xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายค้านส่อเมินถกวิป 3 ฝ่าย ตกลงกรอบเวลาใหม่ ย้ำ รบ.ให้ 22 ชม.เอง แนะเลิกดึก ดักใช้เสียงข้างมากดันไม่สง่างาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฝ่ายค้านส่อเมินถกวงวิป 3 ฝ่าย ตกลงกรอบเวลาใหม่ ยันเวลาฝ่ายค้าน 22 ชม.ที่เสนอโดยฝ่าย รบ.เอง หากเปลี่ยนก่อนประชุมเพียง ชม.เดียว คงไม่ทัน เหตุแบ่งเวลา-เตรียมข้อมูลแล้ว ชงทางออกเพิ่มเวลาประชุมให้เลิกดึกทั้ง 2 วัน หากดึงดันใช้เสียงข้างมากโหวดกรอบใหม่ ถือว่าไม่สง่างาม และปิดกั้นตรวจสอบ

วันนี้ (2 เม.ย.) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อตกลงกรอบเวลาการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ใหม่ โดยลดเวลาของฝ่ายค้านจาก 22 ชั่วโมง เหลือ 18 ชั่วโมง และเพิ่มให้รัฐบาล จาก 6 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมง ว่า ฝ่ายค้านยังหารือกันอยู่ว่าจะไปร่วมประชุมตกลงกรอบเวลาดังกล่าวหรือไม่ เพราะขณะนี้ทุกคนอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมสำหรับการอภิปรายทั่วไป และคิดว่า การตกลงให้เวลาฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง และ ครม. 6 ชั่วโมง เป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา และฝ่ายรัฐบาลเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้เอง ประเมินเองว่าจะใช้เวลาตามนี้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ขอเพิ่ม และถามว่า จะมีการปรับเปลี่ยนกรอบใหม่ได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่า เปลี่ยนได้ หากมาปรับเปลี่ยนหลังวันที่ 23 มีนาคมในไม่กี่วัน แต่การจะมาเปลี่ยนข้อตกลง 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการอภิปราย ซึ่งฝ่ายค้านได้มีการเตรียมการและเตรียมผู้อภิปรายกันมาหมดแล้ว 22 ชั่วโมง แล้วอยู่ๆ จะมาตัดเวลาในการอภิปรายของฝ่ายค้านออก 4 ชั่วโมง ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนการอภิปราย ตนคิดว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีความยุติธรรมและไม่มีความชอบธรรมใดๆ เลย ที่จะทำแบบนั้น และความจริงตนต้องขอเรียกร้องไปยังประธานด้วยว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น และประธานก็ควรต้องวางตัวเป็นกลาง ว่า การเปลี่ยนข้อตกลงก่อน 1 ชั่วโมง ที่จะมีการพิจารณาจริงโดยที่เป็นกรอบเวลาที่เป็นข้อตกลงร่วมทุกฝ่าย เป็นธรรมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและฝ่ายค้านหรือไม่

สำหรับกรณีที่ประธานวิปรัฐบาล บอกว่า เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อความเป็นธรรม เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาในการชี้แจงได้ครบถ้วนนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากคำนึงถึงความเป็นธรรม ก็ต้องถามกลับไป ว่า การตัดเวลาของฝ่ายค้านลงไป 4 ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่า 1 ใน 5 ของเวลาที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก เป็นธรรมกับฝ่ายค้านหรือไม่ และฝ่ายรัฐบาลเป็นคนเสนอเวลามาเอง ซึ่งตนขอย้ำว่าในที่ประชุมวันนั้นตนยังหันกลับไปถาม กับฝ่ายรัฐบาล คนหนึ่งอย่างไม่เป็นทางการด้วยซ้ำว่าระยะเวลา 6 ชั่วโมงในการชี้แจงพอจริงหรือ และในเมื่อทางรัฐบาลยืนยันว่าพอทางฝ่ายค้านก็ตกลงไปตามนั้น แต่การจะมาเพิ่งคิดได้ทีหลังว่าอาจจะไม่พอ ตนก็ยินดีที่จะเพิ่มเวลาให้โดยที่เลิกประชุมดึกกว่าเดิม ทั้ง 2 วันก็ได้ ตนไม่มีปัญหาและฝ่ายค้านก็อยากจะได้คำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลเช่นกัน ซึ่งเราไม่มีปัญหาเลย หาก ครม.จะใช้เวลาชี้แจงเยอะ แต่จะมาตัดเวลาฝ่ายค้านแล้วมาตกลงกัน 1 ชั่วโมงก่อนที่จะอภิปรายนั้น ตนคิดว่าทำไม่ได้ จึงขอยืนยันเวลาของฝ่ายค้านที่ 22 ชั่วโมง เนื่องจากได้มีการจัดสรรเวลากับพรรคร่วมฝ่ายค้านกันแล้ว

ส่วนหากตกลงกันไม่ได้แล้ว รัฐบาลใช้เสียงข้างมากในการลงมติเรื่องกรอบเวลาจะทำอย่างไรนั้น ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ต้องเจรจากันก่อนอยู่แล้ว เพราะต้องยอมรับว่า หากลงมติกัน ไม่มีวันที่ฝ่ายค้านจะชนะ และขอให้จับตาดูว่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่เวทีตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านที่มีอยู่เพียงไม่กี่เวที จะมาใช้เสียงข้างมากลากไป เพื่อจะมาเปลี่ยนจำนวนเวลาในการอภิปราย คิดว่า ประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยในระบบรัฐสภาไม่เคยมีแบบนี้ ถ้ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะมาปิดกั้น ขัดขวางระบบการตรวจสอบของรัฐสภาแบบนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นั้น ตนคิดว่าไม่สง่างามเลย

เมื่อถามว่า จะมีการเตรียมตั้งรับอย่างไรนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็คงต้องมีการเจรจากัน และอาจจะต้องมีการพูดคุยเจรจากันในห้องประชุมใหญ่ก่อนที่จะเริ่มอภิปรายว่าตกลงจะเอาอย่างไร แต่การคุยตอนเช้าก่อนประชุมนั้นตนคงไม่สะดวกที่จะเข้าร่วม แต่เราก็มีวิปพรรครัฐบาลหลายคน ซึ่งยังคงประเมินกันอยู่

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าในวันพรุ่งนี้หากฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมประชุมวิป 3 ฝ่าย ก็อยากให้สาธารณชนได้ทราบไว้ก่อนว่า เอกสารใดๆ ที่ออกมา ไม่มีส่วนร่วมของทางฝ่ายค้าน และเป็นการพูดคุยตกลงกันเองของฝ่ายรัฐบาล ที่จะขัดขวางการตรวจสอบของฝ่ายค้าน


กำลังโหลดความคิดเห็น