xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” กล่าวเปิด ASEAN Future Forum 2024 ชูจุดแข็งอาเซียนที่เชื่อมโยง ยั่งยืน เป็นเอกภาพ และยืดหยุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดงาน ASEAN Future Forum 2024 ใช้จุดแข็งของอาเซียนมุ่งสู่การเป็น “อาเซียนที่เชื่อมโยง ยั่งยืน เป็นเอกภาพ และยืดหยุ่นมากขึ้น”

วันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 08.30 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดงาน ASEAN Future Forum 2024 ภายใต้หัวข้อ “Towards fast and sustainable growth of a people-centered ASEAN Community” ผ่านการบันทึกเทปวีดิทัศน์ ร่วมกับ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ในฐานะประธานอาเซียนปี 2567 และ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปี 2568 (ในรูปแบบวีดิทัศน์) และ เลขาธิการสหประชาชาติ โดย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกฯ กล่าวว่า โลกอยู่ในยุคแห่งความไม่แน่นอน วิธีจัดการความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนี้จะมีความสำคัญต่ออนาคตร่วมกัน โดยขอชื่นชมเวียดนามสำหรับข้อริเริ่มในการจัดงาน ASEAN Future Forum 2024 เพื่อเป็นเวทีหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่ออนาคตของอาเซียน

อาเซียนถือเป็นจุดยึด (an anchor) ของสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้กับประชาชนในภูมิภาค ปัจจุบัน ภูมิภาคอาเซียนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในเรื่องภูมิภาคนิยม (regionalism) และหลักการพหุภาคีนิยม (multilateralism) ด้วยจุดแข็งนี้ ภูมิภาคอาเซียนจึงควรมุ่งสู่การเป็น “อาเซียนที่เชื่อมโยง ยั่งยืน เป็นเอกภาพ และยืดหยุ่นมากขึ้น” (“a more connected, sustainable, united, and resilient ASEAN”) เพื่อบรรลุอนาคตที่มุ่งหวังไว้

อาเซียนที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของภูมิภาค และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งหมด โดยต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการพัฒนาความเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อสำหรับการค้าและการลงทุน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ห่วงโซ่อุปทาน และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

อาเซียนที่ยั่งยืน เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อาเซียนควรมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และการส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน ในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ประเทศไทยจะส่งเสริมความร่วมมือเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ต่อไป

อาเซียนที่เป็นเอกภาพและยืดหยุ่น ยังคงมีความสำคัญในการเผชิญกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และภูมิเศรษฐศาสตร์ ตลอดจนจัดการกับความท้าทายในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยมีเพียงการรักษาเอกภาพและแสดงถึงความเป็นแกนกลางของอาเซียนเท่านั้นที่จะสามารถรักษาความเกี่ยวข้องในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้

ในช่วงท้าย นายกฯ ยังได้เน้นย้ำว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี ค.ศ. 2045 ที่ครอบคลุมเป้าหมายและแรงบันดาลใจของประชาชน โดยเชื่อมั่นว่า อาเซียนจะเติบโต เจริญรุ่งเรือง และเป็นประชาคมที่เราภาคภูมิใจ ซึ่งเราทุกคนต่างต้องรับผิดชอบการกำหนดอนาคตของอาเซียน

อนึ่ง งาน ASEAN Future Forum เป็นเวทีเพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่ออนาคตของอาเซียน จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2567 นี้ ตามข้อริเริ่มของนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ได้ประกาศไว้ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 43 เมื่อเดือนกันยายน 2566 ภายใต้หัวข้อ “Towards fast and sustainable growth of a people-centered ASEAN Community” โดยได้เชิญผู้แทนระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสจากประเทศสมาชิกและคู่เจรจา รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ/นักวิชาการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการร่วมแสดงวิสัยทัศน์ของแต่ละประเทศสมาชิกต่ออนาคตของประชาคมอาเซียน พร้อมส่งเสริมความร่วมมือที่ใกล้ชิด ทั้งในกรอบอาเซียนและในกรอบความร่วมมือต่างๆ ในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น