‘สุทิน’ ฉะ ฝ่ายค้าน คิดไปเอง ยัน ‘หนองวัวซอโมเดล’ ไม่ใช่โครงการเก่า ชี้สเกลต่างกัน การพิสูจน์สิทธิ์ก็ต่างกัน ซัดบางฝ่ายยุยงปลุกปั่นชาวบ้านจนเกิดปัญหา
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2567 ที่กระทรวงกลาโหม นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ชี้แจงกรณี สส.พรรคฝ่ายค้าน อภิปรายโครงการหนองวัวซอโมเดลว่าไม่ใช่โครงการใหม่ ว่า เป็นการคิดและพูดไปเอง เพื่อเสื่อมราคาหรือด้อยค่าผลงานรัฐบาล ทั้งนี้ แม้หนองวัวซอโมเดลคล้ายจะเป็นของเก่า แต่ไม่เหมือนของเก่า ทั้งขนาดพื้นที่ในโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์เก่า มีพื้นที่นิดเดียว ใช้ที่บางจุดบางเรื่องที่มีปัญหา ขณะที่หนองวัวซอโมเดลนั้น มีสเกลที่ใหญ่ ส่งผลดีต่อประชาชนจำนวนมาก ขั้นตอนและวิธีการทำงานก็แตกต่างกัน ของเก่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์สิทธิ์ และพิจารณาเพียงแค่ว่าอะไรที่พอจะช่วยได้ก็จะช่วย ซึ่งเป็นข้อที่แตกต่างกัน ยืนยันว่าไม่เหมือนกัน รวมทั้งเป้าหมายของพื้นที่ที่จัดสรรให้ประชาชน ก็เป็นที่ดินคนละที่ด้วย
เมื่อถามว่ามีการโจมตีว่าพื้นที่ในโครงการหนองวัวซอโมเดล เป็นที่ดินของชาวบ้านเดิมอยู่แล้ว ทำไมชาวบ้านจึงต้องเสียค่าเช่าอีก นายสุทิน กล่าวว่า เขาคิดไปเองว่าเป็นพื้นที่ของชาวบ้าน จึงเป็นที่มาของการยืนยันว่ากระบวนการพิสูจน์สิทธิจะเป็นคำตอบ แต่ที่แน่ๆ คือมีการพิพาทกันมาตลอด หากเป็นที่ดินของชาวบ้านอย่างชัดเจน จะไม่มีข้อพิพาท เมื่อพิพาทจึงต้องพิสูจน์สิทธิ์
“ฉะนั้น เมื่อวานที่ผมพูดในสภา สส.หน้าใหม่ๆ ท่านอยู่ที่ไหนไม่รู้ จังหวัดไหนไม่รู้ ประสบการณ์เรื่องนี้มีมากแค่ไหนไม่รู้ แล้วจะไปสรุปว่าอันนี้ของชาวบ้านที่นู่นที่นี่ มันง่ายไป แม้แต่คนที่อยู่ในพื้นที่ เรื่องที่ดินจะเป็นของใครยังพิสูจน์ได้ยากมาก เกิดที่บ้านผมเองแท้ๆ ยังเถียงกันไม่จบ ต้องพิสูจน์กันลึกมาก
"คุณอยู่จังหวัดไหน คุณไปตัดสินได้เลยว่าที่นั่นเป็นของชาวบ้านไม่ได้ ต้องเชื่อกระบวนการพิสูจน์สิทธิ ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากสามารถฟ้องร้องพิสูจน์ความจริงได้ หากพิสูจน์สิทธิ์แล้วพบว่าไม่ใช่ที่ดินของตน ก็สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง หรือยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาได้ ซึ่งผมมองว่าน่าเชื่อถือ” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าเจ้าหน้าที่ได้ไปชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจอย่างแท้จริง ถึงกระบวนการขั้นตอนในการพิสูจน์สิทธิ์ นายสุทิน กล่าวว่า มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ไปชี้แจ้งอย่างถูกต้อง แต่ที่เป็นปัญหา เนื่องจากเมื่อเจ้าหน้าที่ไปชี้แจง ก็มีอีกฝ่าย ไปเบี่ยงเบน ไปยุยง หรือไปสร้างความไขว้เขวให้ชาวบ้าน ไปยุยงไปสร้างความหวังให้ชาวบ้านอีกแบบหนึ่ง จึงเกิดปัญหา