“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” โผล่สมาคมปักษ์ใต้ เป็นประธานจัดงานสงกรานต์ ยันไม่ได้ใช้ ปชช.เป็นเกราะ โวไม่ได้เสียกำลังใจ กลับมาเมื่อไหร่จะช่วยแก้ปัญหาที่ยังค้าง ทั้งหนี้สิน ค้ามนุษย์ ยาเสพติด ยันแค่ให้ลูกน้องเก็บของ ไม่ได้สั่งให้ปลดป้าย ลบชื่อในเว็บไซต์ ลั่นใครทำอะไรไว้ต้องได้รับผล จ่อฟ้องศาลคดีทุจริตสัปดาห์หน้า แย้มขอดูรายละเอียดก่อนลงสมัคร ส.ว.
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.กาญจนาภิเษก เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานงานสืบสานประเพณีสงกรานต์รดน้ำขอพรผู้สูงอายุประจำปี 2567 โดยมีชาวปักษ์ใต้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,200 คน พร้อมประกาศหนุนให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขับเคลื่อนงานด้านสาธารณกุศลในฐานะนายกสมาคมฯ ต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับบุคลากรของสมาคมฯ ที่เป็นผู้สูงอายุที่เคยสร้างคุณงามความดีให้กับชาวใต้ และภูมิภาค ให้มีกำลังใจ ตนเองในฐานะนายกสมาคมฯ ก็ได้จัดให้มีกิจกรรมดังกล่าวขึ้นทุกปี เพื่อสืบสานประเพณีนั้นอันดีงามนี้ต่อไป และเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่ผ่านมา ตนเองไม่ได้กลับบ้านรวมถึงคณะกรรมการของสมาคมฯ ด้วย จึงได้ถือโอกาสรดน้ำขอพรผู้สูงอายุประจำปี 2567 ไปพร้อมกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขอกราบเรียนไปถึงพี่น้องชาวใต้ที่จะมาให้กำลังใจตนเองช่วงบ่ายวันนี้ว่าไม่ต้องกังวล และยังไม่ต้องมา เพราะวันนี้กำลังใจของตนนั้นเต็มเปี่ยม แค่ส่งเสียง มาหรือโพสต์ให้กำลังใจผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็พอ และตนเองไม่ได้เสียกำลังใจ ยังคงทำหน้าที่เพื่อประชาชนอยู่ แต่สิ่งที่เสียดายคือในห้วงเวลาที่ไม่ได้ทำหน้าที่ตำรวจ ยังมีงานอีกเยอะที่ประชาชนรอคอยอยู่ เช่น การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การค้ามนุษย์ และยาเสพติด ที่ตนเองเคยดูแลอยู่ เป็นต้น อยากฝากถึงประชาชนว่าขอให้รอ หากตนเองกลับมาได้เมื่อไหร่ จะรีบแก้ไขปัญหาต่างๆ ในทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีความกังวลหรือไม่ที่อาจจะถูกมองว่าใช้ประชาชนเป็นเกราะป้องกันตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ใช้ประชาชนเป็นเกราะป้องกัน ทุกวันนี้ไม่มีประชาชนคนไหนโง่ ขนาดตนเองไม่ได้ทำหน้าที่ราชการแล้ว ยังมีประชาชนเข้ามาร้องทุกข์กับตนเองอยู่เลย
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เองเป็นคนปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงานที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาตินั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเองได้สั่งลูกน้องไปเมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน ว่า ให้เก็บของส่วนตัวที่อยู่ในห้องทำงานออก และส่งคืนรถหลวงเพียงเท่านั้น เเต่ไม่ได้สั่งให้ปลดป้ายชื่อออก รวมถึงนำชื่อออกจากทำเนียบผู้บัญชาการในเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ซึ่งอย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลของการกระทำนั้นๆ โดยภายในสัปดาห์หน้า หรือสัปดาห์ต่อไปตนเองจะไปฟ้องศาลอาญาทุจริตฯ ตอนนี้กำลังดูในรายละเอียดอยู่
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจะลงเล่นการเมือง โดยลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เป็นความจริงหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่ากระเเสดังกล่าวเกิดจากกรณีที่มีประชาชนหลายส่วนอยากจะให้ตนเองลงทำหน้าที่ ส.ว. ซึ่งตนเองขอดูในรายละเอียดก่อน โดยอะไรๆ ที่สามารถช่วยประชาชนได้ก็จะทำ แต่ยืนยันตอนนี่ยังไม่ทิ้งหน้าที่ตำรวจ