“ก้าวไกล” ยังไม่ปรับทัพใหม่ รอข้อสรุปคดียุบพรรค เดินหน้างานท้องถิ่น-สภาเชิงรุก ด้าน “ไอติม” ปัดรับตำแหน่งหัวหน้าพรรครุ่นต่อไป ย้ำ พรรคใหญ่กว่าคน มุ่งทำงานพาประเทศสู่เป้าหมาย
วันนี้ (6 เม.ย.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงผลการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 พรรคก้าวไกล ว่า วาระหลักที่พูดคุยกัน คือ การสร้างพรรค ทั้งส่วนการทบทวนผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และตัวเลขสมาชิกพรรคที่เกือบถึงแสนคน รวมถึงมีตัวแทนพรรคประจำอำเภอเกือบ 200 อำเภอทั่วประเทศ และยังพบอัตราการต่ออายุสมาชิกพรรครายปีเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลเติบโตอย่างเข้มแข็ง และประชาชนไว้วางใจทุกพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีมติแก้ไขข้อบังคับพรรคเพื่อให้กระบวนการสมัครสมาชิกพรรคง่ายขึ้น เพื่อสอดคล้องกับระเบียบการสมัครสมาชิกพรรคของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็สมัครสมาชิกพรรคได้ ส่วนการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหาร พรรคก้าวไกลนั้น ได้มีมติให้เลื่อนการพิจารณาออกไปจนกว่าจะมีข้อสรุปคดียุบพรรคที่ค้างอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ
ในการสัมมนา ส.ส.วานนี้ (5 เม.ย.) ได้มีการพูดคุยถึงแผนการทำงานของพรรคก้าวไกลในอนาคต แม้จะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม แต่พรรคก้าวไกลจะขับเคลื่อนงานใน 5 ด้านหลักด้วยกัน ประกอบด้วย งานสภา โดยจะมีการเสนอกฎหมายเพิ่มเติมจากประมาณ 50 กว่าร่าง รวมถึงผลักดันงานในคณะกรรมาธิการ การพัฒนางานเชิงพื้นที่ โดยจะให้ สส.พรรคก้าวไกลลงไปรับฟังปัญหาประชาชน และนำปัญหากลับมาแก้ไขต่อไป ต่อมาคืองานเชิงประเด็น ซึ่งพรรคก้าวไกลมีการแบ่งกลุ่มต่างๆ อยู่แล้ว เช่น งานด้านสิ่งแวดล้อม งานด้านดิจิทัล งานด้านการศึกษา ฯลฯ ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงที่แต่ละทีมจะขยายเครือข่าย และองค์ความรู้ให้ครอบคลุม และตรงประเด็น
อีกทั้งงานด้านท้องถิ่น พรรคก้าวไกลได้เปิดตัวการลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ไปบ้างแล้ว 16 จังหวัด และงานด้านการสร้างพรรคเพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกพรรคให้ทะลุแสนคน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้พบปะกับตัวแทนพรรคทั่วประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนการทำงาน
ขณะที่คดีการยุบพรรคนั้น เป็นหน้าที่ของทีมกฎหมายที่จะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบหลัก ร่วมกับกรรมการบริหารของพรรค ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการกำหนดกรอบเวลาให้ยื่นคำชี้แจงต่อข้อกล่าวหาในเบื้องต้น 15 วัน แต่พรรคเห็นว่า พอจะมีช่องทางกฎหมายที่สามารถขยายเวลาได้ และหลังจากส่งคำชี้แจงหลังสงกรานต์ไปแล้ว พรรคก้าวไกลจะมีการแถลงต่อสาธารณะถึงแนวทางในการสู้คดีอย่างเป็นระบบ และละเอียดอีกครั้ง
นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มองว่า หากมีการยุบพรรคก้าวไกลแล้วจะส่งผลกระทบกับการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นว่า ในเชิงทิศทางการทำงานไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร เพราะเราประกาศชัดว่าการบริหารท้องถิ่นเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่คนซึ่งเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลสามารถเข้ามาพัฒนาท้องถิ่น และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้ แม้จะไม่มีชื่อพรรคก้าวไกลแล้ว แต่ ณ วันนั้นในเชิงกฎหมายค่อยว่ากัน แต่ย้ำว่า ในภาพรวมคนที่เขามีเป้าหมายตรงกับพรรคก้าวไกลยังไงก็ไปต่อได้อยู่แล้ว
ส่วนกรณี ส.ส.งูเห่า เชื่อว่าทุกคนที่สังกัดพรรคก้าวไกล ในมุมหนึ่งทุกคนมีอุดมการณ์ที่ตรงกันว่า อยากเห็นอนาคตประเทศไทยอย่างไร และอีกมุมหนึ่งเข้าใจถึงความเสี่ยงของสภาวะนิติสงครามภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ยังไม่ปกติ ดังนั้นจึงเชื่อว่าทุกคนจะเดินหน้าต่อร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เราอยากเห็นร่วมกัน
ขณะที่ภาพรวมการทำงานของฝ่ายค้านในช่วงเวลาที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลมีการประเมินผลการทำงานเป็นระยะ เราพยายามยกระดับการทำงานต่อไป หลังจากมีการตั้งรัฐบาล เราจะทำหน้าที่ในฝ่ายค้านเชิงรุก และพยายามผลักดันวาระทางสังคมที่สำคัญโดยไม่ต้องรอรัฐบาล ซึ่งเห็นได้ชัดที่สุดคือในทุกสัปดาห์จะมีการพูดคุยกฎหมายของพรรคก้าวไกลในสภา โดยตรงนี้เป็นกลไกสำคัญที่กระตุ้นรัฐบาลให้มองเห็นถึงปัญหาที่พรรคก้าวไกลมองว่าเป็นปัญหา และรัฐบาลจะต้องมีชุดคำตอบของตัวเองต่อปัญหาดังกล่าว แม้จะมีรายละเอียดที่แตกต่างจากพรรคก้าวไกลบ้าง
นายพริษฐ์ กล่าวย้ำว่า เราใช้ทุกกลไกของสภา ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรารู้ว่า เป็นอาวุธที่ฝ่ายค้านมีในมือ แต่เราจะใช้มันอย่างถูกจังหวะ ถูกเวลา และคุ้มค่าที่สุด ไม่อยากให้มองว่า กลไกที่ฝ่ายค้านมีแค่การอภิปราย แต่ยังมีการตั้งกระทู้ถาม ทำให้เราสามารถถามแทนพี่น้องประชาชนต่อรัฐบาลในประเด็นที่รัฐบาลอาจเดินไม่ตรงจุด รวมถึงกลไก กมธ. ที่ทางพรรคก้าวไกลพยายามขยายองค์ความรู้ในการเสนอแนะ
นายพริษฐ์ ยังตอบข้อซักถามหลังมีกระแสว่าจะเป็นหัวหน้าพรรครุ่นต่อไปว่า พรรคการเมืองทุกพรรคต้องใหญ่กว่าคนอยู่แล้ว ในมุมหนึ่งทุกพรรคการเมืองต้องเสริมทักษะความเป็นผู้นำให้แก่คนในพรรคอยู่แล้ว และพรรคก้าวไกลทำงานเป็นทีมมาตลอดเพื่อให้การทำงานนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายให้เร็วที่สุด ย้ำว่า พรรคใหญ่กว่าคน ตอนนี้เราเป็นพรรคก้าวไกล นำโดยหัวหน้าพรรค ประธานที่ปรึกษา ซึ่งพรรคมีความเข้มแข็งในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงมีความพร้อมหากได้รับเลือกจากประชาชนเข้าไปบริหารประเทศ
ทั้งนี้ กระแสข่าวการตั้งพรรคสำรองนั้น ยืนยันว่าพรรคอนาคตไกลไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล เพราะตอนนี้สมาธิเราโฟกัสอยู่แค่ 2 อย่างคือ ทำอย่างไรให้เราพิสูจน์กระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญได้ และทำงานเต็มที่ผ่านกลไกทางการเมืองต่างๆ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในฐานะพรรคก้าวไกล
เราเห็นว่า ที่ผ่านมา การยุบพรรคการเมืองคือเครื่องมือในการทำลายล้างฝั่งตรงข้าม หากเราดูมาตรฐานประชาธิปไตยสากลจะไม่มีการยุบพรรคเกิดขึ้น หากมีพรรคไหนที่กรรมการบริหารพรรคทำอะไรผิดจะเป็นการลงโทษบุคคล พรรคการเมืองควรเป็นสถาบันทางการเมืองที่ควรจะใหญ่กว่าคนใดคนหนึ่ง หรือคณะบริหารชุดใดชุดหนึ่ง