ข่าวปนคน คนปนข่าว
**อ้าว"ทวี"โยนขี้ "สมศักดิ์"สารตั้งต้นช่วย "ทักษิณ" ป่วยทิพย์-พักโทษ ทั้งที่เป็นขบวนเดียวกันมิใช่หรือ?!
ยิ่งคนร้องดาหน้า คนถูกร้องก็ยิ่งโนสน no care
ในความเคลื่อนไหวของ"ทักษิณ ชินวัตร" ยังเป็นประเด็นให้ผู้คนในสังคมตั้งคำถามถึงกระบวนการ "พักโทษ" ด้วยอาการ "ป่วยหนัก" แต่คล้อยหลังได้รับอิสระดูจะ"ป่วยทิพย์" มากกว่า
ขณะที่ลูกสาว "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขยัน "อวดพ่อ" โพสต์กิจกรรมโชว์ฟิตของผู้พ่อ "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นระยะๆ โดยล่าสุดก็โพสต์อินสตราแกรมส่วนตัวระบุว่า พาพ่อไป ICONSIAM ครั้งแรก โดยเป็นภาพหมู่ชื่นมื่น ร่วมกับ "เอม" พินทองทา และ ลูกเขยทั้งสอง
คนป่วยเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ที่ผ่านมาออกงานไม่เว้นวัน เล่นน้ำกับหลานๆ สุขสำราญบานตะไท วันนี้เดินช็อปปิ้ง พรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะวิ่งรอบสนามหลวงโชว์อึด หรือไม่?
เมื่อสิ่งที่เห็น ไม่ได้เป็นอย่างที่อยู่ในเหตุผลพักโทษ ก็ย่อมทำให้มีฝ่ายที่ทนดูอยู่ไม่ไหว
“นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ผมจะไปร้องป.ป.ช. กรณีช่วยเหลือนักโทษป่วยไม่จริง และช่วยเหลือการพักโทษ พร้อมหลักฐานสำคัญ วันจันทร์ที่ 22 เมษายนนี้ เวลา10.30น.”
แน่นอนว่า "หมอวรงค์" ฮึ่มฮั่มมาแล้วหลายครั้ง จับตา "ทักษิณ" ยิ่งกว่าเรดาร์จับขีปนาวุธ ที่ว่า มี "หลักฐานเด็ด" พร้อมจะส่งให้ป.ป.ช. ต่างคนก็ต่างอยากจะรู้ หมอที่เป็นของแสลงของตระกูลชินวัตรเที่ยวนี้ จะมีอะไรในน้ำเต้า เพียงพอที่จะสั่นสะเทือนไปถึง ทักษิณและกระบวนการช่วยเหลือนักโทษป่วยทิพย์หรือไม่
ที่แน่ๆ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม คนโปรดของทักษิณ แสดงท่าทีแล้วว่า..ไม่ยี่หระ
จะบอกว่า ไม่ให้ราคากับ “หมอวรงค์” ก็ว่าได้ เพราะ “ทวี” บอกว่า เป็นสิทธิ ไม่ได้กังวลอะไรเลยและ ก่อน หมอวรงค์จะไปยื่น ก็มีคนอื่นไปยื่นร้องเยอะแล้ว
แถมพูดในทำนอง การพักโทษ เป้าหมาย คือต้องการให้คนมีสุขภาพดี การได้พักโทษแล้วกลับไปอยู่กับครอบครัว ก็ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หัวหน้าขบวนช่วยเหลือ "เทวดาชั้น14" มองว่า การปฏิบัติต้องเป็นไปตามกฎหมาย ในเมื่อกฎหมายเขียนไว้เราก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนตัวก็เคารพ แต่การทำทุกอย่างตัวเองทำอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย หาก “หมอวรงค์” จะร้องเรื่องนี้ มองว่า เขาร้องผิด ความจริงต้องไปร้องรัฐบาลชุดที่แล้ว
ว่าไปแล้ว “ทวี” ก็พูดไม่ผิด..แต่ทวีจะรู้ตัวหรือไม่ว่า ที่พูดๆมา เท่ากับเป็นเรื่องที่เฉลยในตัวว่า เรื่องนี้มีการเตรียมการกันมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว โดยรัฐมนตรียุติธรรมเป็นใคร? ...ก็รู้ๆ อยู่
ใครที่สะบัดตูดหนีลุงๆ มาอยู่กับพรรคเพื่อไทย ใช้ความเก๋าทุ่มแทงฝ่ายชนะ จนถูกหวยได้นั่งเก้าอี้เสนาบดีอีกต่างหาก
ใครคนนี้เดาไม่ยาก เพราะไม่ใช่โชคช่วยเป็น "เทพ" แค่นามสกุล หากแต่เป็นนักการเมืองที่ได้ชื่อว่า เป็น "จอมยุทธอัฒจรรย์" นั่งดูเหตุการณ์บนที่สูง จนสถานการณ์บ่งบอกว่าใครจะไปจะมา แล้วค่อยลงมือเลือกข้าง!
งานนี้ “ทวี” เล่นโยนขี้ให้แบบนี้ ต้องถาม "สมศักดิ์ เทพสุทิน" แล้วละว่า คิดอย่างไร? ไหนบอกเป็นขบวนการเดียวกันมิใช่หรือ !?
**แรงกระเพื่อมจาก รทสช. ทำ “ครม.เศรษฐา 2” ยืดเยื้อ
ในการประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อวานนี้ ( 21 เม.ย.) ทั้ง “พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เลขาธิการพรรคฯ ต่างยืนยันถึงกระแสข่าวการปรับครม.ว่า ยังไม่ได้รับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเก้าอี้รัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคก็ยังคงเหมือนเดิม
ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่า การปรับครม.ที่ยืดเยื้อมาถึงวันนี้ และไม่รู้ว่าจะยืดไปถึงเมื่อไร ทั้งควรจะเสร็จตั้งแต่วันที 17 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเพราะเกิดแรงกระเพื่อม ในพรรค รทสช.
พรรค รทสช. มี สส.36 คน เมื่อเข้าร่วมรัฐบาล ก็ได้โควตา รองนายกรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการ 2 ตำแหน่ง และ รัฐมนตรีช่วยว่าการ 2 ตำแหน่ง
โดย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรค เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบรมว.พลังงาน ...“พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล
ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็น รมว.อุตสาหกรรม ... “อนุชา นาคาศัย” สส.ชัยนาท เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” เป็น รมช.คลัง
เก้าอี้ที่ “พีระพันธุ์”นั่งอยู่ ทั้งรองนายกฯ และรมว.พลังงาน ยังมั่นคงดี ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม นั้น เป็นที่รับรู้กันภายในพรรคว่า เป็นโควตาของ “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เลขาธิการพรรค ที่ส่ง “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” มานั่ง คงจะไม่มีการเปลี่ยนตัวเช่นกัน หรือถ้าจะเปลี่ยนก็ไม่มีปัญหา ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของโควตาจะส่งใครมานั่ง โดย สส.สายใต้ มีความเป็นไปได้มากสุด
ที่วุ่นๆ กันอยู่ จนเกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรคก็คือ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการทั้งสองตำแหน่ง
รวมทั้งข่าวการส่ง “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” คนสนิทของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตแคนดิเดตนายกัฐมนตรีของพรรค รทสช. ไปนั่ง รมช.กลาโหม หาก“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีจะไปนั่งควบรมว.กลาโหม ตามโผที่โผล่มา
ตรงนี้ก็เท่ากับต้องเอาโควตา รัฐมนตรีช่วยว่าการ 1 เก้าอี้ของพรรคไปแลก จะเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ หรือ รมช.คลัง
และก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า จะมีการเปลี่ยนตัว รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ “อนุชา นาคาศัย” นั่งอยู่ เป็น “สุชาติ ชมกลิ่น” ที่อุตสาห์ หอบหิ้วลูกทีม ถอนยวงออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นนั่งร้านสานฝันให้ “ลุงตู่” ก้าวสู่นายกฯ อีกครั้ง น่าจะได้เวลารับเก้าอี้ตอบแทน
ส่วนเก้าอี้ รมช.คลัง ที่ “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ครองอยู่ ก็มีกระแสข่าวว่า “ธนกร วังบุญคงชนะ” รองหัวหน้าพรรคพยายามแซะอยู่ แต่เห็นทีจะยาก เพราะโควตา รมช.คลังนี้ ว่ากันว่าเป็นของคนนอก ที่คนในต้องเกรงอกเกรงใจ
แรงกระเพื่อมอันเนื่องมาจากเก้าอี้รมช. ที่คนในพรรคยังวิ่งกันไม่ลงตัว แล้วยังกระเพื่อมไปถึงนอกพรรค เพราะยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะเอาเก้าอี้ รมช.กระทรวงไหน ไปแลกกับ รมช.กลาโหม
ขณะเดียวกัน เรื่องที่พรคเพื่อไทยอยากได้เก้าอี้ประธานสภาฯ ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ทาง “วันมูหะมัดนอร์ มะทา”ก็ส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า ฝ่ายบริหารจะปรับครม.ก็ปรับไป แต่อย่ามาก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อมีคำถามว่า ถ้าเอาเก้าอี้ รองนายกฯ มาแลกกับเก้าอี้ประธานสภาฯ จะโอเคไหม “ประธานวันนอร์” ถึงกับหันหลังเดินหนีไปเลย
“ครม.เศรษฐา 2” ก็เลยยังคลอดไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะยื้อกันไปอีกนานแค่ไหน