xs
xsm
sm
md
lg

"โจ๊ก สายมู" ไปกันใหญ่ อวยตัวเองได้เป็น ผบ.ตร. มโนขบวนการหลอกเศรษฐา เพราะมีคนอยากได้ตำแหน่ง! ** “ลาบูบู้” กับนักการเมือง ห้อยโชว์แล้วถูกโฉลกไหมหนอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** "โจ๊ก สายมู" ไปกันใหญ่ อวยตัวเองได้เป็น ผบ.ตร. มโนขบวนการหลอกเศรษฐา เพราะมีคนอยากได้ตำแหน่ง!

น้ำบนใบบอน ใบเผือก ที่ว่ากลอกกลิ้งอาจจะไม่เท่าพฤติการณ์ของ “โจ๊ก สายมู” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่วันก่อนยื่นฟ้อง “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ต่อป.ป.ช. บรรยายข้อกล่าวหาเป็นฉากๆ นายกฯทำผิดอย่างนั้น อย่างนี้ แต่มาเมื่อวาน ก็ถอนฟ้องไปเรียบร้อย อ้างว่าตรวจพบแล้วว่า "เศรษฐา" ไม่มีเจตนา แต่ถูกใครบางคนหลอก

ถามว่าใครหนอใครช่างกล้าไปหลอกนายกฯ!

“โจ๊ก สายมู” ซึ่งตอนนี้เป็นพลเรือน มีเวลาว่างมากจึงคิดอะไรออกมาเหมือนบทละครน้ำเน่า เล่านิทาน โดยบอกใบ้ให้สังคมเดากันไปว่า คนที่ไปพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะมีคำสั่งให้ตัวเองออกจากราชการ ก็คนนั้นแหละ!

แถมยังบอกด้วยว่า ได้โทรศัพท์ไปกองวินัยฯ จึงรู้มีการเตรียมการล่วงหน้า 2 วัน และฟันธงแบบโจ๊กๆ ลงไปได้เลย คนที่ไปหลอกนายกฯ ด้วยหวังตำแหน่ง หวังจะเป็น ผบ.ตร. หลอกได้ทั้งนายกฯ และลูกน้อง ไม่อายพระบ้างหรือไง

ดังนั้น การที่เขาถูกให้ออกจากราชการ จึงเป็นขบวนการสกัดไม่ให้ตัวเองขึ้นเป็น ผบ.ตร.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ยังพูดหล่อๆ การออกมาครั้งนี้ถือเป็นการดับเครื่องชน ต้องการความยุติธรรมคืน เพื่อปกป้องตัวเอง เพราะหากไม่ปกป้องตัวเองไม่ได้ จะปกป้องประชาชนได้อย่างไร

และหากตำแหน่ง ผบ.ตร.ให้ประชาชนเป็นคนเลือก เชื่อเหลือเกินว่า ตัวเขา “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ต้องได้เป็น ผบ.ตร.อย่างแน่นอน เพราะมองว่า ตนเปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้าน คิดอะไรไม่ออกบอกโจ๊ก!!

พูดง่ายๆ มีเลือกตั้งตำแหน่งผบ.ตร.เมื่อไหร่ “โจ๊ก สายมู” มั่นใจตัวเองขั้นสุด มโนสุดยอด

นี่คือ “โจ๊ก” พูดให้ตัวเองหล่อ แต่กลับเผลอทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้สืบต่อทุกครั้ง แบบไม่รู้ตัว

เรื่องนี้ก็เช่นกัน “โจ๊ก” ก่อนนี้เป็นถึง รอง ผบ.ตร. จะไม่รู้ความ หรือรู้แค่แกล้งไม่รู้ นายกฯมีอำนาจเต็มที่ ทั้งในตำแหน่งนายกฯ และประธานก.ตร. แถมเรื่องตัวบทกฎหมาย ก็ผ่านการกลั่นกรองจากทีมที่ปรึกษามาอย่างดี ขณะที่ “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” รักษาการ ผบ.ตร. ที่เข้าพบนายกฯ ก็ต้องทำไปตามขั้นตอนที่ต้องทำ

เศรษฐา ทวีสิน
“ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” อ่านเกมผิด เล่นตุกติกหนีหมายเรียก จนพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบยื่นขอศาลออกหมายจับก็ชัดเจนด้วย “หลักฐาน” และประจักษ์พยานที่เชื่อได้ว่า โจ๊ก มีส่วนกระทำผิดตามข้อกล่าวหา บทแห่งความจริงนี้ก็เข้าใจได้ง่ายๆ แต่โจ๊ก พยายามต่อสู้ด้วยวิธีเฉไฉ ไม่ได้หาพยานหลักฐานมาหักล้าง

“โจ๊ก”หมกหมุ่น แต่ตำแหน่งผบ.ตร. ที่ทะเยอทะยานอยาก เอาแต่เล่านิทานการละคร เอ่ยถึงขบวนการสกัดตัวเองไม่ให้ขึ้นสู่ตำแหน่งผบ.ตร. ที่ตัวเองไปดูดวง-เดินสายมู บนบานมาแล้ว ว่าจะได้เป็นแหงๆ

แต่ความจริงที่ซุกซ่อนไว้ มันปิดไม่มิด ทั้งเส้นทางการเงิน การไปพัวพันเว็บพนัน และคดีฟอกเงินที่ตามมา เป็นตัวสะกด และสกัดขัดขวาง กลับไม่คิด

นอกจากเล่านิทาน สิ่งที่ติดเป็นนิสัยของ “โจ๊ก” แก้ไม่หาย คือ ชอบขู่ และฟ้อง กรณีฟ้องพนักงานสอบสวนคดีตัวเองนั่นไง

คนที่ถูก “โจ๊ก สายมู” ยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษมีตั้งแต่ “พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์” รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนพร้อมคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดจำนวนกว่า 200 คน

ขู่ฟ่อๆ ให้เจ้าหน้าที่ทำคดีเตรียมใจติดคุกได้เลย

แหม...ถูกออกจากราชการมาเป็นพลเรือนแล้วยังขู่ได้ขนาดนี้ หากพล.ต.อ.สรุเชษฐ์ อยู่ในราชการจะขนาดไหน นะครับนะ

ไม่น่าประหลาดใจ ที่ “พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์” รอง ผบ.ตร. พอฟังโจ๊กฟ้องแล้วจะเฉยๆ ไม่ได้กังวลอะไร

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
ต้องไม่ลืมว่า คดีการฟอกเงินจากเครือข่ายเว็บการพนัน BNK Master ที่มีหลักฐานเส้นทางเงินเชื่อมโยงไปถึง “โจ๊ก”และพวกนี้ “พล.ต.อ.ธนา” ในฐานะ รอง ผบ.ตร. ได้รับมอบจาก ผบ.ตร.ให้เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ก็ทำตามหน้าที่

“ พล.ต.อ.ธนา” ยืนยันไม่ได้มีเจตนาจะไปกลั่นแกล้ง ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา และยังขอให้อัยการมาร่วมสอบสวนด้วย 2 คน และมีเจ้าหน้าที่ ปปง.มาด้วย ทุกอย่างอยู่ในรูปของคณะกรรมการทั้งหมด ไม่มีใครสามารถกลั่นแกล้งใครได้

งานนี้คำพูดต้องย้อนมากล่าว หาก “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์”เชื่อว่า ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา ก็ควรจะหาหลักฐานมาต่อสู้ภายใต้กระบวนการยุติธรรม มัวแต่หลงคิดตลอดเวลาทุกนาทีว่า มีขบวนการดับดาว หลงคิดไปว่า ประชาชนรัก และเอ็นดู คิดอะไรไม่ออกบอกโจ๊ก สังคมเขาดูออกว่า โถนั่นมันเรื่อง “มโน” โจ๊ก สายมู มโนแล้วมโนเล่า ข้าคือ ผบ.ตร.

หรือนี่เพราะอากาศมันร้อนจัด จึงทำให้คนชอบ ปั้นน้ำเป็นตัว

กล่าวหาว่า ผู้อื่นกลั่นแกล้งตัวกระทำโดยไม่อายพระ อายเจ้า ถ้า “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” กราบพระทุกวัน ก็น่าจะรู้หลักของธรรมะดี..ทุกคนบนโลกนี้ล้วนเป็นไปตามกฎแห่งกรรม...ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

ถ้าเข้าใจหลักข้อนี้ ใครกันที่ต้องอายพระ อายเจ้า คงไม่ต้องบอก นะครับนะ

พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์
** “ลาบูบู้” กับนักการเมือง ห้อยโชว์แล้วถูกโฉลกไหมหนอ

กำลังกลายเป็นกระแสนิยมถล่มทลาย สำหรับเจ้าตุ๊กตา LABUBU หรือ “ลาบูบู้” ตุ๊กตาสไตล์เบบี้มอนสเตอร์น้อย ตาโต ปากกว้าง ฟันหยักซิกแซก ที่มาในชุดกระต่าย ขนปุกปุย ไม่มีหาง รวมๆ แล้วดูน่ารัก ไม่หวานแหว๋ว แต่ให้อารมณ์ออกไปทางซ่าส์ ก๋ากั่น ซะมากกว่า

ในเมืองไทย นักสะสมรู้จักเจ้า“ลาบูบู้” มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่กระแสที่พุ่งพรวดในตอนนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดขึ้นหลังจาก “ลิซ่า BLACKPINK” ถ่ายรูปคู่ พร้อมโพสต์ลงบนไอจีสตอรี่ส่วนตัวของเธอ เมื่อไม่นานมานี้ เป็น ลาบูบู้ คอลเลกชัน The Monsters Exciting Macaron ที่เป็นพวงกุญแจ

ชาดา ไทยเศรษฐ์
แน่นอนในตอนนี้ คอลเลกชัน “มาการอง” จึงฮิตสุด ราคาพุ่งพรวด เพราะบรรดาเหล่า ดารา เซเลบฯ เมืองไทย ต่างพากันสร้างเทรนด์ ลาบูบู้ ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวกันเป็นทิวแถว

พวกที่ไม่ใช่ เซเลบฯ ดารา ก็เอาบ้าง เรียกว่าของมันต้องมี แม้ตัวเองจะยังไม่มี แต่ถ้าเพื่อนมี ก็ขอยืมเอามาแขวน เอามาถ่ายรูปโพสต์โชว์กันหน่อย จะได้ไม่ตกเทรนด์ ในสังคมโซเชียลฯเขาเป็นกันอย่างนี้จริงๆ

ยิ่งบางคนที่ชอบ “สายมู “ถึงกับเอา “ลาบูบู้” ไปโยงกับเรื่องโชคลางเข้าให้อีก

ในบรรดานักการเมือง หลังจาก “ลิซ่า BLACKPINK” โพสต์โชว์แล้ว หลังจากนั้นไม่กี่วัน รัฐมนตรี “สายแฟ” อย่าง “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รมช.มหาดไทย ที่การแต่งตัวทั้งเสื้อผ้า หน้าผม โดดเด่น มีสไตล์ ยังแอบห้อย“ลาบูบู้” สี Soy Milk ไว้ที่กระเป๋า และมีคนถ่ายมาลง TikTok จนเป็นไวรัล

พวงเพ็ชร ชุนละเอียด
เมื่อมีคนถามถึงเรื่องนี้ “รัฐมนตรีชาดา” บอกว่า ... ลาบูบู้ มันน่ารักนะ มันไม่โกรธใคร ทำให้สังคมมีแง่บวกมากขึ้น ผมไม่ได้สะสม แต่เอาของลูกมาใช้...

อีกคนที่ห้อย “ลาบูบู้” รุ่นมาการอง สีเขียว ที่กระเป๋า เข้าประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ผานมา คือ “พวงเพ็ชร ชุนละเอียด” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องคุ้มครองผู้บริโภค บอกว่า ตั้งแต่ “ลิซ่า” โพสต์ภาพลงอินสตาแกรม ราคาในตลาดก็พุ่งไปหลายพันบาท จึงอยากเตือนว่า เวลาซื้อขอให้ตรวจสอบให้ดี ดูให้รอบคอบ ว่าเป็นร้านค้าจริงหรือไม่ เพราะบางครั้งของที่ส่งมา กล่องอาจจะเป็นของจริง แต่ข้างในเป็นของปลอม บางครั้งโอนเงินเข้าไปแล้ว ก็ปิดบัญชีหนี ซึ่งตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว ก็ขอให้ระมัดระวังกัน

แต่บางคนพอเห็น “รัฐมนตรีพวงเพ็ชร” ห้อยเจ้าลาบูบู้มา ก็คิดโยงไปเรื่องโชคลาง เพราะตามกระแสข่าวปรับครม.ตอนนี้ มีชื่อ“พวงเพ็ชร”ว่าจะต้องลาทำเนียบฯ แล้วงานนี้เจ้า “ลาบูบู้” จะช่วยได้หรือเปล่าหนอ


กำลังโหลดความคิดเห็น