xs
xsm
sm
md
lg

ข้ามไม่พ้น“ทักษิณ” โชว์ฟิตเลี้ยงหลาน ติดลบ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร - แพทองธาร ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

แน่นอนว่าการโพสต์ภาพที่นายทักษิณ ชินวัตร กำลังเล่นน้ำกับหลานๆ พร้อมกับโชว์ความฟิตด้วยการยกดัมเบล แม้จะเป็นดัมเบลฟองน้ำก็เถอะ ย่อมต้องมีนัยการเมือง ส่วนผลจะออกมาแบบไหนนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และยิ่งคนโพสต์ คือ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว ที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มันก็มองได้ไม่ยากว่า มีเจตนาทางการเมืองบางอย่างแน่นอน

"อุ๊งอิ๊ง" ถ่ายรูปโชว์ใน อินสตาแกรม @ingshin21 พร้อมข้อความ “วันหยุด ณ บ้าน ตาตา สนุกสนานไม่อยากกลับกันเลยยย #babytitarnandhergrandpa #babythasinandgrandpa #mmdpskids”

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองจะร้อนแรงหรือไม่หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีการเคลื่อนไหวว่า นายทักษิณ ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร เท่าที่ดูก็แค่ออกมาเล่นน้ำกับลูกหลานในสระ เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อยู่ในบ้านกับครอบครัว เอามาพูดกับเรื่องยกดัมเบลไปกันใหญ่ ทั้งที่เป็นการออกกำลังกายในน้ำ อย่าพยายามไปขยายให้เป็นประเด็นเพราะบ้านเมืองสงบดีอยู่แล้ว

ถามว่า การที่นายทักษิณ ออกมาระบุในที่ประชุมสามัญพรรคเพื่อไทย ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีดีเอ็นเอเดียวกัน จะต้องเพิ่มบทบาทตัวเองอย่างไร หรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า นายทักษิณ พูดความจริงเพราะพ่อลูกก็ต้องมีดีเอ็นเอเดียวกัน ส่วนบทบาทที่จะเห็นทางการเมือง คือน.ส.แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ กับน.ส.แพทองธาร เขาเป็นพ่อลูกกัน เป็นสายเลือดแยกออกไม่ได้ อยู่ในบ้านทานข้าวพูดคุยธรรมดา อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมือง

ส่วนเรื่องงานของ น.ส.แพทองธาร ก็ดำเนินการปกติ และนายทักษิณ ก็พูดนานแล้วว่าหากประสบการณ์อะไรที่เขามีอยู่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนทั้งรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็สามารถปรึกษาได้ อย่ามองว่าท่านมาจะกลายเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง นายทักษิณก็คือนายทักษิณ เคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

เมื่อถามอีกว่า น.ส.แพทองธาร มีดีเอ็นเอ เดียวกับนายทักษิณ เป้าหมายก็เป็นนายกฯ เช่นเดียวกัน ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ต้องไปถาม น.ส.แพทองธาร

แม้ว่าคำพูดดังกล่าวของนายภูมิธรรม จะพยายามออกมาในแนวลดโทนทางการเมือง ชี้ให้เห็นว่าเป็นความสัมพันธ์กับลูกหลานก็ตาม แต่หากพิจารณาจากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็ย่อมมองออกว่า เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นว่าเวลานี้ นายทักษิณ กำลังกลับมาเป็น “หัวขบวน” ในการขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทย

เพราะหากข้ามเหตุการณ์ที่ นายทักษิณ กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มาที่เมื่อสองสามวันก่อนที่เขาวีดิโอลิงค์ เข้ามาในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ย่อมเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุด ได้กลับมาควบคุมพรรคอย่างเต็มตัว และพร้อมสำหรับการกำหนดทิศทางนับจากไปเป็นต้นไป ความหมายก็คือ นับจากนี้ไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะเดียวกันก็ได้ชูลูกสาวของตัวเอง คือ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นตัวแทนในการนำทัพสู้ศึกอย่างเต็มที่

นั่นเป็นความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวของเขา ที่เชื่อมโยงไปกับพรรคเพื่อไทย และทิศทางการเมืองในวันหน้า ซึ่งอาจเป็นการปลุกขวัญหรือความมั่นใจให้กับตัวเขา และพลพรรคเพื่อไทยมากขึ้น หลังจากที่ต้องพ่ายแพ้และเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบไม่เคยเจอมาก่อน

อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันในมุมภายนอก ก็ต้องบอกว่า อาจต้องพบกับปฏิกิริยาในทางตรงกันข้ามก็เป็นไปได้เหมือนกัน เพราะต้องไม่ลืมว่า กรณี “ติดคุกทิพย์” ภาพของ “อภิสิทธิ์ชน” และ “คนไม่เท่ากัน” ยังเป็นภาพติดตาของชาวบ้านหลายคน คงไม่มีใครเชื่อว่าเขาป่วยขั้นวิกฤตจริง แม้แต่พวกเดียวกันก็คงไม่เชื่อ เลยต้องเฉไฉบอกว่า “ถูกกระทำ” มานาน ต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งมันคนละเรื่อง

ภาพดังกล่าวนอกจากเป็นภาพลบของตัวเองแล้ว ยังทำลายศรัทธาลามไปถึงรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่รับรู้กันดีว่า “ร่วมด้วยช่วยกัน” และล่าสุดภาพการเล่นน้ำเริงร่ากับหลานๆ ในสระน้ำส่วนตัวในบ้าน และโชว์ความฟิตออกมาให้เห็นมันก็เหมือนกับการ “ประจาน” ด้วยตัวของมันเอง เนื่องจากมันไม่เหมือร่องรอยของผู้ป่วยขั้นวิกฤตที่เป็นเงื่อนไขสำหรับการ “พักโทษ” ของกรมราชทัณฑ์ เลยแม้แต่น้อย

แต่ถึงอย่างไรเชื่อว่านาทีนี้ “เขาไม่แคร์” เพราะมั่นใจว่า คุมทุกอย่างอยู่ในมือ ไม่มีใครทำอะไรได้แล้ว เหมือนกับก่อนหน้านี้เคยประกาศว่า หากใครไม่ชอบก็ “ต่างคนต่างอยู่” ก็แล้วกัน ซึ่งนั่นถือว่าเป็นการสะท้อนท่าทีออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุด เพราะมั่นใจว่าเวลานี้ “อยู่เหนือทุกอย่าง” แล้ว

จะว่าไปแล้วนี่คือตัวตนของ นายทักษิณ ชินวัตร มาตลอด ที่มัก “เหิมเกริม” ลุแก่อำนาจ หากเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกว่าคุมได้ทุกอย่าง อยู่ในมือแล้ว ก็ไม่แคร์ใครอีกแล้ว ขณะเดียวกันความมั่นใจที่ว่าก็มักทำลายเขามาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน จนต้องหลบหนีไปต่างประเทศเกือบยี่สิบปี

คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน คงมั่นใจว่ายังมีมวลชนที่สนับสนุนเป็นจำนวนมาก และคงเชื่อว่าด้วยศักยภาพของเขาก็สามารถดึงกลุ่มที่ตีตัวออกห่าง หรือไปหนุนฝ่ายตรงข้ามให้หันหัวเรือกลับมาอีกครั้ง เหมือนกับที่กล่าวกับส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อสื่อสารไปถึงคนข้างนอก ให้การสนับสนุน “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชนะเลือกตั้งในวันหน้า

แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ก็ต้องฟันธงอีกครั้งว่า “สถานการณ์” และบรรยากาศมันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว หลายคนก็มองตรงกันแล้วว่า สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร นาทีนี้อาจอยู่ในสภาพ “คนแก่ที่ตกยุค” ไปแล้ว อาจเป็นลักษณะที่ใช้ประสบการณ์คอยชี้แนะได้เป็นครั้งคราว คงไม่อาจเป็น “คีย์แมน” ตัวหลักได้เหมือนเดิม และที่สำคัญ มันมีคู่แข่งใหม่ ที่สดกว่า ขณะที่ภาพลักษณ์ในเวลานี้ของเขาที่ออกมาเป็นพวก “อภิสิทธิ์ชน” จึงออกมาแบบติดลบ รวมไปถึงนโยบายต่างๆ ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ไปมากกว่าพรรคอื่น และคำพูดที่บอกว่า “คิดใหญ่ ทำเป็น” เวลานี้กำลังรัดคอตัวเอง

ดังนั้น พิจารณาจากความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่มีภาพสะท้อนออกมาแต่ละช็อต มันไม่ต่างจากการท้าทายความรู้สึกของสังคม แม้ว่านาทีนี้คงไม่อาจทำอะไรได้มากมาย แต่ก็เพิ่มอารมณ์สะสมขึ้นทุกวัน และที่สำคัญก็คือ ยังเป็นการสะสมความเสื่อมศรัทธา เกิดภาพลบมากขึ้นเรื่อยๆ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น