xs
xsm
sm
md
lg

พท.จับมือ“บ้านใหญ่” แผนสกัดก้าวไกล!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร - สุวัจน์ ลิปตพัลลภ - ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
เมืองไทย 360 องศา

เริ่มเห็นสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการช่วงชิงอำนาจทางการเมืองในวันนี้ ที่จะส่งผลไปถึงอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะการแข่งขันทางการเมืองที่บรรยากาศเริ่มเข้มข้น รวมทั้งได้เห็นความเคลื่อนไหวจากพรรคการเมืองที่เป็นสองพรรคหลักอย่างเพื่อไทย และก้าวไกล ที่ออกตัวกันแล้ว

เริ่มจากการเมืองสนามท้องถิ่นอย่างการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายกอบจ. ซึ่งจะมีการเลือกตั้งชุดใหญ่ในราวต้นปีหน้า และมีการทยอยเปิดตัวกันไปหลายจังหวัด โดยพรรคก้าวไกลก่อนหน้านี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพร้อมคณะ ส.ส.ของพรรค ก็มีการเดินสายเคลื่อนไหวเปิดตัวไปหลายจังหวัดแล้ว ซึ่งตามสไตล์ก็คือ จะเน้นไปที่คนหนุ่มสาว หรือนักธุรกิจรุ่นใหม่ ในพื้นที่ แม้ว่าก่อนหน้านั้นมีการเลือกตั้งนายกอบจ. ที่เกิดขึ้นในบางจังหวัด เช่นที่จังหวัดเลย และจังหวัดกาญจนบุรี พรรคก้าวไกลจะพ่ายแพ้ขาดลอยก็ตาม โดยแพ้ให้กับผู้สมัครที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน แต่หากมองในบรรยากาศการแข่งขันแล้ว ถือว่าทำให้มีความคึกคักและตื่นตัวกันมากขึ้น

อีกทั้งที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลยังมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอีกหลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และกำลังจะเปิดตัวที่ จังหวัดลำพูน และอุดรธานี เป็นต้น นอกจากนั้น พวกเขายังใช้วิธีเปิดรับสมัครผู้ประสงค์ลงสมัครในนามพรรคอีกด้วย และระหว่างนี้จะเห็นการเคลื่อนไหวของบรรดาแกนนำพรรค และกลุ่มการเมืองที่เชื่อมโยงกัน เช่น คณะก้าวหน้า นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่กำลังรณรงค์ทางการเมืองอย่างเข้มข้นในหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องผู้สมัคร สว. และแน่นอนว่าต้องมีเรื่องผู้สมัครนายกอบจ. อีกหลายจังหวัด

ขณะที่พรรคเพื่อไทยเวลานี้ก็กำลังออกตัวแล้วเช่นกัน โดยเพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นว่าที่ผู้สมัครในภาคเหนือและภาคอีสานก่อน มีรายชื่อที่น่าสนใจ ได้แก่ จังหวัดลำพูน อนุสรณ์ วงศ์วรรณ ปัจจุบัน เป็นนายก อบจ.ลำพูน จังหวัดลำปาง ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ปัจจุบันเป็นนายก อบจ.ลำปาง จังหวัดพะเยา อัครา พรหมเผ่า ปัจจุบันเป็นนายก อบจ.พะเยา จังหวัดแพร่ อนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่

จังหวัดสุโขทัย มนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย, จังหวัดนครพนม อนุชิต หงษาดี นายก อบต.โพนสวรรค์ จังหวัดมหาสารคาม พลพัฒน์ จรัสเสถียร น้องชายของ “โจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จังหวัดยโสธร วิเชียร สมวงศ์ ปัจจุบันเป็นนายก อบจ.ยโสธร จังหวัดอุดรธานี ศราวุธ เพชรพนมพร อดีต สส.อุดรธานีหลายสมัย พรรคเพื่อไทย ลูกเขยของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ผบ.ตร.และอดีตรองนายกฯ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

น่าสังเกตว่า การเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.รอบแรกของเพื่อไทย จะมีนายก อบจ.ในปัจจุบันลงในนามพรรคเพื่อไทยเบื้องต้นแล้ว 6 คน

อีกทั้งหากพิจารณากันไปในแต่ละจังหวัด จะเห็นว่าแทบทั้งหมดล้วนมีลักษณะเป็น “บ้านใหญ่” เป็นตระกูลการเมืองในแต่ละจังหวัด นั่นคือเชื่อมโยงกับการการเป็นส.ส.ในพื้นที่ มีเครือญาติ พ่อ ลูก หรือน้องชาย หรือภรรยา ต่างหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันลงสมัครสส.และการเมืองท้องถิ่น และมักจะผูกขาดกันมาตลอด

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน จะเห็นว่ามีหลายจังหวัดที่มีลักษณะ “บ้านใหญ่” ดังกล่าว เช่น ตระกูล “วงศ์วรรณ” และ “โล่ห์สุนทร” รวมถึง “พรหมเผ่า” หรือแม้แต่ “จรัสเสถียร” ที่มหาสารคาม เป็นต้น

จากร่องรอยดังกล่าว ทำให้มาวิเคราะห์กันต่อไปได้ไม่ยากว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่เริ่มจากการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศในต้นปีหน้า หรือราวเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงการเลือกตั้ง ส.ส.คราวต่อไป น่าจะออกมาในลักษณะ “จับมือกับบ้านใหญ่” ในหลายจังหวัด เพื่อหวังชัยชนะ และชิงพื้นที่กลับคืนมา โดยเฉพาะในหลายจังหวัดที่ต้องเสียให้กับก้าวไกล

อย่างไรก็ดี ลักษณะของการจับมือกันดังกล่าวที่ต้องจับตากันก็คือ เป็นการจับมือประสานงานทั้ง “บ้านใหญ่ต่างพรรค” ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณชัดเจนหลายจังหวัด เช่นที่จังหวัดพะเยา พื้นที่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ล่าสุดมีการเปิดตัวน้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส ลงสมัครนายกอบจ.พะเยา ไปแล้ว จนมองกันว่า ในการเลือกตั้งใหญ่คราวหน้า รอ.ธรรมนัส จะย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า

อีกพื้นที่หนึ่งที่น่าสนใจก็คือ จังหวัดนครราชสีมา หากจับสังเกตที่ จังหวัดภูเก็ต ระหว่าง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ลงพื้นที่อย่างใกล้ชิดร่วมกับ นายทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย ทำให้มองกันว่า อาจจะมีการควบรวมพรรคกันก็เป็นไปได้สูง และตามรายงานบอกว่า อีกไม่กี่วัน นายทักษิณ จะไปเยือนพื้นที่แห่งนี้

เพราะหากโฟกัสกันเฉพาะพื้นที่โคราช ถือว่าพรรคเพื่อไทย ยังต้องเจอศึกหนักกับพรรคก้าวไกล ที่เบียดแทรกเข้ามาได้ถึงสามเขตเลือกตั้ง โดยพรรคเพื่อไทยแม้ว่าจะชนะเข้ามาถึง 12 ที่นั่ง แต่อีกหลายเขตถือว่าพรรคก้าวไกลจี้ติดแบบหายใจรดต้นคอ ขณะที่พรรคชาติพัฒนา ที่ถือว่าโคราชเป็นเมืองหลวง ถึงกับสูญพันธุ์ ถือว่าเสียหาย

หากต้องการกลับมาอีกครั้งงานนี้คงต้องจับมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อเป้าหมายแบบวินวิน โดยอาจจับมือเป็นพันธมิตร หรือ “ควบรวม” พรรคเพื่อสกัดพรรคก้าวไกล

สัญญาณดังกล่าว เริ่มปรากฏชัดตั้งแต่การเลือกตั้งท้องถิ่น คือ นายกอบจ.ที่กำลังจะเริ่มขึ้นไม่นาน เพื่อสร้างฐานปูพื้นสำหรับการเลือกตั้งใหญ่คราวหน้า ซึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือ การจับมือเป็นพันธมิตรกับ “บ้านใหญ่” ที่ยังหวังผลได้ค่อนข้างชัวร์สำหรับการเลือกตั้งทุกระดับ

ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากแบ็กกราวด์ทางการเมือง “วิธีการควบรวม” การจัดการเรื่อง “มุ้ง” ต่างๆ ในพรรคล้วนเป็นวิธีการที่ นายทักษิณ ชินวัตร มักนำมาใช้สำหรับการบริหารอำนาจ โดยมีการแบ่งผลประโยชน์ทางการเมือง ดังนั้น เมื่อเป้าหมายเดียวกัน การจับมือกับ “บ้านใหญ่” ทั่วประเทศในพื้นที่ที่ยังไม่มั่นคงก็เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเป้าหมายรวมกันสกัดกั้นคู่แข่งคือก้าวไกล นั่นเอง !!


กำลังโหลดความคิดเห็น