วันอังคารที่ 9 เมษายน 2567 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่าง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เรื่องการให้ผู้ได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ขอรับสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลง นโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ต้องการให้ประชาชน สามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์เพื่อสร้างโอกาสในการมีอาชีพ รายได้ และความมั่นคงในชีวิต โดยรัฐบาล จะเร่งดำเนินการให้ประชาชนมีสิทธิในที่ดิน พิจารณาเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ให้เป็นโฉนด เพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ นำมาพัฒนาที่ดินเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นระยะยาว ประกอบ นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการเปลี่ยนเอกสารสิทธิที่ดินจากหนังสือ อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร พร้อมขยายสิทธิการใช้ประโยชน์ให้เป็น ที่ยอมรับเพื่อเพิ่มมูลค่าและใช้ค้ำประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้อย่างกว้างขวาง ในฐานะผู้รับผิดชอบการเปลี่ยนเอกสารสิทธิที่ดิน ได้ดำเนินการแก้ไขระเบียบให้รองรับโฉนดเพื่อการเกษตร ตลอดจนสิทธิและการใช้ประโยชน์ส่วนเพิ่มเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะการใช้โฉนดเพื่อการเกษตรเป็นหลักประกันเงินกู้กับ ธ.ก.ส.
ปัจจุบันมีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินใช้เอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เป็นหลักประกันสินเชื่อกับ ธ.ก.ส. ตามบันทึกข้อตกลงฉบับเดิม (ยังไม่ครอบคลุมถึงโฉนดเพื่อการเกษตร) ประมาณ 350,000 ราย และจากบันทึกข้อตกลงฉบับใหม่นี้จะทำให้ผู้ได้รับสิทธิสามารถเข้าถึง แหล่งเงินทุนจากวงเงินสินเชื่อ ธ.ก.ส. เป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร จำนวน 1 ล้านแปลง ในปี 2567 คิดเป็นวงเงิน สินเชื่อประมาณ 490,000 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าจากโฉนดเพื่อการเกษตรที่ค้ำประกันอยู่กับ ธ.ก.ส.เดิม และมูลค่าเพิ่มจากวงเงินกู้ใหม่ของโฉนดเพื่อการเกษตร ที่จะออกในปี 2567 จำนวน 650,000 แปลง นอกจากนี้เกษตรกรยังสามารถนำไม้ยืนต้นที่ปลูกในที่ดิน ส.ป.ก. ในรูปของ “โฉนดต้นไม้” ตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาเป็น หลักประกันสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. ได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เผยว่า “รัฐบาลมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะเห็นเกษตรกรในเขต ปฏิรูปที่ดิน มีที่ดินทำกิน สามารถพัฒนาอาชีพและรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยการใช้ ประโยชน์จากสินทรัพย์เพื่อพัฒนาอาชีพ รายได้ คุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวในระยะยาว ซึ่ง ส.ป.ก. ได้ดำเนินการยกระดับ ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมตลอดถึงการใช้ค้ำประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงินต่างๆ หรือการใช้โฉนดเพื่อการเกษตรเป็นหลักประกันตัวบุคคล โดย ส.ป.ก. จะยังคงแสวงหาความร่วมมือเพื่อขยายสิทธิประโยชน์ของโฉนดเพื่อการเกษตรเพื่อเสริมสร้างความผาสุกของพี่น้องเกษตรกร ในเขตปฏิรูปที่ดินต่อไป”