xs
xsm
sm
md
lg

ซักฟอกฝ่ายค้านตกเกรด เศรษฐา ลอยลำ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
เมืองไทย 360 องศา

จะเรียกว่าผิดหวังก็คงไม่ได้ กับการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล เพราะไม่ได้คาดหวังตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว รวมไปถึงเมื่อพิจารณาจากผลงานในสภาที่ผ่านมา รวมไปถึงการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติตาม มาตรา 152 ที่ใช้เวลาอภิปราย 2 วัน คือตั้งแต่วันที่ 3-4 เมษายน แม้ไม่อาจทนฟังได้ครบตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ก็พอสรุปตัดเกรดให้เห็นว่า ไม่มีหมัดเด็ด หรือมีลำหักลำโค่นมีน้ำหนักพอที่จะเขย่ารัฐบาลได้เลย ตรงกันข้ามกลับถูกฝ่ายรัฐบาลโต้กลับได้ทุกดอก

หากพิจารณากันตามภาพรวมๆ แล้ว การอภิปรายของฝ่ายค้านมักจะเน้น “วาทกรรม” แบบเดิมๆ และการอภิปรายก็ยังเป็นประเด็นเก่าๆ เดิมๆ ที่เคยพูดมาแล้วทุกครั้ง เนื้อหาก็วกวนอยู่กับเรื่อง “ด้อยค่ากองทัพ” การแก้ไข หรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ไม่เน้นในบางเรื่องที่สังคมกำลังจับตามอง เช่น ไม่ได้แตะต้องกรณี “ย่ำยีกระบวนการยุติธรรม” ความเสมอภาคทางกฎหมาย แต่กลับไปเน้นหนักในเรื่องการคุมขังนักโทษการเมือง ซึ่งเป็นมุมมองที่น่าจะคลาดเคลื่อนไปมากกว่าการทำผิดในคดีอาญา ที่กฎหมายบัญญัติความผิดเอาไว้อยู่แล้ว

แน่นอนว่า ในหลายเรื่องที่พรรคฝ่ายค้าน อย่างก้าวไกลนำมาอภิปราย “ซักฟอก” รัฐบาล แต่ในสถานการณ์ตอนนี้เชื่อว่ามัน “ไม่ถูกกาลเทศะ” คนละบรรยากาศ กลายเป็นว่า “หมกหมุ่น”อยู่กับเรื่องเดิมๆ แต่เรื่องที่ชาวบ้านอยากรู้ อยากฟังกลับไม่มีการพูดถึง

อาจจะมีบ้างบางคนที่อภิปรายแบบได้น้ำได้เนื้อ เช่น กรณีของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ที่อภิปรายเกี่ยวกับนโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” จนให้มองเห็นภาพว่า รัฐบาลจะนำเงินมาจากแหล่งใดบ้าง เช่น แบ่งมาจากงบประมาณ ปี 67 ตั้งงบขาดดุลเป็นประวัติการณ์ในงบปี 68 รวมไปถึงการเล่นแร่แปรธาตุจากรัฐวิสาหกิจ หรือจากแบงก์รัฐในบางส่วน ทำให้มองเห็นภาพว่า รัฐบาลกำลังเข้าตาจน หาทางออกไม่เจอ อะไรประมาณนี้ และเชื่อว่าในการแถลงของฝ่ายรัฐบาล ในวันที่ 10 เมษายน นี้ หากเดินหน้าต่อ ก็คงออกมาในรูปแบบดังกล่าวตามที่คาดการณ์กันไว้

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ กลับมีลำหักลำโค่นได้หนักหน่วงกว่า แม้ว่าจะใช้คนอภิปรายไม่มากนัก แต่กับการลุกขึ้นอภิปรายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ซักฟอกซัดไปที่นายทักษิณ ชินวัตร เข้าไปตรงๆ ที่เป็นนักโทษเทวดา ซัด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เอาแต่เดินสายต่างประเทศ แต่ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เปรียบเทียบให้เห็นว่าเป็นแค่ “แมลงวัน” ไม่ได้เรื่อง ไม่ใช่นกอินทรีที่หนักแน่น โฉบเหยื่อเป็นเรื่องเป็นราว แม้ว่าการอภิปรายของ นายจุรินทร์ จะมีเรื่องวาทะ แต่ก็สะท้อนให้เห็นภาพได้จนน่าคล้อยตาม และทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้กลับมาจากบรรดา “องครักษ์ในคอก” ที่แตะนายใหญ่ไม่ได้เป็นอันขาด

อีกด้านหนึ่ง กลายเป็นว่าฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กลับมีการชี้แจงได้ดีกว่า และเรียกว่าตอบโต้ได้ “ทุกเม็ด” เช่น การตอบโต้ถึงพฤติกรรมย้อนแย้งของพรรคก้าวไกล ในเรื่องการจัดหาเรือฟริเกตของกองทัพเรือ เป็นต้น

นายเศรษฐา ได้ชี้แจงต่อข้อซักถาม ประเด็นของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในประเด็นการปฏิรูปกองทัพ และการจัดซื้ออาวุธที่กังวลว่าจะมีประเด็นเงินทอน ว่า ตนฟังการอภิปรายที่วิจารณ์กระทรวงกลาโหม ที่เป็นเรื่องเดิมๆ แล้ว ตนผิดหวัง เพราะมีแต่น้ำ

นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่ากองทัพมีไว้เพื่อความมั่นคงของประเทศไม่ใช่ความมั่งคั่งของใคร สำหรับวาทะกรรมด้อยค่า เช่น ภาพลักษณ์ตกต่ำ ใช้ไอโอ ต่างๆ ตนคิดว่า ให้เวลารัฐบาลบริหารให้ครบ 4 ปี ประชาชนตระหนักดีตอนจบ ว่าคนใช้ ไอโอ ครอบงำ ให้คนหน้ามืดตามัวเป็นใคร เรื่องของรัฐบาล และ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ทำยืนยันว่าพัฒนาร่วมกัน

“ผมเชื่อว่า 7เดือนที่ผ่านมาพัฒนาไปในทางที่ดี เช่น สมัครใจเกณฑ์ทหาร ผมคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ รมว.กลาโหม เรื่องซื้ออาวุธและนำอย่างอื่นเข้ามาด้วย ให้ระยะเวลาอีกสักพักจะได้เห็นผลงานที่ทำต่อเนื่อง การคืนพื้นที่ หนองวัวซอโมเดล ตอนนี้รัฐบาลทำแล้วคืบหน้า เชิญ ผบ.ทบ.คืนพื้นที่ จ.ลพบุรี เพื่อทำระบบชลประทานให้ประชาชน และพื้นที่ทำกิน”

นายเศรษฐา ชี้แจงส่วนเรื่องเงินทอนฝ่ายค้านพูดมาหลายหน ซึ่งตนก็บอกแล้วว่า หากจะมีเงินทอนก็ขอหลักฐานมา เรื่องฟริเกต ที่เชียร์กันเหลือเกิน หากตนพูดกลับไปว่าท่านมีเงินทอน คงไม่พอใจเหมือนกัน ดังนั้นควรนำหลักฐานพูดคุยกัน

“ผมฟังมา 40 นาที พบว่าเป็นฝ่ายค้านที่ยังงง เพราะเคยพูดว่า เอาเรือประมงมารบแทนเรือรบ แต่ตอนนี้สนับสนุนให้ซื้อเรือรบอีก ผมขอให้พูดในเนื้องานมากกว่าวาทะกรรม การซื้ออาวุธจะทำอย่างโปร่งใส แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆจะได้ประโยชน์ ยืนยันกองทัพมีไว้เพื่อความมั่นคงของประเทศ” นายเศรษฐา ชี้แจง

ทั้งนี้ ก่อนที่นายกฯ จะลุกขึ้นอภิปราย นายวิโรจน์ ได้อภิปรายการบริหารของกระทรวงกลาโหม เป็นเวลา 41 นาที โดยตอนหนึ่ง นายวิโรจน์ได้ตำหนิรัฐบาลที่ตัดงบประมาณซื้อเรือฟริเกตประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยนายวิโรจน์ อ้างว่า รัฐบาลไม่ควรตัด เพราะการซื้อเรือฟริเกต จะเป็นการสนับสนุนการต่อเรือในประเทศ และกองทัพเรือมีความต้องการเรือฟริเกต 10 ลำ แต่ขณะนี้มีเพียง 4 ลำเท่านั้น

ส่วน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจง ว่าการอภิปรายทั่วไป คือการซักถาม หรือเสนอแนะต่อรัฐบาล แต่ฟังการอภิปรายแล้วก็พบว่า เป็นข้อกล่าวหา โดยเฉพาะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายกล่าวหากระทรวงกลาโหม ว่ารัฐบาลหลอกลวงตบตาประชาชน

“ท่านวิโรจน์จั่วหัวว่า เราหลอกลวงประชาชนบ้าง ตบตาประชาชนบ้าง จริงๆ แล้วถ้าฟังวันนี้ คนที่หลอกลวงประชาชน คนตบตาประชาชน คือท่านวิโรจน์ ตบตาอย่างไร ท่านไปโฆษณาไว้ว่า การอภิปรายวันนี้จะคุณภาพคับแก้ว ชวนให้คนติดตามฟังเต็มบ้านเต็มเมือง แต่เอาเข้าจริงแล้วเป็นเรื่องเก่าๆ มาก เรื่องเดิมที่ท่านเคยพูด ผมเคยตอบ และ 90% เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรัฐบาลเก่า ”

เอาเป็นว่า การอภิปรายของ ฝ่ายค้านคราวนี้ โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลถือว่า ไม่มีมาตรฐานเอาเสียเลย เพราะไม่มีลำหักลำโค่นให้เห็นเลย ทั้งที่น่าจะเป็นการอภิปรายที่สามารถทำให้ฝ่ายรัฐบาลซวนเซได้ไม่น้อย แม้ว่าจะไม่มีการลงมติก็ตาม กลายเป็นว่า มีแต่เรื่องเก่า หมกมุ่นอยู่แต่เรื่องเดิมๆ ที่บรรยากาศเปลี่ยนไปแล้ว หลายคนเคยคาดหวังว่าน่าจะเป็นการอภิปรายทิ้งทวนก่อนที่ศาลพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ตรงกันข้ามกลับทำให้ฝ่ายรัฐบาลได้ชี้แจง โดยเฉพาะทำให้ นายเศรษฐา ทวีสิน สอนมวยได้ทุกดอก ทุกเม็ด ไปเสียอีก !!


กำลังโหลดความคิดเห็น