xs
xsm
sm
md
lg

‘ก้าวไกล’ ห่วง 5 ประเด็นขนแคดเมียมกลับตาก ญาติ ส.ก.พรรคมีเอี่ยวหลักฐานชัด ว่าไปตามกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘ก้าวไกล’ ห่วง 5 ประเด็นขนย้ายกากแคดเมียมกลับจ.ตาก ขณะปมโรงงานเก็บกากเป็นญาติของ ‘ส.ก.เนอส’ชี้หลักฐานชัดเจน ไม่มีเรื่องอะไรต้องสงสัย ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย จี้กระทรวงทรัพย์ฯกล้าใช้กฎหมายฟันบริษัทต้นกำเนิดมลพิษ-ฝืนอีไอเอ

สส.พรรคก้าวไกล ในนามกลุ่ม‘ก้าวกรีน’ นำโดยนายเดชรัต สุขกำเนิด ผอ.สถาบันวิจัยนโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Cente) นายคริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร เขต 1 และน.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส. กทม. เขตบางซื่อ ร่วมกันแถลงข้อห่วงใยกรณีการขนย้ายกากแคดเมียม กลับไปยัง จ.ตาก ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาขนย้ายประมาณ 480 กว่าเที่ยวคันรถ และใช้เวลา 1-2 เดือน ทางพรรคจึงมีความกังวลต่อการปฏิบัติและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

พร้อมตั้งข้อสังเกต 5 ประเด็น คือ 1.กากแคดเมียมที่พบทั้งหมดในปัจจุบันและกำลังจะขนกลับไป ยังไม่ครบจำนวน 13,800 ตัน เพราะปัจจุบันยังคนไม่พบ ขาดอยู่จำนวน 1,265 ตัน คาดการว่าอาจจะเกิดจากความชื้นที่ลดลง หรือการคำนวณน้ำหนักที่ไม่แน่ชัด ซึ่งพรรคก้าวไกลกังวลว่าอาจจะมีการกักเก็บในพื้นที่อื่นๆ ที่ยังไม่ทราบในบางพื้นที่ เช่น กรณีที่พบที่เขตบางซื่อ มีแคดเมียม 150 ตัน ดังนั้นอีก 1,265 ตันอาจจะกระจายอยู่ในพื้นที่อื่นได้ หรืออาจเป็นไปได้ว่ามีการหลอมแคดเมียมไปแล้วบางส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สมุทรสาครและชลบุรี จึงอยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบอย่างโปร่งใส 2. ขอให้รัฐบาลตรวจสอบสารปนเปื้อนทั้งในร่างกายและสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมพร้อมกับกำหนดมาตรการฟื้นฟูเยียวยาโดยไม่อ้างข้อติดขัดใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้ประกาศพื้นที่ควบคุมมลพิษ

3.การขนส่งกากแคดเมียมไปยังจังหวัดตากนั้น จะต้องมีบุคคลที่สามหรือมีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบความพร้อมพื้นที่จัดเก็บ เนื่องจากก่อนหน้านี้การลักลอบขุดกากแคดเมียมส่งผลให้คอนกรีดฝังกลบ ได้รับความเสียจาก การขุดของรถแบคโฮ ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดตาก กังวลเรื่องความปลอดภัย จนต้องออกมาเรียกร้อง

4.หลังประเมิน เที่ยวรถในการขนส่งและปริมาณรถที่ขนได้ พบว่า ต้องขนมากกว่า 480 เที่ยว ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลานาน 1-2 เดือน และกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝน อาจทำให้มีการปนเปื้อนระหว่างขนส่งได้ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้มงวดโดยใช้รถที่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งวัตถุอันตราย และมีมาตรการป้องกันกรณีเกิดอุบัติเหตุด้วย 5.สรุปบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ เพื่อหาข้อผิดพลาดนำไปสู่มาตรการการแก้ไข โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ ที่ต้องควบคุมอย่างชัดเจนและเปิดเผยต่อสาธารณะ

เมื่อถามว่ากระบวนการในการเอาผิดจะมีใครได้รับโทษบ้าง นายเดชรัตน์ กล่าวว่า ต้องไปตรวจสอบว่าใครผิดบ้าง ยืนยันว่าในพื้นที่มีกากโลหะหนักจากการทำเหมืองสังกะสีที่ได้กากแคดเมียม ตอนทำ EIA ระบุว่า จะฝังเก็บถาวร แต่พอตอนย้ายออกไป ทำไมไม่แจ้งให้ทราบ ส่วนจะมีการยื่นเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายเดชรัตน์ ยืนยันว่าการใช้ช่องทางสภาฯ แน่นอน แต่ช่วงนี้ยังปิดสมัยประชุม เมื่อมีโอกาสก็จะเร่งดำเนินการในทุกช่องทาง

ด้านนายคริษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ออกมาประท้วงคัดค้านการขนกากแคดเมียมกลับมาฝังถาวรในพื้นที่ว่า จากการที่ตนลงพื้นที่กับรองอธิบดีกระทรวงอุตสาหกรรม จู่ๆ ชาวบ้านในพื้นที่ก็พูดขึ้นมาว่าถ้าสภาพของบ่อกลบยังไม่เรียบร้อย ไม่มีความปลอดภัย ชาวบ้านก็อาจจะออกมาคัดค้าน แต่ถ้ากระบวนการทุกอย่างถูกต้อง มีความเชื่อมั่นก็พอจะเจรจากันได้ ตนมองว่า จ.ตากมีทรัพยากรมาก ที่ผ่านมามีผู้คนมาตักตวงผลประโยชน์ออกไป เราเข้าใจดีว่ามาจากจ.ตากและต้องนำกลับไป คนจังหวัดตากก็กังวลเช่นเดียวกับคนพื้นที่อื่น ซึ่งหากจะขนกลับมาก็พอยอมรับได้ แต่กระบวนการต้องกระทบประชาชนน้อยที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้จะต้องอยู่กับพวกเขาไปจนตาย

ถามต่อว่ากรณีเจ้าของโรงงานที่เก็บกากแคดเมียมเป็นของญาติน.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย หรือ สก.เนอส ทางพรรคก้าวไกลได้มีการสอบถามหรือไม่ นายเดชรัตน์ กล่าวว่า เราได้สอบถามแล้วตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุขึ้น ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย หลักฐานชัดเจน ไม่มีเรื่องอะไรต้องสงสัย

เมื่อถามว่าสามารถใช้กฎหมาย EIA หรือกฎหมายของกรมควบคุมมลพิษ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติดำเนินการเอาผิดบริษัทต้นทางได้เลยหรือไม่ นายเดชรัตน์ กล่าวว่า ทำได้เลย และ ตนย้ำว่าเรื่องนี้มีหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรมให้การอนุญาตด้วย

ด้านนายพูนศักดิ์ กล่าวเสริมว่า กระทรวงทรัพยากรฯ สามารถดำเนินการเอาผิดบริษัทต้นกำเนิดมลพิษ ได้ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2535 โดยกรมควบคุมมลพิษ ต้องดำเนินการเอาผิดกับบริษัทเอกชนที่เป็นต้นกำเนิดของกากแคดเมียม ขณะที่สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) สามารถดำเนินการเอาผิดในเรื่องการฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามอีไอเอ ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามตนยังไม่เห็นแอคชั่นจากกระทรวงทรัพยากรฯ ในเรื่องนี้ เหมือนกรณีที่ผ่านๆ มา


กำลังโหลดความคิดเห็น