“เศรษฐา” เผยในที่ประชุมไม่มี รมต.ถามถึงการปรับ ครม. ย้ำวัคซีนที่ดีที่สุดคือการทำงาน เผยไต๋มีโอกาสควบกลาโหมแต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา โยน “เพื่อไทย” จัดการ หลังมีข่าวยกเครื่องการทำงานสภา
เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง อย่างที่สื่อได้เสนอข่าวไปวัคซีนที่ดีที่สุดคือการทำงานนั่นเอง ตนเชื่อเช่นนั้น และต้องขอบคุณที่สื่อได้เสนอข่าวไป ตอนนี้ทุกท่านยังมุมานะทำงานอย่างเดียว
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการเสนอชื่อรัฐมนตรีในโควตาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย และวันนี้ตนได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เรื่องข้าวโพดและอะไรหลายๆ เรื่อง ท่านก็ไม่เห็นพูดอะไรมา
เมื่อถามว่าในสัปดาห์นี้มีโอกาสนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าเกิดคุย ก็คงเป็นการคุยเป็นการส่วนตัวของบางท่านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานอย่างเดียว ซึ่งก็มีการทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายกฯ จะไปควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม นายเศรษฐา กล่าวว่า “วินาทีนี้ผมยังเป็น รมว.คลัง และเป็นนายกรัฐมนตรีครับ”
เมื่อถามอีกว่ามีโอกาสที่จะไปหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกอย่างมันมีโอกาสและขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลามากกว่า
เมื่อถามว่าถ้าเกิดนายกฯ ไปควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม จะมีนโยบายอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า อย่าพูดถึงถ้าเกิดดีกว่า ไว้เกิดแล้วค่อยว่ากันดีกว่า
เมื่อถามว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่เสร็จ ถ้าเปลี่ยนม้ากลางศึกจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ตอบคำถามเรื่องนี้ ตนคิดว่าเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมันชัดเจนไปแล้วเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่าจะส่งไม้ต่อให้ รมว.คลังคนต่อไปได้แล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่จะส่งไม้ต่อกับใครทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะดึงเก้าอี้ประธานสภาคืนจากพรรคประชาชาติ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ต้องไปถามหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะยกเครื่องการทำงานในสภา จึงต้องมีการปรับ ครม. นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องการทำงานกับสภาเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด แต่การจะยกเครื่องอย่างไร หรือจะปรับอย่างไรในบริบทปัจจุบันนี้ตนเชื่อว่าทุกๆ คนให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภาอยู่แล้ว อะไรที่จะสามารถทำให้ขับเคลื่อนการออกกฎหมาย ระบบตรวจสอบได้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ในความคิดของนายกฯ บุคคลที่จะไปทำหน้าที่หลักในการประสานงานฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารต้องมีคุณสมบัติอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนคงไม่ไปก้าวล่วงและไม่ไปพูดอะไร เพราะเดี๋ยวจะกระทบกระเทือนกับคนที่อยู่ปัจจุบัน อย่าดีกว่า อันนี้ไม่ใช่เรื่องของตน