‘ธนวัช ’ บี้ อบจ.กระบี่ จัดงบฯ 12ล้าน ดึงน้ำอ่างฯ คลองแห้ง ผลิตน้ำประปา เสนอ นายกฯ ยกระดับขอบอ่างคลองแห้งเพิ่ม 1-2 เมตร เพิ่มความจุน้ำ รับมือวิกฤตภัยแล้ง ด้านชาวกระบี่โอด! น้ำไม่มาตามนัด จ่ายสลับวัน 7ตำบล แต่บางพื้นที่ไปไม่ถึง
นายธนวัช ภูเก้าล้วน ผู้ประกอบการธุรกิจจังหวัดกระบี่ กล่าวว่าเหลืออีกเพียงแค่ 2 วัน ก็จะครบกำหนดการจ่ายน้ำสลับวันเว้นวันในพื้นที่ 7 ตำบล ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 17-22 เม.ย.นี้แล้ว แต่สถานการณ์น้ำยังไม่คลี่คลาย โดยได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า หลายพื้นที่น้ำไม่ไปตามนัด เพราะน้ำเดินทางในเส้นท่อใช้เวลาครึ่งวัน พื้นที่สูงบางจุดน้ำยังไปไม่ถึงก็สลับจ่ายไปอีกพื้นที่หนึ่งแล้ว ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ต้องไปหาซื้อน้ำมาใช้เอง ทราบมาว่ากรมฝนหลวงมีแผนที่จะทำฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดกระบี่วันที่ 22 เม.ย. ซึ่งทางจังหวัดรวมถึงการประปาฯ กระบี่ ต่างก็ตั้งความหวังว่าน้ำจากฝนหลวงจะมาช่วยเติมน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปาได้ ประกอบกับใกล้ฤดูฝนแล้วคาดว่าจะมีน้ำฝนช่วยเติมมาด้วย แต่การรอคอยฟ้าฝนอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องเร่งวางแผนระยะสั้นรับมือกับภัยแล้งที่อาจจะเกิดจะเกิดขึ้นควบคู่ไปกับแผนแก้ปัญหาระยะยาวด้วย โดยมีข้อเสนอไปยังกระทรวงเกษตรฯ และ อบจ.กระบี่ ให้เร่งเพิ่มศักยภาพอ่างคลองแห้ง ต.กระบี่น้อยโดยเร็ว โดยอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีพื้นที่ 700 ไร่ บรรจุน้ำได้ 12.5 ล้านลูกบาศก์เมตร (คิว) ชาวบ้านใช้น้ำทำการเกษตรฯ ประมาณเดือนละ 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร หากมีการยกระดับขอบอ่างอีก 1-2 เมตร จะเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างได้ดังนี้ ถ้ายกระดับขึ้นมา หนึ่งเมตรได้น้ำประมาณ 1.1 ล้านลูกบาศก์เมตร ถ้ายก 2 เมตร จะได้อ่างเก็บน้ำเพิ่มอีก 2.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่ากับอ่างเก็บน้ำคลองแห้งจะมีศักยภาพจุน้ำทั้งหมดเกือบ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
“ปัญหาเร่งด่วนขณะนี้คือ อบจ.กระบี่ ควรจัดงบ 12 ล้านบาทให้การประปาฯ ดึงน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองแห้งไปยังอ่างเก็บน้ำ ต.ทับปริก ของการประปาฯ ทันที แทนที่จะรอกระทรวงมหาดไทยอย่างไร้ความหวังเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ และ ต้องเร่งประสานไปยังกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพอ่างคลองแห้ง เพิ่มความจุน้ำให้มากขึ้น คิดวันนี้เพื่อรับมือปัญหาปีหน้า เพราะไม่ทราบว่าจะเกิดวิกฤตภัยแล้งเช่นในปีนี้อีกหรือไม่ ปัญหาน้ำแล้งในจังหวัดกระบี่ ไม่ใช่แค่เรื่องของท้องถิ่น แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญจัดงบประมาณมาแก้ปัญหา เนื่องจากกระบี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งในปีที่แล้ว สร้างรายได้ให้กับประเทศ 52,500 ล้านบาท การลงทุนเรื่องน้ำเป็นสิ่งจำเป็น สอดรับกับแผนที่ นายกฯ จะให้ภาคท่องเที่ยวเป็นเรือธงนำรายได้เข้าประเทศในปี 68 ถ้าโครงสร้างพื้นฐานพร้อม ไม่มีปัญหาภัยแล้งมาคุกคาม ผมเชื่อว่าจังหวัดกระบี่จะมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้อีกจำนวนมาก ช่วยจัดงบประมาณมาแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับกระบี่เถอะครับ“ นายธนวัช กล่าว