“ชัยธวัช” ลุ้นศาล รธน ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค อ้างเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง ต้องหาพยาน-หลักฐานสู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฏการณ์งูเห่าน้อยกว่าอนาคตใหม่ เหตุสถานการณ์ต่างกัน
วันนี้ (24 เม.ย.) นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการยื่นขอขยายเวลาในการทำเอกสารชี้แจง ว่า เมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) ทางทีมกฎหมายของพรรคได้ไปยื่นขอเวลาเพิ่มอีกครั้งต่อศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่า วันนี้ศาลคงพิจารณา รวมถึงมีคำสั่งว่าจะให้ขยายหรือไม่ หวังว่า วันนี้คงมีความชัดเจน ซึ่งเราอยากขยายเวลาอีก เพราะเดิมขอขยายไป 30 วัน แต่ได้รับการขยายไปแค่ 15 วัน โดยเห็นว่าไม่เพียงพอ
“เรื่องนี้กระทบกับพรรคใหญ่มาก การจะเขียนคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต้องมีความละเอียด จำเป็นต้องแสวงหาข้อมูลทางกฎหมายและข้อเท็จจริงมาโต้แย้งให้มากที่สุด ในกระบวนการยุติธรรมที่ดีควรจะเปิดโอกาศให้ผู้ถูกร้องโดยเฉพาะคดีกล่าวหาร้ายแรง ถึงขั้นยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง มีสิทธิที่จะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ รวมถึงจำเป็นต้องแสวงหาพยานและข้อทเ็จจริงให้ศษลไต่สวนอย่างถึงที่สุด เพราะน้ำหนักของบทลงโทษมันต่างจากคดีที่ผ่านมาที่มีการวินิจฉัยตามมาตรา 49 ที่เป็นเพียงสั่งให้ยุติการกระทำ จึงคิดว่าศษลน่าจะพิจารณาขายเวลาให้เราออกไปอีก”
นายชัยธวัช กล่าวว่า ทางพรรคก้าวไกลขอขยายออกไปอีก 30 วัน เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติม เราจึงอยากอ่านรายละเอียดอีกรอบว่ามีการแก้อะไรไปบ้าง และคดีนี้มีบทลงโทษร้ายแรงมาก ดังนั้น การหาแง่มุมต่อสู้ทางกฎหมายและข้อเท็จจริง ลำพังเพียงคำวินิจฉัยของศาล รธน.ในคดีที่ให้ยุติการกระทำอย่างเดียวไม่น่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่เพียงพอในการกล่าวหาเพื่อร้องให้ยุบพรรค และพยานบุคคลที่จะเสนอให้ศาลไต่สวนก็ต้องใช้ระยะเวลาในการพูดคุยว่าจะยินดีหรือไม่ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาติดวันหยุดสงกรานต์ไปหลายวัน จึงมองว่าเหมาะสมที่จะให้โอกาสขยายระยะเวลาเพิ่มเติม
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคจะถูกยุบและทำให้ ส.ส.ของพรรคมีการย้ายแบบข้ามขั้ว ในพรรคมีการพูดคุยกันหรือมีสัญญาใจอะไรกันหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ส.ส.ของพรรคก้าวไกลในรุ่นนี้ น่าจะมีสถานการณ์ไม่แย่ไปกว่าในคราวที่ยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเราเข้าใจดีถึงความต้องการ และความคาดหวัง รวมถึงเสียงที่ได้รับจากประชาชนอย่างล้นหลามที่ต่างจากสมัยพรรคอนาคตใหม่ แต่เราก็ทำงานอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน
“ผมก็พยายามบอกเพื่อนๆ ในพรรคว่าอย่าไปสร้างบรรยากาศในการสร้างความไม่ไว้วางใจ หรือไปล่าแม่มดกัน ประเด็นสำคัญสุดตอนนี้ คือ การพูดคุยทิศทางการทำงานของพรรค เป้าหมายที่ชัดเจนหลังจากนี้ เพื่อทำให้พรรคกัาวไกลพัฒนา และทำงานตอบสนองประชาชนมากขึ้น และที่สำคัญ การสัมมนาช่วงประชุมใหญ่พรรคที่ผ่านมา เรามีการพูดถึงการต่อสู้คดีและความเป็นไปได้ทางการเมืองที่เราจะไม่ถูกยุบพรรคยังมีอยู่ บรรยากาศแรกหลังมีคำวินิจฉัยในในคดีที่แล้ว คนจำนวนมากอาจจะคิดว่าพรรคยุบแน่นอน 100% จนมาถึงวันนี้ความคิดที่ว่าพรรคก้าวไกลน่าจะมีช่องทางในการต่อสู้ยังมีอยู่”