นายกฯ ติดตามโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ภูเก็ต พอใจผลงาน 6 เดือน ย้ำให้เดินหน้าต่อเพื่อยกระดับ จ.ภูเก็ต ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกำชับทุกหน่วยงานประสานงานอย่างบูรณาการ นำความเจริญมาสู่พี่น้องประชาชน
วันนี้ (19 เม.ย.) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับฟังบรรยายสรุปโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บรรยายสรุปโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวสรุปความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหาจราจรจากการที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการครั้งที่ผ่านมา ว่า การแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน มีการบริหารจัดการการจราจรในพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรในปัจจุบันโดยการปรับปรุงประเมินผลระบบไฟจราจรอัจฉริยะ กำหนดจุดจอดรถบนทางหลวงเพื่อไม่ให้จอดกีดขวางการจราจร และกำหนดจุดกลับรถให้เกิดความคล่องตัวด้านการจราจรมากยิ่งขึ้น ส่วนแผนระยะยาวเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการดำเนินโครงการ มีการคัดเลือกบริษัทรับจ้างดำเนินโครงการที่มีศักยภาพ รวมถึงกำหนดข้อเสนอโดยการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา เช่น กำหนดค่าปรับที่สูง รวมถึงพิจารณาผลกระทบต่อทุกๆ มิติ เป็นต้น
ด้าน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวบรรยายสรุปโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดจากปริมาณรถที่หนาแน่น จึงได้มีการพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคมขนส่งทั้งทางถนน ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศให้มีประสิทธิภาพ โดยขยายโครงข่ายการคมนาคมในจังหวัดภูเก็ต และพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เพื่อลดปัญหาการจราจร เพิ่มความสะดวกในการเดินทางที่เชื่อมโยงการให้บริการระบบคมนาคมขนส่งในทุกมิติ โดยมีแผนการดำเนินโครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการทางพิเศษเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง โครงการขยาย 4 ช่องจราจร ทล. 4027 โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ 4 ช่องจราจร โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล. 4027 โครงการศึกษาความเหมาะสมฯ ทางหลวงแนวใหม่ ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตมีแนวทางการพัฒนาที่ครอบคลุมและเอื้อประโยชน์ต่อทุกคนทุกกลุ่มทั้งฐานบนและฐานราก ในขณะเดียวกัน ก็มีมุมมองทั้งมิติของความมั่นคง เศรษฐกิจ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการภาครัฐเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะครอบคลุมการบริหารจัดการเมืองใหม่ในทุกมิติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่ง ว่า เป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้ว จากที่ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทราบถึงศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาตนเองได้ลงพื้นที่เกาะสมุย รับทราบปัญหาเรื่องของสนามบิน ถือเป็นการดีที่ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาในวันนี้ รัฐบาลพยายามที่จะยกระดับของทั้งสองเกาะ ไม่ว่าจะเป็นเกาะสมุย หรือ ภูเก็ต ให้เป็นเกาะระดับโลก ต้องขอขอบคุณผู้สมัครจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการทำงานจริง ๆ มีการทำแผนงานเกิดผลเป็นรูปธรรม ถือเป็นแผนงานที่เหนือความคาดหมาย เป็นการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการทั้งภาครัฐส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ตามความคาดหวังของประชาชนทั้งแผนระยะสั้นและแผนระยะยาว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรให้พี่น้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า จากที่รับฟังรายงานสรุปจากกรมทางหลวง และผู้ว่าฯ ได้เสนอการยกระดับการจราจรทั้งระบบทั้งการขุดอุโมงค์ ซึ่งได้คำนึงถึงวัฒนธรรม ความเคารพศรัทธาต่ออนุสาวรีย์ฯ ถือเป็นเรื่องที่ดี มีการบริหารจัดการรองรับทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว โดยมั่นใจว่า นโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาลจะทำให้จังหวัดภูเก็ต รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนจังหวัดภูเก็ตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมกับขอสั่งการให้ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ตไปศึกษาแผนโปรโมตเกาะมัลดีฟส์ว่ามีวิธีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ขอให้ทำแผนที่มีความเชื่อมโยงกับเกาะต่างๆ เพื่อทำให้เศรษฐกิจพื้นฐานของภาคใต้ดีขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของความเจริญ หลายๆ คนมีความกังวลกับผลกระทบที่จะตามมา ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่ามีความมั่งคั่งแล้วจะต้องมีความมั่นคง ซึ่งจะต้องแก้ไขปัญหาความไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะมาเฟีย ปัญหายาเสพติด เป็นต้น ขอให้ ส.ส. และผู้บริหารในพื้นที่ให้ความสบายใจกับประชาชนว่ารัฐบาลจะนำความเจริญเข้ามาในพื้นที่ แต่จะไม่สร้างปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งได้มีการบริหารจัดการทุกอย่างอย่างเป็นระบบ ขอให้คำมั่นว่า รัฐบาลไม่ได้มองถึงเรื่องความเจริญเพียงอย่างเดียว แต่ใส่ใจกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยนายกฯ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานทำงานประสานงานกันอย่างบูรณาการ นำความเจริญมาสู่พี่น้องประชาชน พร้อมย้ำว่า ระยะเวลาหกเดือนทำงานได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ขอให้ทำงานกันต่อไปยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้ดียิ่งขึ้นต่อไป