xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.เสวนาคดีทรัพยากรธรรมชาติ ที่ภูเก็ต หวังบูรณาการทุกหน่วยต้านทุจริต ทั่วไทยมี 1,513 เรื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ป.ป.ช.บุกภูเก็ต จัดเสวนาคดีทรัพยากรธรรมชาติ หวังบูรณาการทุกหน่วยงานร่วมต้านทุจริตเปิดสถิติทั่วประเทศมี 1,513 เรื่อง เฉพาะภูเก็ตพ่อเมืองถูกร้องออกเอกสารเสร็จไม่ชอบนับสิบเรื่อง

วันนี้ (2พ.ค.) ที่รร.รอยัล ภูเก็ตสำนักงาน ป.ป.ช. จัดกิจกรรม เสวนา “สถิติคดีและเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 8” และ “สถิติคดีทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเข้าหาดสาธารณะ” โดยมีนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค8 นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต นายมงคล ศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเสวนา ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางคดี และการการตรวจสอบ คดีทรัพยากรทางธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เและมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการภายในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมฟังเสวนา
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่าสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นองค์กรหลัก ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศ แต่การที่สำนักงาน ป.ป.ช. จะดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ เพียงหน่วยงานเดียวคงไม่ประสบผลสำเร็จได้ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่ต้องมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะงานสื่อสารกับสื่อมวลชนทุกแขนง รวมทั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้าน การทุจริต หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ซึ่งมีอิทธิพลในการขยายผลการรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่อต้าน การทุจริตไปสู่สังคม ทั้งด้านความคิด ความเชื่อ ด้วยการให้บุคคลในกลุ่มนี้มีองค์ความรู้เรื่องการทุจริต และเสริมสร้างบทบาทการขับเคลื่อนงานสื่อสาร สร้างกระแสสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต รู้จักแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตน และส่วนรวม การไม่ให้-ไม่รับสินบน และกล้าชี้เบาะแสเมื่อพบเห็นการทุจริต และเกิดความเชื่อมั่นให้ความไว้วางใจ ต่อระบบการรับเรื่องร้องเรียน การแจ้งเบาะแสของสำนักงาน ป.ป.ช. ว่ามีการปกป้องผู้ร้องจริงจัง สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้

ด้าน นายมงคล ศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผย สถิติเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีจำนวน 15 เรื่อง แบ่งออกเป็น การบุกรุกพื้นที่สาธารณะ 14 เรื่อง และกรณีเก็บค่าผ่านทางเข้าสถานที่สาธารณะอีก 1 เรื่อง

ส่วนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศที่อยู่ระหว่างดำเนินการปี 2567 ทั่วประเทศมี 1,513 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องไต่สวนข้อเท็จจริง 471 เรื่อง โดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต 30 เรื่อง และอยู่ระหว่างตรวจสอบเบื้องต้น 142 เรื่อง โดยคดีเกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต 28 เรื่อง

ขณะที่คดีที่ได้รับความสนใจในปี 2567 ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับการบุกรุกครอบครองป่าและที่ดินของรัฐ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารและออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม คดีทุจริตเกี่ยวกับการสงวนคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและคดีเกี่ยวกับทรัพยากรแร่ โดยคดีที่จังหวัดภูเก็ตส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นกรณีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนจำนวน 13 เรื่อง เช่นเรื่องร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกับพวกรวม 18 คนออกโฉนดที่ดินทับในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลา ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้จังหวัดภูเก็ตโดยไม่ชอบ หรือ ส.ค. 1 บวม และคณะกรรมการตรวจพิสูจน์ที่ดินรับรองว่าที่ดินปลูกพืชผลไม้พื้นเมืองเป็นเท็จ

กรณีรองผู้ว่าราชการจังหวัดกับพวกรวม 17 คนออกโฉนดที่ดินจำนวน 1 แปลงในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา กรณีรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตออกโฉนดที่ดินจำนวน 2 แปลงบนหาด freedom ตำบลกะรน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถออกโฉนดได้และมีการเรียกรับเงินในการดำเนินการ จำนวน 120 ล้านบาท และกรณีเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลางกับพวกออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือน.ส. 3 ก มีเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากหลักฐานเดิมทับหาดทรายสาธารณะประโยชน์หรือหาดยามู
นอกจากนี้ยังมีคดีที่เกิดขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีโดยมีการร้องกรมธนารักษ์กับพวกนำที่ดินคลองสาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกันบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติเกาะสมุย มาขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุโดยมิชอบและอนุญาตให้ก่อสร้างสนามบิน และปรับปรุงพื้นที่จนทำให้คลองสาธารณะแคบลงและตื้นขึ้น

ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา มีเรื่องร้องเรียนเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมาสาขาสีคิ้วกับพวกนำที่ดินส.ป.ก.รังวัดรวมเข้าไปกับที่ดินตามโฉนด ตำบลลาดบัวขาว จำนวน 2 แปลง ของบริษัทเอกชน แล้วไปรังวัดใหม่ปรากฎมีที่ดินเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมแปลวแรกเพิ่มกว่า 15 ไร่และแปลงที่สอง เพิ่มขึ้น 3 ไร่ และกรณีการบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ปากเขานกยูงและป่าเขาเนินอ่าวในเขตที่ดินส.ป.ก. อำเภอปากช่องเพื่อไปทำสนามทดสอบรถยนต์ และสนามกอล์ฟ


กำลังโหลดความคิดเห็น