ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เชื่อดีมะ! “ก้าวไกล” ปัดเอี่ยวบุหรี่ไฟฟ้าติดโลโก้พรรค แต่นโยบายหนุน-สส.แอบสูบกลางสภา
ฮือฮาอีกแล้วครับท่าน สำหรับพรรค “สีส้ม” เมื่อโลโก้พรรคไปปรากฏบนบุหรี่ไฟฟ้าที่ทาง “เจ๊แจ๋น” พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นำมาแถลงข่าวเมื่อวาน (10 เม.ย.)
อันเป็นผลงานจากการที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) สนธิกำลังกับหลายหน่วยงานกวาดล้างจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ใกล้สถานศึกษาใน กทม. เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ของกลางมากกว่า 12,000 ชิ้น คิดเป็นเงินมากกว่า 3.6 ล้านบาท
“รัฐมนตรีพวงเพ็ชร” ได้ย้ำให้เห็นถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีสารนิโคติน เป็นสารอันตรายทำลายสมอง ทำลายพัฒนาการของเด็กวัยรุ่น ไปจนถึงอายุ 25 ปี ส่งผลต่อการเรียนรู้ อารมณ์ และจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดยาชนิดอื่นๆ ด้วย
ขณะที่ เลขาธิการ สคบ. “ธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์” ก็บอกว่า ในการจับกุมครั้งนี้ สคบ.ใช้กฎหมายตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 หากฝ่าฝืนต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 แสนบาท อีกทั้งยังผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2546 คือ ห้ามนำเข้า หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับอีก 4 เท่าของมูลค่า
แล้วในเมื่อเป็นของผิดกฎหมายและมีอันตราย ทำไมจึงมีโลโก้ของพรรคการเมืองที่มี สส.มากที่สุดในสภา ไปปรากฏอยู่ด้วย “รัฐมนตรีพวงเพชร” จึงบอกว่า จะให้ไปตรวจสอบดูว่า ทำไมถึงมีสัญลักษณ์ของพรรคก้าวไกล โดยอาจจะต้องย้ำพรรคการเมืองว่า ให้ตรวจสอบควบคู่ไปด้วยว่ามีการนำชื่อ สัญลักษณ์ และสีของพรรคการเมืองมาแอบอ้างในการทำสินค้าหรือไม่
โดนพาดพิงอย่างจังแบบนี้ “สส.ลิซ่า” ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล จึงต้องรีบชี้แจงว่า พรรคก้าวไกล ไม่เคยมีการผลิตสินค้าผิดกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องต่อสินค้าผิดกฎหมายที่ได้ตรวจพบอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังขอให้ “รัฐมนตรีพวงเพชร” ในฐานะรัฐมนตรีที่มีอำนาจ ตรวจสอบให้ได้ถึงต้นตอ ป้องกันปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างถึงที่สุดด้วย อย่าจบแค่จับของกลางและมาแถลงต่อสื่อมวลชน โดยไม่มีการทำงานเชิงลึกต่อ หวังว่าจะเห็นผลงานการทลายต้นตอของบุหรี่ไฟฟ้า
สรุปก็คือพรรคก้าวไกลปฏิเสธโดยสิ้นเชิงว่า ไม่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าติดตราพรรคก้าวไกล ที่ “รัฐมนตรีพวงเพชร” เอามาแถลง
แต่ถ้าลองย้อนอดีตไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ ก็จะพบว่า “พรรคก้าวไกล” กับ “บุหรี่ไฟฟ้า” มันมีอะไรที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกันอยู่
ลองไปเปิดดูนโยบาย 300 ข้อ ที่พรรคก้าวไกลใช้หาเสียงในการเลือกตั้งทั่วไป 14 พ.ค.66 ที่ผ่านมา
ข้อ 285 ระบุชัดเจนว่า “อนุญาตให้มีการผลิต นำเข้า และจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยได้” โดยมีข้อกำหนดเช่นเดียวกับบุหรี่ เช่น จำกัดอายุผู้สูบ ห้ามสูบในที่สาธารณะ การห้ามโฆษณาและจัดโปรโมชัน และต้องมีมาตรการในการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ เช่น การห้ามแต่งกลิ่น และรสของผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า
นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 23 ส.ค.65 “เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร” สส.พรรคก้าวไกล ผู้เป็นโต้โผรณรงค์เรื่องเหล้า-เบียร์เสรี ก็ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ เชิงตั้งคำถามว่า ทำไมกฎหมายไทยให้กัญชาถูกกฎหมาย แต่บุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมาย
“คนมาเลย์ งงว่าที่ไทยกัญชาถูกกฎหมาย แต่ vape กับบุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมาย ร้องถามว่า Why? กันหมด ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงอะครับ” สส.เท่าพิภพ โพสต์ไว้อย่างนี้
ล่าสุด ช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมานี่เอง เฟซบุ๊กเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” เมื่อวันที่ 17 ม.ค.67 ก็ได้โพสต์ภาพ สส.กำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า ที่รัฐสภา พร้อมข้อความว่า “#ทุกคนคะ หนูเจอชาย สูบบุหรี่ไฟฟ้า ตรงป้ายห้ามสูบบุหรี่ในรัฐสภาค่ะ พบว่า เป็น สส.พรรคดัง มีชื่ออยู่ใน กมธ.งบประมาณ หนูขอเรียกร้องให้ สส.เท่าพิภพ สส.โตโต้ และ สส.ไอซ์ ช่วยแนะนำวิธีสูบไม่ให้ถูกจับได้ด้วยค่ะ”
ถัดมาอีกวัน 18 ม.ค.67 เฟซบุ๊กเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ก็ได้โพสต์ภาพ สส.กลุ่มหนึ่ง นั่งอยู่ในร้านอาหารรัฐสภา โดยบนโต๊ะมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ข้างหน้าพร้อมระบุข้อความว่า “#ทุกคนคะ สส.ผู้ชาย ก้าวไกล เดี้ยวนี้เขาพก ลิปสติกแล้วหรือคะ เอ...หรือว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้าคะ สงสัยต้องเรียก สส.ลักแกง มาเป็นพยานแล้วค่ะ”
หลักฐานเป็นที่ประจักษ์แบบนี้ สังคมคงจะเชื่อยากอยู่แหละ ถ้าจะบอกว่าพรรคก้าวไกลไม่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าเลย!!
** “อุ๊งอิ๊งค์” เมินสงกรานต์ 21 วัน ทิ้ง “พ่อ” ปิ๊กบ้านปี๋ใหม่เมืองคนเดียว ยกครัวไปสาดน้ำที่ฮ่องกง ทั้งที่ประกาศเชิญชวนคนอื่นมาเที่ยวเมืองไทย
สงกรานต์ปีนี้ รัฐบาลส่งสัญญาณจัดใหญ่-จัดเต็มมาตั้งแต่ไก่โห่ ตามไอเดีย “สาดน้ำทั้งเดือน” ที่ชงมาโดย คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ที่มี “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะกรรมการ
นัยว่าเพื่อฉลองโอกาสที่ “ยูเนสโก” มอบประกาศนียบัตรรับรองประกาศขึ้นทะเบียน "สงกรานต์ในประเทศไทย" เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ชาติอย่างเป็นทางการ
ก่อนจะปรับเปลี่ยนในภายหลังเป็นแคมเปญ “สงกรานต์ 21 วัน” ทั้งภาครัฐ-เอกชน ระดมสรรพกำลังคลอดอีเวนต์ออกมาประชันกันอุตลุด เพื่อให้ความร่วมมือกับรัฐบาล จนออกมาเป็น งาน “Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” ที่มี กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ
เริ่มโปรแกรมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.67 ที่ จ.เชียงใหม่ ในงาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่” และปิดท้ายในวันที่ 21 เม.ย.67 ที่ จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีประเพณีวันไหลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี ในการโปรโมตทุกครั้ง ก็ไม่ลืมให้เครดิตว่า ภายใต้นโยบายคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ที่มี “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นประธาน
พร้อมประกาศเป้าหมายผลักดันเทศกาลสงกรานต์ไทย สู่ท็อปเทน 1ใน10 เทศกาลระดับโลก
โดยอีเวนต์ “สงกรานต์มหาเฟสติวัล” ของประเทศไทยในปีนี้ ถือว่าโด่งดังไปทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวสนใจ ที่จะเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศจำนวนมาก
ไม่กี่วันก่อนก็มีไวรัลเป็นนักท่องเที่ยวจีน แต่งตัวใส่เสื้อลายดอก จัดเต็ม ถือปืนฉีดน้ำเหงาๆ อยู่กลางแยกอโศก พร้อมบรรยายว่า “ควรเล่นกับใครดี เห็นบอกว่าเทศกาลสงกรานต์ประเทศไทยเริ่มแล้ว 1-21 เม.ย. ไม่เหมือนกับที่คิดเลย ขอคำอธิบายด้วยครับ"
ผิวเผินอาจมองว่า เป็นเพียง “คอนเทนต์” หยิกแกมหยอก ของนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่ลึกๆ แล้วก็แสดงถึงความไม่พร้อมของประเทศไทยในการจัดงานใหญ่ระดับนี้ เพราะอย่างน้อยเรื่องพีอาร์โปรโมต ก็ต้องชัดเจนว่า ห้วง 21 วันที่ว่า มีอีเวนต์ที่ไหน อย่างไรบ้าง
ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เกี่ยวข้องเองก็ “ออกตัว” ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า มหาสงกรานต์ 21 วันในปีแรกนี้ อาจจะไม่จัดเต็มรูปแบบ เพราะระยะเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จนหลายกิจกรรมจัดเตรียมไม่ทัน ทำให้ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ตามแผนที่วางไว้
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าเมื่อถึงเวลา บรรยากาศก็จะคึกคักอย่างแน่นอน ตามประสาคนไทยที่เรื่องปาร์ตี้ รื่นเริงไม่แพ้ชาติไหน โดยเฉพาะในช่วง 13-15 เม.ย.67 ที่เป็นช่วงวันหยุดยาว และนิยมสาดน้ำกันในช่วงนั้น
เอาว่าสงกรานต์คงจะคึกคักขึ้นเป็นพิเศษ แต่จะพิเศษใส่ไข่ขนาดที่รัฐบาลหวังไว้หรือไม่ ต้องรอดูในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
แต่ยังไม่ถึงสงกรานต์ดี ก็เกิด “ตลกร้าย” ขึ้นเมื่อมีรายงานข่าวว่า “แม่งาน” อย่าง “อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร” จะถือโอกาสช่วงวันหยุดยาว หอบครอบครัวไปพักผ่อนที่เกาะฮ่องกง ไม่ได้อยู่ร่วม“สงกรานต์มหาเฟสติวัล” ที่คนในรัฐบาลให้เครดิตว่า เป็นไอเดีย “อุ๊งอิ๊งค์”
การที่ “ท่านประธานซอฟต์เพาเวอร์” ไม่อยู่ร่วมงานสงกรานต์ในประเทศ สวนทางกับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ตัวเองเอ่ยปากเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์
กระทั่ง “พ่อษิณ” ทักษิณ ชินวัตร จะถือโอกาสกลับไปร่วมป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง ที่บ้านเกิด จ.เชียงใหม่ “ลูกอิ๊งค์” ก็ไม่ตามไปเหมือนเคย
เดิมทีคาดว่า “ประธานอิ๊งค์” เลือกไม่ติดตามพ่อไปเหนือ เพราะจะใช้เวลาตะเวนร่วมงานสงกรานต์ 21 วัน ที่มีการจัดในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
แต่ปรากฏว่า เจ้าตัวเลือกไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ จนอดคิดไม่ได้ว่า “ซอฟต์เพาเวอร์สงกรานต์” ไม่มีเสน่ห์ดึงดูด “ประธานอิ๊งค์” หรืออย่างไร
สำทับกับเสียงซุบซิบถึงความเหมาะสมของ “อุ๊งอิ๊งค์” ในการขับเคลื่อน ซอฟต์เพาเวอร์ไทยแลนด์ เพราะเป็นที่สังเกตว่า แม้จะเป็นตัวหลักในการโปรโมตซอฟต์เพาเวอร์ ซึ่งโดยมากก็เป็นทุกสิ่งอย่างที่ทีเอกลักษณ์ความเป็นไทย หรือสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ทั้งอาหาร ภาพยนตร์ ไปจนถึงเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ
ปรากฏว่า ทุกๆ ครั้งที่ “แพทองธาร” ปรากฏตัวต่อสาธารณะ เป็นที่สังเกตว่า มักมาในเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ “แบรนด์เนม” แพงระยับทั้งตัว แทบไม่เหลือพื้นที่ให้ “แบรนด์ไทย” เข้าไปสอดแทรกเลย
จริงอยู่ด้วยความที่ “อุ๊งอิ๊งค์” เป็นถึงทายาทตระกูลชินวัตร ที่มีความมั่งคั่งหลักแสนล้านบาท การจะแต่งกายด้วยชุด-เครื่องประดับราคาแพงขนาดไหน ก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าตัว เช่นเดียวกับการไปพักผ่อนที่เกาะฮ่องกง ที่เป็นเรื่องปกติของคนมีฐานะ
ถึงขนาดมีเรื่องเล่าว่า เศรษฐีบางคนมักเดินไปที่เกาะฮ่องกง เพื่อรับประทานโจ๊กแค่ถ้วยเดียว ประเภทบินไปตอนเช้าและบินกลับช่วงเย็น ก็มีมาแล้ว
ฐานะอย่าง “อิ๊งค์-แพทองธาร” หากจะบินไปฮ่องกงแบบเช้า-เย็น ทุกวัน ก็ไม่สะเทือนขนหน้าแข้งเช่นกัน หรือเอาจริง ก็ไม่ใช่แค่จะไปเที่ยวที่เกาะฮ่องกง แต่ยังข้ามทวีปไปเที่ยวยุโรป-สหรัฐฯ หรือที่ไหนๆ ในโลกก็ได้
แต่ก็ไม่ควรไปในช่วงที่ตัวเองเป็นประธาน ซอฟต์เพาเวอร์ แม่งานจัดงาน “สงกรานต์ 21 วัน” อย่างนี้.
