“พิมพ์ภัทรา” เผยหลังประชุม ครม.เตรียมแจงวิธีเคลื่อนย้ายกากแคดเมียม เร่งสืบหาที่เหลืออีก 5,000 ตัน ลั่นปกป้องคนดี ส่วนใครทำผิดต้องรับผล
วันนี้(9 เม.ย.) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงความคืบหน้าสถานการณ์กากแคดเมียมรั่วไหล ที่ประชาชนมีความกัลวลว่าขณะนี้มีจำนวนเท่าไหร่ ว่า ยอดรวมที่ออกจากโรงงาน มีประมาณ 13,000 ตัน แต่ยังคงมีตัวเลขที่เราต้องค้นหาอีกประมาณ 5000 ตัน ตอนนี้ได้รับความร่วมมือจาก กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม( บก.ปทส.) ที่ทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม โดยได้ไปตามจุดที่สงสัย ซึ่งเมื่อวานมีรายงานมาหนึ่งจุดแต่พอเข้าไปตรวจสอบแล้วก็ยังไม่ใช่ ขณะที่การค้นหาก็ยังคงดำเนินการต่อไป ส่วนการนำกากของเสียไปด้วยวิธีการไหนอย่างไรนั้น ก็ต้องทำกันไป อีกกระบวนการหนึ่งคือการสอบหาข้อเท็จจริง ว่ามันมาและได้อย่างไร
ส่วนการหาข้อเท็จจริงจะมีคำตอบได้เมื่อไหร่ นางสาวพิมพ์ภัทรา ระบุว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และเบื้องต้นไม่มีการออกคำสั่งไปแล้วโดยให้ทางปลัดกระทรวงฯ ได้ขอตัวอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เข้ามาช่วยราชการในกระทรวงก่อน เพื่อหาข้อเท็จจริง ขณะที่วันนี้ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการแถลงความคืบหน้าเรื่องของคณะทำงาน ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่สามารถทำคนเดียวได้ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากหลายภาคส่วน หาคำตอบว่ากากของเสียที่เหลืออยู่ไหน จะได้คลายความสงสัย ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการเคลื่อนย้าย การเอากากของเสียเอาไป ในพื้นที่หรือการกำจัดที่ต้องใช้ความร่วมมือจากหลายกระทรวง
เมื่อถามว่ามีความชัดเจนแล้วหรือยัง ถึงการเคลื่อนย้ายกากแคดเมียม ออกจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครไปในพื้นที่อื่นได้อย่างไร นางสาวพิมพ์ภัทรา ตอบว่ายัง แต่เรื่องเคลื่อนย้ายเราต้องซีเรียสนิดนึง ที่ต้องเป็นไปตามกระบวนการ อีไอเอ ตอนนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอความร่วมมือไปยังกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีก็จะมีความชัดเจน
เมื่อถามว่า การตรวจสอบมีความชัดเจนแล้วหรือไม่ว่าการเคลื่อนย้าย กากแคดเมียมจากสมุทรสาครไปจังหวัดชลบุรี ได้อย่างไร นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่าตอนนี้เราได้รับความร่วมมือจากบก ปทส. ที่กำลังสืบข้อเท็จจริงอยู่หลายช่องทาง
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้อาจจะมีคนใน เข้ามาเกี่ยวข้อง นางสาวพิมพ์ภัทรากล่าวว่า ตนปกป้องคนดีคนที่ทำถูกต้อง ถ้าใครไม่ถูกต้องก็ต้องรับผล ที่ตัวเองกระทำไป การสอบข้อเท็จจริงจำเป็นต้องให้สังคมได้รับรู้ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะจริงๆมันควรอยู่ในที่ ที่ควรอยู่