ปลัด ก.คลัง กาง 3 แหล่งที่มาเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต งบปี 68-ธ.ก.ส.-งบปี 67 รวมวงเงิน 5 แสนล้านก่อนเริ่มโครงการแน่นอน การันตีทำตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องครบถ้วน
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง แถลงถึงแหล่งที่มาเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ว่า ตามที่ให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาแหล่งเงิน ว่า วงเงิน 5 แสนล้านบาท จะสามารถบริหารจัดการได้อย่างไรบ้างนั้น โดยมีคำตอบแล้วว่า วงเงิน 5 แสนล้านบาทนี้ สามารถบริหารจัดการผ่านกระบวนการงบประมาณได้ทั้งหมด โดยเป็นการจัดการงบประมาณในปี 67 และปี 68 ควบคู่กันไป จะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1. งบประมาณปี 68 จำนวน 152,700 ล้านบาท ซึ่งได้มีการขยายกรอบวงเงินในปี 68 เรียบร้อยแล้ว 2. จะมาจากการดำเนินการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท รายละเอียดตรงนี้จะใช้มาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดูแลกลุ่มประชาชนที่เป็นเกษตรกรจำนวน 17 ล้านคน ผ่านกลไกมาตรา 28 ของปีงบประมาณ 68 และ 3. มาจากการบริหารจัดการเงินงบประมาณของปี 67 ของรัฐบาลเอง จำนวน 175,000 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณปี 67 เพิ่งใช้ ยังมีเวลาที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาว่ารายการไหนสามารถปรับเปลี่ยนได้ รวมถึงงบกลาง อาจจะมีการนำมาใช้เพิ่มเติมในส่วนนี้ถ้าวงเงินไม่เพียงพอ
“ดังนั้น ถ้ารวมส่วนที่ 1 ส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 เข้าด้วยกัน จะได้วงเงินอยู่ที่ 5 แสนล้านบาทพอดี ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า การดำเนินการแหล่งเงินเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ กฎหมายงบประมาณ หรือ พ.ร.บ.เงินตรา ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความกังวล โดย ณ วันที่เริ่มโครงการในปลายปี จะมีเงิน 5 แสนล้านบาทอยู่ทั้งก้อน ไม่ได้มีการใช้เงินสกุลอื่น หรือใช้มาตรการอื่นแทนเงิน ยืนยันว่า มีเงิน 5 แสนล้านบาทในวันที่เริ่มโครงการแน่นอน ขอให้มั่นใจว่าเราตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เงินที่จะเอามาจาก ธ.ก.ส. ทางรัฐบาลจะต้องมีการตั้งงบประมาณในการใช้หนี้เท่าไหร่ บวกดอกเบี้ยเท่าไหร่ และกระจายใช้หนี้ในเวลากี่ปี นายลวรณ กล่าวว่า เราใช้เงินของ ธ.ก.ส.ในงบปี 68 ซึ่งการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามมาตรา 28 สิ่งที่เราได้ตรวจสอบ คือ 1. อำนาจหน้าที่ของ ธ.ก.ส.สามารถทำได้ 2. สภาพคล่องของ ธ.ก.ส.มีเพียงพอ ซึ่งได้ยืนยันในที่ประชุมไปแล้ว แต่ถึงเวลาจริงๆ ที่ใช้ก็ต้องให้งบปี 68 ออกมาก่อน รายละเอียดจะตามออกมา
เมื่อถามว่า ให้ ธ.ก.ส.สำรองจ่ายไปก่อน คือ แจกให้เกษตรกรไปเลย มีกำหนดเวลาหรือไม่ว่า จะใช้หนี้คืน ธ.ก.ส.ได้เมื่อไหร่ นายลวรณ กล่าวว่า อันนี้เป็นกระบวนการทางงบประมาณ แต่ละปีต้องดูเหตุผลความจำเป็นและรายได้ที่ได้เข้ามา และเรามีการตั้งใช้คืนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเป็นระยะๆ อยู่แล้ว จึงต้องดูความเหมาะสมในแต่ละปีงบประมาณ
เมื่อถามว่า ในส่วนที่ใช้งบปี 67 รายละเอียดเป็นอย่างไร นายลวรณ กล่าวว่า งบประมาณปี 67 เพิ่งออกใช้ ฉะนั้น มีเวลาที่รัฐบาลจะบริหารจัดการเงินในส่วนนี้ ซึ่งเชื่อว่าเราอยู่ในวิสัยทัศน์ที่บริหารจัดการได้ แต่ว่าต้องให้เวลารัฐบาลหน่อย