ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องของ กกต.เสนอให้ยุบพรรคก้าวไกล เหตุเสนอแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองฯ ให้โอกาสยื่นแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน
วันนี้ ( 3 เม.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลมี พฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเข้าลักษณะการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคก้าวไกลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 มาตรา 92 และขอให้เพิกถอนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่จดทะเบียนขึ้นใหม่ด้วยเป็นระยะเวลา 10 ปี
โดยศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายแล้วเห็นว่า เป็นกรณีที่นายทะเบียนพรรคการเมืองมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลกระทำการตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 จึงมีคำคำสั่งให้รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีการการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญปี 2561 มาตรา 7 (13) ศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบมาตรา 92 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และจะแจ้งให้ นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบพร้อมส่งสำเนาคำร้องให้กับพรรคก้าวไกลยื่น คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันได้รับสำเนาคำร้องนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2567 ที่ประชุม กกต.มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค จากกรณีก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้วใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยก่อนที่ประชุมมีมติดังกล่าวได้มีการพิจารณาผลการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา และความเห็นที่สำนักงาน กกต.เสนอ ว่า การกระทำของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายเป็นความผิดมาตรา 92(1) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560