ป.ป.ช. แจงผลคดี "ฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ" อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน ร่ำรวยผิดปกติ ชี้ศาลอาญาทุจริต สั่งยึดทรัพย์ 52,491,368.33 บาท ตกเป็นของแผ่นดินตามป.ป.ช.ชี้มูล
วันนี้ (9 เม.ย.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีตามคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่ง ป.ป.ช. ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินรวมมูลค่า 52,491,368.33 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน
สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ที่ประชุมมีมติให้ส่งรายงาน สำนวน การไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาล สั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน
ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ก.ค.66 ความแพ่ง เรื่อง ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน คดีหมายเลขดำที่ พท 1/2565 คดีหมายเลขแดงที่ พท 2/2566 ระหว่างอัยการสูงสุด ผู้ร้อง กับนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ ผู้ถูกกล่าวหา และ นางทิพวัลย์ ฉัตรภูติ ผู้คัดค้าน ได้ความว่า ศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินในชื่อผู้ถูกกล่าวหา พร้อมดอกผลรวมเป็นเงิน 44,858,877.33 บาท กับทรัพย์สินในชื่อผู้คัดค้าน พร้อมดอกผลรวมเป็นเงิน 7,632,491 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ให้ผู้ถูกกล่าวหา และผู้คัดค้าน ส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินและทรัพย์สินที่มีคำพิพากษาให้ตกเป็นของแผ่นดิน หรือเอกสารที่เกี่ยวกับการรับช่วงทรัพย์ของเงิน หรือทรัพย์สินดังกล่าว พร้อมกับให้โอนกรรมสิทธิ์หรือชำระเงิน พร้อมดอกผลของทรัพย์สินที่มีคำพิพากษาให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยกระทรวงการคลัง หากไม่โอน ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา หากผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านไม่สามารถโอนทรัพย์สินให้แก่แผ่นดินได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม ให้ผู้ถูกกล่าวหาชดใช้เงินแทนทรัพย์สินที่มีคำพิพากษาให้ตกเป็นของแผ่นดิน หรือให้โอนทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาตามสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินที่ขาดอยู่แก่แผ่นดินแทนจนครบถ้วน
สำหรับทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่า 52,491,368.33 บาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวที่ศาลมีคำพิพากษา ตรงกับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทุกรายการ โดยมีรายละเอียดคือ ทรัพย์สินในชื่อนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ ประกอบด้วย 1. เงินชำระค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตบริษัท อเมริกันเอ็กซ์เพลส (ไทย) จำกัด ช่วงวันที่ 20 ส.ค.45 ถึงวันที่ 1 พ.ค. 49 รวมเป็นเงิน 34,518,129.57 บาท 2. เงินค่าเช่าซื้อรถยนต์เบนซ์ 2 คัน รวม 10,340,747.76 บาท
ทรัพย์สินในชื่อนางทิพวัลย์ ฉัตรภูติ คือ เงินฝากในธนาคาร ช่วงวันที่ 20 ส.ค.45 ถึงวันที่ 1 พ.ค.49 จำนวน 7,632,491 บาท