ป.ป.ช.ลุยภูเก็ต ชี้ เป็นพื้นที่ทองคำ คดีร้องเรียนเรื่องทรัพยากรเยอะ แก้ยาก เหตุเขตที่ดินไม่ชัดเจน แถมมีต่างชาติพยายามครอบครอง ด้าน ผวจ.รับปัญหาซับซ้อน ส่วนหนึ่งจากการเปิดช่องต่างชาติครอบครองที่ดินได้ เร่งรณรงค์เป็นเมืองสะอาด ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวและคนภูเก็ต
วันนี้ (2 พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. จัดเสวนาประเด็น “สถิติคดีและเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 8” และ “สถิติคดีทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเข้าหาสาธารณะ” นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวเปิดงานว่า จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่ทองคำ ทำให้มีปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับคดีทรัพยากรธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางคดี เกิดขึ้นมา 10-30 ปี ป.ป.ช. พยายามแก้ไขปัญหาสะสมอย่างต่อเนื่อง ต้องมีการพิสูจน์สิทธิ์ของประชาชนที่มีการครอบครองอยู่เดิมก่อน ว่า ครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากเป็นพื้นที่แนวเขตอุทยานแนวเขตป่าไม้ หรือพื้นที่ ส.ป.ก. หรือแม้เเต่ที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ยังไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน ก็ก่อให้เกิดปัญหาในการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ มีการออกเอกสารสิทธิอันเป็นเท็จ นำไปสร้างมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งมีชาวต่างชาติ เข้ามาจับจอง พยายามครอบครอง ทำให้เกิดปัญหาในพื้นที่ วันนี้จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เข้ามาช่วยกันคลี่คลาย จึงได้เชิญกลุ่ม ”strong ภูเก็ต“ มาร่วมด้วย โดย ป.ป.ช. ไม่เน้นงานปราบปราม เน้นป้องกัน ไม่ให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น หรือไปไล่จับผิดภาครัฐ-เอกชน ที่มีส่วนในการกระทำผิด เอาตัวไปลงโทษ เพราะการไปไล่จับผิดคนไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง แต่ต้องทำอย่างไรไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำซาก ซึ่งเราต้องร่วมมือกัน ต้องไม่ทำการทุจริต และไม่ทนกับการทุจริต และต้องไม่เพิกเฉยด้วย ในวันนี้ภาคประชาชนต้องมีความเข้มแข็ง ต้องไม่กลัว
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พยายามสร้างความโปร่งใสในข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลข่าว ซึ่งตัว พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารแม้จะไม่มีความเข้มแข็ง แต่ก็มีกระบวนการกลไก ที่วันนี้ ป.ป.ช. เสริมเรื่อง ITA หรือ การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส การดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ที่ใช้กับหน่วยงานรัฐ 8,000 กว่าแห่ง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบร่วมกันได้ ทั้งนี้ จึงต้องมีการบูรณาการจากทุกภาคส่วน พร้อมขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่มีความเข้มแข็งทั้งๆที่เพิ่งย้ายมาประจำการ
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า การนำเสนอข้อเท็จจริงของสื่อเป็นสิ่งสำคัญ มีคดีต่างๆ เกิดขึ้น หลายครั้งที่ ป.ป.ช. เป็นหมู่บ้านก็กระสุนตก แต่ไม่เป็นไร เราไม่ได้ตอบโต้ เพียงเเต่ไปดูว่าข้อเท็จจริงต่างๆที่เกิดขึ้นจะแก้ไขอย่างไร และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นเรื่องการขับเคลื่อน เรื่องกระแสสังคม ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี หากไม่มีข้อมูลข่าวสารออกมา ผิดถูกไม่ว่ากัน แต่หากไม่มีการนำเสนอ สังคมก็จะไม่ตื่นตัว
ด้าน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลก ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 11.6 ล้านคน โดยก่อนโควิดในปี 2562 มีนักท่องเที่ยว 14 ล้านกว่าคน ปีนี้คาดว่าน่าจะมากกว่า 14 ล้านคน ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 380,000 ล้านบาท สามารถจัดเก็บภาษี 110,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภูเก็ตมีประชากร 420,000 คน แต่มีประชากรที่เป็นคนต่างจังหวัดมาอาศัยอยู่ประมาณ 550,000 คน และนักท่องเที่ยวอีก 400,000 คน ทำให้มีประชากรประมาณ 1.2 ล้าน-1.5 ล้านคน โดยตั้งแต่ช่วงปลายปีจนถึงปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากที่สุดคือนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ชาวจีน และอินเดีย มีเที่ยวบิน 200-300 เที่ยวต่อวัน ยังไม่รวมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางเรือสำราญอีกวันละประมาณ 2-3 เที่ยว ซึ่งยอมรับว่าเมื่อมีคนเข้ามาเยอะ ก็เกิดปัญหาขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งศูนย์พิเศษ เพื่อติดตามชาวต่างชาติที่เข้ามาทำผิดกฎหมาย ขณะนี้เพิกถอนวีซ่าไปแล้วกว่า 100 ราย แต่หากไม่เข้าเงื่อนไขที่กระทำผิดร้ายแรงที่ต้องเพิกถอนวิซ่าก็มีอนุกรรมการ คอยติดตามพฤติกรรม เช่น กรณี นายเดวิด ที่ทำร้ายร่างกายหมอ คดียังไม่ถึงกับต้องถอนวีซ่าแต่พฤติกรรมของนายเดวิดที่สะสมมาหลายอย่างพบว่าไม่ดี จึงเสนอแนะไปยัง ตม.ว่าพฤติกรรมเช่นนี้ก่อให้เกิดความวุ่นวายเดือดร้อนในบ้านเมืองควรถอนวีซ่า โดยคดีทำร้ายขณะนี้อยู่ในชั้นศาล ขณะที่ปัญหาที่เกิดขึ้นนััน ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเพราะกฎหมายช่อง เปิดโอกาสให้ต่างชาติ ต่างด้าวซื้อที่ดิน บ้านเรือน รวมถึงคอนโด ได้ 1 ยูนิต เป็นช่องที่ทำให้เดือดร้อนพอสมควร ไม่ใช่เฉพาะภูเก็ตรวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งข้อกฎหมายดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานยาก เพราะชาวต่างชาติมีสิทธิซื้อ โดยจะเกิดขึ้นมากในช่วงที่เกิดปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศขายยาก อีกทั้งเปิดช่องให้เกิดปัญหาซื้อเกินเลยไปอีก ดังนั้นเมื่อมีชาวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ทุกภาคส่วนราชการรวมพลังตามให้ทัน เพราะมีหลากหลายพฤติกรรมโดยเฉพาะทางยุโรป เข้ามาแล้วปัญหามีความซับซ้อน
นอกจากนี้ ภูเก็ตเป็นเกาะ จึงมีหาดอยู่รอบเกาะ จึงเกิดปัญหาจำนวนมากแต่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง บางที่บางจุดอยู่ในการพิจารณาของศาล บางที่อยู่ระหว่างดำเนินการเป็นจำนวนมากและบางจุดสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ คิดว่าปัญหาภูเก็ตเป็นเรื่องซับซ้อน และสื่อมวลชนในท้องที่ทำงานได้ดีถือเป็นตาสับปะรดช่วยเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องฝรั่งเกเรมีทุกวัน ทุกรูปแบบ ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่พยายามรณรงค์ให้ภูเก็ตเป็นเมืองสะอาด เมืองปลอดภัย เมืองน่าอยู่สำหรับคนที่มาท่องเที่ยวและสำหรับคนภูเก็ตเอง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภูเก็ตเป็นสถานที่สำหรับคนมาเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป ซึ่งตนได้เสนอให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเขตปกครองพิเศษเช่นเดียวกับพัทยา เพราะสามารถด้านงบประมาณและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ รวมทั้งเห็นด้วยที่ ป.ป.ช. เน้นเรื่องการป้องกันการทุจริต เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองไม่เกิดความเสียหาย และคิดว่าพลังของประชาชนสื่อมวลชนรวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ช่วยเป็นหูเป็นตาได้อย่างดี เป็นสิ่งสำคัญ ในการป้องกันการทุจริตให้ลดน้อยลงจนหมดไปได้