฑ์ชุมชน ณ อุทยานการเรียนรู้พะเยา เมื่อ 18 มี.ค.
แต่พบว่า ในส่วนของการหารายได้ เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุง และพัฒนาอุทยานการเรียนรู้พะเยา ยังมีช้อจำกัดในเรื่องของกฎระเบียบต่าง ๆ หลายประการ"
ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย จะเป็นเจ้าภาพ หารือถึงกฎระเบียบต่าง ๆ โดยเฉพาะบันทึกหลักการและเหตุผล ประกอบข้อบัญญัติของ อปท. ว่าด้วยการ "จัดเก็บค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ จากการใช้บริการ" ของ อปท.แต่ละพื้นที่
หรือ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการให้ อปท. ออกข้อบัญญัติเพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้ประโยชน์จากบริหารสาธารณะ ของอปท. พ.ศ. 2541 โดยเป็นลักษณะประเภทโครงสร้างพื้นฐานะมีลักษณะเป็นอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม พบว่า ท้องถิ่นที่มีศูนย์การเรียนรู้ หรือ อุทยานการเรียนรู้ ในปัจจุบัน 26 แห่ง มีการกำหนด ข้อบัญญัติของ อปท. ว่าด้วยการ "จัดเก็บค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ จากการใช้บริการ" เช่น
อุทยานการเรียนรู้ปัตตานี ที่รับผิดชอบ โดย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ TK park และเทศบาลเมืองปัตตานี
มีอัตรา ค่าสมัครสมาชิก : อายุไม่เกิน 18 ปี 200 บาท อายุ 18 ปี – 70 ปี 300 บาท บัตร One day pass 20 บาท/วัน ค่ามัดจำบัตร 10 บาท
ผู้นำทางศาสนา (แสดงบัตร) ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส (มีบัตรจากทางโรงเรียน) และอายุ 70 ปีขึ้นไป ยกเว้นค่าสมาชิก หรือ ชาวต่างชาติ (วีซ่าระยะยาว มีใบอนุญาตทำงาน) 400 บาท
ส่วนการต่ออายุสมาชิก : อายุไม่เกิน 18 ปี 170 บาท อายุ 18 ปี – 70 ปี 250 บาท
ค่าประกันหนังสือ : หนังสือภาษาไทย 200 บาท หนังสือภาษาต่างประเทศ 400 บาท
ค่าปรับหนังสือเกินกำหนด หนังสือภาษาไทย 10 บาท / เล่ม / วัน หนังสือภาษาต่างประเทศ 30 บาท / เล่ม / วัน
กรณีหนังสือหาย / ชำรุด คิดค่าปรับตามราคาหนังสือ และค่าดำเนินการ 100 บาท / เล่ม
ส่วนการให้บริการอื่นๆ : สำหรับสมาชิก (TK MEMBER) ใช้งานอินเทอร์เน็ต Wi-Fi 1 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงต่อไป 5 บาท/ชั่วโมง สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ใช้งานอินเทอร์เน็ต (Internet) / Wi-Fi ชั่วโมงละ 10 บาท
ขณะที่ อุทยานการเรียนรู้และศูนย์การเรียนรู้ไอซีที เทศบาลนครพิษณุโลก กำหนดค่าสมัครสมาชิก : อายุต่ำกว่า 18 ปี 50 บาท อายุ 18 ปีขึ้นไป 100 บาท
กรณีไม่ได้เป็นสมาชิก เสียค่าบำรุงรายวัน อายุต่ำกว่า 18 ปี 5 บาท อายุ 18 ปีขึ้นไป 10 บาท
ค่าปรับหนังสือเกินกำหนด หนังสือภาษาไทย 5 บาท / เล่ม / วัน หนังสือภาษาต่างประเทศ 5 บาท / เล่ม / วัน กรณีหนังสือหาย / ชำรุด คิดค่าปรับ 2 เท่าของราคาหนังสือ การให้บริการอื่นๆ: อินเทอร์เน็ต และ WIFI ชั่วโมงละ 10 บาท
สำหรับ TK Park ใน 26 จังหวัด อยู่ในรับผิดชอบของ อบจ.สมุทรสาคร เทศบาลเมืองอ่างทอง เทศบาลนครพิษณุโลก อบจ.เชียงราย อบจ.พะเยา เทศบาลเมืองพะเยา เทศบาลนครลำปาง
เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เทศบาลนครอุดรธานี อบจ.ศรีสะเกษ อบจ.ร้อยเอ็ด เทศบาลนครนครราชสีมา อบจ.ระยอง เทศบาลนครระยอง อบจ.ตราด เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา
เทศบาลนครยะลา เทศบาลเมืองนราธิวาส เทศบาลเมืองสตูล เทศบาลนครหาดใหญ่ เทศบาลเมืองบ้านพรุ เทศบาลเมืองปัตตานี เทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช และ อบจ.กระบี่
สำหรับ TK Park ใน 26 จังหวัด ส่วนใหญ่ใช้งบประมาณของ อปท. ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2550 เช่น TK Park สงขลา ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท และได้รับจัดสรรจาก สำนักงาน ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 25 ล้านบาท เป็นต้น
ยังพบว่า อปท.ทุกแห่ง จัดสรรงบประมาณประจำปี ผ่านบัญญัติงบประมาณ มีหลักการ ได้แก้ ค่าจ้างเหมาบุคคลภายนอกปฎิบัติงาน ค่าสาธารณูปโภค น้ำประปาไฟฟ้า ค่าอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และค่าซ่อมแซมสถานที่วัสดุ
"ขณะที่บางแห่ง เช่น TK Park ของเทศบาลนครยะลา มีการจัดงานหารายได้ ระดมเงินบริจาคเข้ากองทุน อุทิศให้ TK Park ของยะลา เป็นต้น".