"นิวัติไชย" อ้าง ป.ป.ช.กระทบหลัง "โจ๊ก" ร้องกรรมการวิ่งเต้นแลกตำแหน่ง เผยคดีเว็บพนัน-ร้องตั้ง "ต่อศักดิ์" อยูระหว่างตรวจสอบ

เลขาฯ ป.ป.ช.อ้างได้รับผลกระทบ หลัง "โจ๊ก" กล่าวหากรรมการวิ่งเต้นแลกตำแหน่ง เผยคดีเว็บพนัน-ร้องตั้ง "ต่อศักดิ์"ไม่ชอบอยูระหว่างตรวจสอบ ส่วนปมร้อง 200 พนง.สอบสวนกระทำมิชอบไม่จำเป็นต้องเรียกสอบทั้งหมด เว้นแต่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา

วันนี้ (3 พ.ค.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาเรื่องร้องเรียนคดีเว็บพนัน BNK Master ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่พนักงานสอบสวนได้ยื่นสำนวนต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนมาแล้ว

ส่วนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยื่นเอกสารคัดค้านหนึ่งในคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย กล่าวว่าต้องแยกออกเป็นสองส่วน เรื่องของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. แต่เป็นเรื่องของผู้ที่มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน ที่จะต้องดําเนินการ แต่ที่มีการยื่นคัดค้านไม่ให้กรรมการป.ป.ช.คนดังกล่าวมาเข้าร่วมพิจารณาคดีนี้ คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้พิจารณาคดีนี้ แม้มีสำนวนเข้ามา ก็ต้องเข้าไปดูว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาจะเข้าร่วมพิจารณาหรือไม่ ยืนยันว่าเรื่องนี้กำลังอยู่ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพราะผู้ถูกกล่าวหา ก็ไม่ได้รับผิดชอบในสำนักงานที่ดูแลคดีนี้ เพราะฉะนั้นคณะกรรมการจะเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต่อเมื่อมีการเสนอสำนวนในการตรวจสอบ ว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูลและไต่สวนก็ต้องเข้าคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัยว่าจะชี้มูลหรือไม่ ก็ค่อยไปว่ากันอีกทีในเรื่องกระบวนการคัดค้าน

อย่างไรก็ตาม หากมีการกล่าวหาหนึ่งในคณะกรรมการฯ ก็ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเหตุผล ว่ามีข้อเท็จจริงตามหนังสือว่าอย่างไร จากนั้นคณะกรรมการฯ จะวินิจฉัย ว่าเข้าเหตุคัดค้านหรือไม่ หากเข้าเหตุผู้ถูกกล่าวหาก็อาจถอนตัว แต่หากไม่ก็สามารถร่วมพิจารณาได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการที่ถูกกล่าวหาแล้วหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่าน่าจะยัง เพราะเรื่องอยู่ในขั้นตอนการเสนอขึ้นไปของสำนักงาน เมื่อเรื่องยังไม่ถึงก็ยังชี้แจงไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการของ ป.ป.ช.ก็เคยถูกกล่าวหาลักษณะนี้เช่นกัน โดยเฉพาะสำนวนที่มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวน รวมถึงตนที่เคยเป็นคณะอนุกรรมการไต่สวน หรือคณะกรรมการไต่สวนปัจจุบัน ก็เคยถูกยื่นคัดค้าน ซึ่งเป็นเหตุคัดค้านตามข้อกฎหมาย ก็ต้องมาวินิจฉัยว่าเข้าเหตุหรือไม่

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมากล่าวหาว่าการแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการวิ่งเข้าหานักการเมืองระดับสูง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ถึงความน่าเชื่อถือของ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย กล่าวว่า ไม่รู้จะชี้แจงอย่างไร เพราะตนไม่ใช่หนึ่งในคณะกรรมการฯ และไม่ได้วิ่งเข้าหาใคร ทั้งนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะการกล่าวหาทํากันง่าย แต่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และพูดคุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตนก็ตอบไม่ได้ แต่ถามว่ากระทบการทํางานของ ป.ป.ช.หรือไม่ ก็ยอมรับว่า ได้รับผลกระทบ

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ร้องชุดพนักงานสอบสวนของตํารวจ 200 นาย ในการทำคดีเว็บพนัน BNK Master มีความคืบหน้าอย่างไร นายนิวัติไชย กล่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เพิ่งร้องเข้ามา ก็ขอโอกาสให้ ป.ป.ช. ทำงาน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจรับ ยังไม่เข้าสู่ชั้นตรวจสอบ ว่าอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.หรือไม่

เมื่อถามว่า หาก ป.ป.ช.รับสํานวน จะเรียกชุดพนักงานสอบสวน 200 นาย มาชี้แจงหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า หากไม่มีความจำเป็น ก็จะไม่เชิญผู้ถูกร้องเข้ามา เว้นแต่เห็นว่ามีข้อเท็จจริงที่จำเป็นต้องเชิญมา เพราะไม่สามารถเอาข้อมูลจากคนอื่นได้ แต่หากมีข้อกฎหมาย หรือข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเชิญ เว้นแต่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา ก็ต้องเชิญเข้ามา

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ เพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไล่ร้องเรียนหน่วยงานที่ตรวจสอบ นายนิวัติไชย กล่าวว่า จริงๆ มีผลกระทบทั้งหมด แม้กระทั้ง ป.ป.ช. ก็ถือเป็นตำบลกระสุนตก

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องให้มีการตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีเซ็นคำสั่งให้กลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนจะมีการถอนเรื่องดังกล่าวออกไป นายนิวัติไชย กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และการขอข้อมูลจากตำรวจ และได้เชิญบุคคลที่อยู่ในที่ประชุม รวมถึงฝ่ายเลขาฯ มาให้ข้อมูลแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. เคยร้องนายกรัฐมนตรีต่อ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. นายนิวัติไชย เผยว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบและยื่นคําชี้แจง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด หลังจากที่เคยมีการยื่นคําร้องมาแล้ว แต่คณะกรรมการฯ มีมติให้ไปตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งกรณีคําร้องการแต่งตั้งโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ตํารวจ ก็ต้องดูข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงในการประชุม ว่าเป็นอย่างไร มีเอกสารหลักฐานอะไรบ้างที่ประกอบการพิจารณาของที่ประชุม ก.ตร. ส่วนเรื่องระยะเวลา คิดว่าคงไม่ช้า ยืนยันว่าไม่ได้ช้า แต่กำลังรวบรวมข้อมูลบางประเด็น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย