วันนี้(2 เม.ย.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สิ่งที่บอกกันว่าหากยุบพรรคก้าวไกลแล้วจะโตขึ้น จะเบ่งบาน จะแลนด์สไลด์ จะชนะถล่มทลาย เลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งท้องถิ่นชนะแน่นอนปรากฏว่าข้อเท็จจริงเห็นแล้วเมื่อวานวันที่ 31 มีนาคม มีการเลือกตั้งนายก อบจ.จังหวัดเลย อดีตแชมป์เก่าหรืออดีตนายกฯจังหวัดเลย ไม่ได้ลง ส่งผู้ว่าราชการจังหวัดเลยลงแทน ปรากฏว่าพรรคก้าวไกลก็มีคนลงก็คือ สจ.โก้ ที่ทำป้ายทำสัญลักษณ์คล้ายๆ กับพรรคก้าวไกลปรากฎไม่ชนะ แพ้หลายหมื่นคะแนน นั่นก็คือสิ่งที่เห็นแล้วว่าการที่คุณพิธาบอกว่า ถ้าถูกยุบพรรคแล้วจะแลนด์สไลด์นั้น หรือการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชนะแบบถล่มทลาย มันไม่จริง
“วันนี้ผลการเลือกตั้งซ่อมไม่ว่าจะที่ไหนก็แล้วแต่ที่มีการเลือกตั้งซ่อม ตัวแทนของคณะก้าวหน้าหรือพรรคก้าวไกลไม่ได้ชนะเลย แม้แต่เขตเดียว รวมถึงการเลือกตั้งล่าสุด นายก อบจ.ซึ่งถือว่าเป็นสนามท้องถิ่นสนามแรกที่เป็นสนามระดับจังหวัด พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ชนะ ฉะนั้นที่บอกว่าการยุบพรรคก้าวไกล แล้วไปอยู่พรรคก้าวใหม่ แล้วจะชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่จริงครับ ผมฝากถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนทั้งประเทศ อย่าหลงเชื่อว่า พรรคก้าวไกลแล้วจะแลนด์สไลด์ จะมีคนนิยมชมชอบมากขึ้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า การเลือกตั้งที่จังหวัดเลยเป็นผลที่ชัดเจน และตอบทางการเมืองได้ว่า ไม่ได้เป็นแบบนั้น”นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนจะสื่อสารไปยัง สส.พรรคก้าวไกลว่าวันที่ 3-4 นี้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนก็คาดหวังว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่ลงดาบในวันนั้น เพราะตนอยากให้พรรคก้าวไกลได้อภิปรายรัฐบาลอย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้โดนถกเรื่องเวลาอีกแล้วรัฐบาลเขาจะดึงเวลากลับ หมายความว่า รัฐบาลจะพูดบ้าง ฝ่ายค้านก็จะเหลือเวลานิดเดียว ตนบอกคุณผิดพลาดตั้ฝแต่วันแรก เพราะญัตติไม่ไว้วางใจ 151 สามารถใช้ได้ 152 ก็ใช้ได้ แทนที่พรรคก้าวไกลจะยื่นทั้ง 2 ญัตติ มันจะได้อภิปรายได้หลายวัน แต่พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ทำ
”นี่คือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้จัดการเรื่องเวลา เพราะ 1 ปี เขามี 2 สมัยการประชุมเขาให้ฝ่ายค้านใช้ญัตติ 151 และ 152 ได้ แต่พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ทำ ผมว่าน่าจะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านจะพยายามหาช่องทาง หาทุกเวลาในการที่จะล้มรัฐบาล เพื่อที่จะให้ตัวเองกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ผมเห็นในยุคพรรคก้าวไกลที่ผู้นำฝ่ายค้านไม่เคยทำแบบนั้น ผมก็เลยบอกว่า การใช้กลไกของสภาในการตรวจสอบรัฐบาลทำไม่เป็น ผมไม่รู้ว่าพรรคก้าวไกลรี่ตากับพรรคเพื่อไทย ซึ่งวันนี้ประชาชนเขาดูออก การที่จะใช้คุณทักษิณมาแก้เกมพรรคก้าวไกลนั้น มันไม่ใช่“นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ ยังกล่าวต่อถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า อยากจะพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ล็อคเป้าอภิปรายรัฐบาลอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนเขาเห็นประโยชน์ ถ้าสนามนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถฟื้นคืนได้นั้น ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว เพราะตอนนี้พรรคอื่นเขาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหมด ตนขอฝากพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาทเรื่องยาบ้า 5 เม็ด เรื่องของตำรวจระดับยศพลตำรวจเอกทะเลาะกัน ร่วมถึงเรื่องของการที่บอกว่า มีการจ่ายส่วนให้กับบิ๊ก ต เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีหนีความรับผิดชอบไม่ได้ ก็ขอฝากพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะที่เป็นเคยเป็นขุนพลฝีปากกล้า อันนี้จะสะท้อนให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะเกิดหรือไม่