xs
xsm
sm
md
lg

ดีเดย์ปรับครม. โฟกัส รมช.กลาโหม !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน - พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์
เมืองไทย 360 องศา

หลังการให้สัมภาษณ์ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่อำเภอหัวหิน เมื่อวันที่ 14 เมษายน แสดงท่าทียอมรับชัดเจนแล้วว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี โดยจะมีการนัดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลหลังเทศกาลสงกรานต์

ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในช่วงเวลาดังกล่าว ที่จังหวัดเชียงใหม่โดยมีการตบเท้าเข้าพบกับ นายทักษิณ ชินวัตร ที่แม้ว่ายังมีสถานะเป็นนักโทษ แต่ก็ถือว่าเป็นผู้มีบารมีตัวจริงทั้งในพรรคเพื่อไทยและในรัฐบาล เหนือนายกรัฐมนตรี โดยบรรดา ส.ส.และแกนนำพรรคเพื่อไทยที่เข้าพบก็ล้วนเป็นรัฐมนตรีทั้งที่อยู่ข่าวถูกปรับออก และพวกอยู่ในข่ายที่จะได้รับการแต่งตั้งเข้ามาใหม่ รวมไปถึงรัฐมนตรีที่ต้องไปเสนอหน้าเพื่อให้เก้าอี้ของตัวเองมั่นคงขึ้น เอาเป็นว่าต่างคนต่างมีเป้าหมายของตัวเอง

เพื่อให้เห็นภาพก็ต้องรายงานว่ามีใครเป็นใครบ้างที่เดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร ที่นั่นโดยอ้างว่าไปร่วมอวยพร ขอพรในฐานะผู้ที่เคารพนับถือ เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาถึงเป็นคนแรก จากนั้นรัฐมนตรีพรรค พท. ต่างทยอยเดินทางมาถึง ประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายไชยา พรหมมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

สำหรับรัฐมนตรีที่มีรายงานข่าวว่าอาจถูกปรับออก เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายไชยา พรหมมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าจะมีการสลับเก้าอี้กัน โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สลับกับ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯอาจได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น

ที่น่าจับตาจนทำให้ข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้มีความเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น ก็คือความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อตอนสายวันที่ 16 เมายน เมื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในกรุงเทพฯ แม้ว่า นายเศรษฐา จะออกมาบอกว่า เป็นการมาขอพร มาสวัสดีปีใหม่ในฐานะที่นับถือกันรวมทั้งได้รับคำปรึกษาที่ดีกลับไปก็ตาม แต่รับรองว่าต้องมีการหารือในเรื่องอื่น โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี อย่างแน่นอน

นายเศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ นายทักษิณ ว่า มาตามประเพณีไทย มาสวัสดีปีใหม่ รดน้ำขอพร เอาพวงมาลัยมาไหว้ และกราบท่าน ซึ่งนายทักษิณได้อวยพรให้สุขภาพแข็งแรงและเป็นกำลังใจในการบริหารบ้านเมือง

นายเศรษฐา ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการหารือเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี “ตอนนี้ยังไม่มีครับ สื่อไปพูดกันเอง แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องปรับในวันหนึ่ง และถ้าเผื่อจะปรับก็จะทราบกันเอง ไม่อยากให้รัฐมนตรีที่มีรายชื่อออกมาขณะนี้หวั่นไหว ผมคิดว่าควรเร่งทำงานกันดีกว่า เพราะทุกๆ วันมีค่า แทนที่จะวิ่งเต้นวิ่งเซ่นมาหาท่านนั้นท่านนี้” แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันเรื่องปัญหาบ้านเมือง ปัญหาเรื่องข้าวโพด ปัญหาเรื่องการเผาป่า ในเรื่องของความสะอาดของบ้านเมือง เป็นเรื่องธรรมดา รวมทั้งเรื่องของเมียนมาก็ได้มีการพูดคุยกัน

“ผมพูดมาตลอดเวลา และผมพูดมาโดยตลอดช่วงเวลา 1 เดือน ที่มีข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี และผมขอบอกตรงๆ ว่า ภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด คือ การทำงาน การทำงานที่ถูกต้อง ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและของแต่ละกระทรวงก็มีนโยบายเรือธงอยู่แล้ว ซึ่งทุกท่านก็ทราบอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง”นายกรัฐมนตรีกล่าว

ถามว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงภาพเปรียบเทียบระหว่างตัวนายกรัฐมนตรีกับนายทักษิณ ที่นายทักษิณมีบรรดารัฐมนตรีไปพบจำนวนมาก แต่ตัวนายกฯเองมีเพียงอยู่กับลูกเท่านั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า สื่อควรจะต้องบอกตนว่ามองกันอย่างไร ถึงจะสามารถตอบได้ เมื่อถามอีกว่า ที่มีบรรดารัฐมนตรีไปพบและอยู่กับอดีตนายกฯจำนวนมากนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเขารู้จักกันมานาน อีกทั้ง นายทักษิณ ก็เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมา ท่านรัฐมนตรีหลายท่าน อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ซึ่งไม่ต้องเอ่ยชื่อหมดทุกคน เพราะทุกท่านรู้จักนายทักษิณมานานกว่าตน ให้ความเคารพกันมายาวนาน และนายทักษิณ ก็อายุมากกว่าบรรดารัฐมนตรีทุกๆท่านอยู่แล้ว และรัฐมนตรีที่เอ่ยชื่อไปก็อายุมากกว่าตน จึงเป็นธรรมดาที่จะไปพบกัน และตนก็ไม่ได้คิดอะไร

อย่างไรก็ดีข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้ถือว่าเป็นจริงเป็นจังมากที่สุด อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวด์ในอดีตมาเปรียบเทียบตั้งแต่ยุคไทยรักไทย เรื่อยมา ที่มักจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีบ่อยครั้ง ในช่วง 6-7 เดือนครั้ง หรือ 1 ปี ครั้ง และคราวนี้ถือว่ามีความเป็นไปได้ ทั้งในเรื่องของการเร่งสร้างผลงานของรัฐบาลที่กำลังตกเป็นเป้าวิจารณ์ หรือก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ก็ยอมรับเองว่ายังมีรัฐมนตรีบางคน “ผิดฝาผิดตัว” หากมีการปรับใหม่ก็ต้องให้ถูกกับงานมากขึ้น

แต่ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดก็คือ ข่าวการควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของ นายเศรษฐา ที่ตามข่าวจะมาแทน นายสุทิน คลังแสง ที่จะไปช่วยงานสภา รวมไปถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเปลี่ยนมือไปเป็นคนอื่นก็ตาม แต่ที่น่าจับตายิ่งไปกว่านั้นก็คือ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมที่ข่าวว่า จะเป็นของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายสุทิน คลังแสง) จะขยับขึ้นมา

ที่บอกว่าน่าจับตาอย่างยิ่ง หากมีการปรับเปลี่ยนดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เพราะรับรู้กันว่า เขาเป็น “คนใกล้ชิด” ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าถูกว่าตัวเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วยซ้ำไป แต่ในที่สุดก็มานั่งเป็นเลขานุการรัฐมนตรี ทำหน้าที่จัดการภายในกองทัพแทนรัฐมนตรี และคราวนี้ก็เช่นเดียวกันหากมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ นั่นก็เท่ากับว่า “ดีลลับ” ยังอยู่หรือไม่ และงานในกองทัพยังต้องมีคนประสานที่ไว้ใจได้นั่นเอง

ดังนั้นการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้ แม้ว่าตำแหน่งอื่นหลายตำแหน่งสำคัญและน่าจับตา และเสี่ยงต่อการเกิดแรงกระเพื่อมภายในก็ตาม แต่หากโฟกัสไปที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตามข่าวบอกว่า นายเศรษฐา จะไปนั่งควบ แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ ที่หาก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งเก้าอี้ตัวนี้ ถือว่าทุกอย่างชัดเจนที่สุดแล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น