นายกฯ เรียก “ธงทอง” ถกข้อกฎหมายแก้ปัญหาส่งออก-นำเข้าสินค้าด่านหนองคายเป็นระบบซิงเกิลวินโดว์ส เริ่มดำเนินการให้ได้ 1 ก.ย.นี้ หวังลดขั้นตอนการข้ามแดน
วันนี้ (30 เม.ย.) นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าหารือกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า ได้รายงานความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหากฎระเบียบที่เป็นปัญหาต่อการประกอบธุรกิจในภาคเอกชน โดยเฉพาะบริเวณด่านสินค้าชายแดน ที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งมีการส่งออกสินค้าเข้าและออกจากไทยผ่านไปยัง สปป.ลาว ซึ่งเชื่อมไปยังประเทศจีนด้วย โดยสินค้าที่ผ่านด่านจังหวัดหนองคาย ถือว่ามีปริมาณมาก และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5 กระทรวง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากสินค้ามีความหลายหลาย จึงจำเป็นต้องใช้หลายหน่วยงาน ซึ่งการทำงานประสานงานจึงจำเป็นต้องใช้ซิงเกิลวินโดว์ส คือ มีหน้าต่างเดียว สำหรับที่จะเข้ามาติดต่อประสานงาน หรือขออนุมัติ ที่ผ่านมา ได้มีความพยายามที่จะทำให้เกิดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี มีนโยบายที่อยากจะเร่งรัดและกำชับในเรื่องนี้ โดยอยากทำให้ได้ผลจริงในช่วงเวลา 2-3 เดือน หลังจากนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องมีการประสานงานข้ามกระทรวง โดยอาจต้องมีการมอบอำนาจข้ามกระทรวง เพื่อจะทำงานร่วมกัน พร้อมจัดทำระบบออนไลน์ ซึ่งตนเองได้รายงานนายกรัฐมนตรี ว่า มีความคืบหน้าและมีแนวทางที่เป็นไปได้ โดยสัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรี จะเชิญรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 5 กระทรวงมาพูดคุยเรื่องนี้ โดยมีสำนักงาน กพร. ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางในการประสาน ร่วมกับกรมศุลากากร และกรมอื่นๆ จะได้เดินหน้า โดยนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายว่าจะขอให้เป็นซอฟต์โอเพนนิ่ง และปรับให้มีระบบมากยิ่งขึ้น ภายในวันที่ 1 กันยายนนี้ จากนั้นจะเปิดเต็มรูปแบบเพื่ออำนวยความสะดวกในวันที่ 1 ตุลาคม ถือเป็นการบ้านที่ตนเองต้องไปประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเองได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย และได้พูดคุยกับหอการค้าจังหวัดหนองคาย ถือว่าได้ตอบรับในเรื่องนี้ และเห็นด้วยที่จะมีการประสานงานข้ามกระทรวง ทบวง กรม เพื่อเป็นระบบภาพรวมของประเทศไทย
และตนเองจะไปดูภาพรวมของกฎหมาย ต้องมีการปรับปรุงข้อกฎหมายเล็กน้อย โดยเฉพาะเรื่องการมอบอำนาจ และการดำเนินการเรื่องแบบฟอร์ม ซึ่งน่าจะเร็วขึ้น เพราะสัปดาห์หน้า นายกรัฐมนตรี ได้เรียกรัฐมนตรีคุยในระดับนโยบายแล้ว จึงเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการตามที่ได้ตั้งไว้
ส่วนกรณีที่ตนเองโพสต์เรื่องผู้ใหญ่ในกระบวนการยุติธรรมบ่นมา นายธงทอง ชี้แจงว่า ถือเป็นเรื่องคนบ่นจู้จี้จุกจิก เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่พนักงาน ตำรวจ อัยการ ทนายความ และคนที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก โดยไม่ได้เฉพาะเจาะจงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่หวังว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นกระบวนการยุติธรรม ผู้ที่มีหน้าที่สามารถใช้ดุลพินิจ ใช้ความรับผิดชอบได้โดยอย่างถูกต้อง ไม่ต้องมากังวลกับข้อสั่งการ หรือการกระซิบกระซาบจากใคร ซึ่งเป็นความปรารถนาดีที่อยากจะให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน ส่วนจะเกี่ยวข้องว่ามีธงจากผู้ใหญ่หรือไม่ นายธงทอง ระบุว่า ไม่ได้เจาะจงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งเมื่อเป็นพนักงานสอบสวนต้องมีอิสระมากพอ โดยไม่มีผู้ใดมาสั่งการ โดยขอให้ทุกคนได้ทำงานในหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบ ขณะที่ สำนักงาน กพร. มี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดูแลอยู่งานต่างๆ จะสะดุดหรือไม่นั้น นายธงทอง กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเจ้าหน้าที่หรือแม้แต่ตนเองในฐานะเป็นกรรมการ กพร.ก็พร้อมที่จะทำงานกับผู้ที่รับผิดชอบทางนโยบาย เพราะงาน กพร.ถือเป็นงานด้านวิชาการ มีความเป็นเนื้อเดียวกันตั้งแต่ต้น และดำเนินงานในแนวทางนี้มาโดยตลอด
