ซักฟอกรอบนี้ ถ้าไม่แตะ “ทักษิณ” ก็กร่อย จับตารัฐบาลใช้เวทีสภาโปรโมตดิจิทัลวอลเล็ต **รู้ดำ-รู้แดงกันไป "เจ้าขุน-เจ้านาย-นิชคุณ-อชิ" ถึงคิวเกณฑ์ทหาร

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ซักฟอกรอบนี้ ถ้าไม่แตะ “ทักษิณ” ก็กร่อย จับตารัฐบาลใช้เวทีสภาโปรโมตดิจิทัลวอลเล็ต

โหมโรงก่อนการอภิปราย “รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน” โดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-4 เม.ย.นี้ “พรรคก้าวไกล”ในยุคของ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรค ก็ผุดวาทกรรมเชิงตั้งคำถามผ่านโซเชียลฯว่า “รัฐบาลเพื่อใคร? ทำไมในหัวใจ ไม่ใช่ประชาชน” ขณะเดียวกัน ก็เหมือนจะบอกเป็นนัยว่า จะถล่มรัฐบาลด้วยเรื่องอะไร หลังจากบริหารบ้านเมืองมา 7 เดือนเต็ม

...วันนี้ ดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่มา ค่าแรงขึ้นเป็นหย่อมๆ ค่าไฟแพงขึ้นเรื่อยๆ ลูกหลานยังต้องไปเกณฑ์ทหาร นักโทษคดีการเมืองยังติดคุก (และบางคนได้กลับบ้าน)...

จึงเกิดคำถามว่า รัฐบาลเพื่อไทย กำลังทำเพื่อใคร? เพื่อประชาชน หรือเพื่อคนที่หนุนนำให้ได้ตั้งรัฐบาล? จะรับใช้ประชาชน หรือรับใช้คนที่อนุญาตให้ตนเองได้กลับมามีอำนาจ ? รอฟังคำตอบ 3-4 เม.ย.นี้

ขณะที่ประชาธิปัตย์ยุค “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เป็นหัวหน้าพรรค ก็ยังคงเรียกใช้บริการของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” อดีตหัวหน้าพรรค ที่มีลีลาเร้าใจ คารมเชือดเฉือน เป็นผู้นำทัพออกศึกครั้งนี้


“เฉลิมชัย” การันตี ศึกนี้ไม่มีมวยล้ม สู้เต็มที่100% ไม่ให้เสียยี่ห้อประชาธิปัตย์ ไม่ต้องอารัมภบทมาก ไม่เยิ่นเย้อ ซัดตรงประเด็นทุกดอก แต่จะเป็นไปในลักษณะท้วงติงในสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง ไม่ใช่จะไปฆ่ากัน พร้อมบอกใบ้ว่า เรื่อง “ทักษิณ ชินวัตร” นั้น ต้องมีอยู่แล้ว!!

ส่วนในซีกรัฐบาลจะเตรียมรับมืออย่างไรบ้างนั้น “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เจอวาทกรรมของก้าวไกล “รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน” เข้าไปถึงกับเดือดปุด สวนกลับว่าการทำงานการเมืองอย่าเก่งแต่วาทกรรม ต้องเอาความจริงมาพูดกัน หัวใจเพื่อประชาชนหรือไม่ ประชาชนเขารู้ดี เขาจะเป็นผู้ให้คำตอบเอง ไม่ใช่พรรคฝ่ายค้านจะมาตอบ มันหมดสมัยแล้วที่จะมาคอยจิกกัด ถ้าแน่จริงทำไมไม่ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม มาตรา 151ไปเลยล่ะ

ส่วนที่จะหยิบยกเรื่อง “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นมาอภิปรายนั้นต้องรู้ด้วยว่า “ทักษิณ” อยู่นอกสภา ไม่มีตำแหน่งอะไร อย่าเข้าใจผิด นี่คิดแต่กลัวว่า “ทักษิณ” มาแล้วจะมาดึงความนิยมจากประชาชนที่ยังศรัทธากลับไป มีผลต่อเพื่อไทย คิดแบบนั้นมันไม่ใช่การเมืองใหม่


อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้ จะต้องมีการอภิปรายถึง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม และ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ในฐานะกับดูแลสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ไปสิงสถิต เป็นเทวดา อยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ถึง 6 เดือนเต็ม จากนั้นก็ได้รับการพักโทษกลับไปอยู่บ้าน โดยเป็นนักโทษที่ไม่ต้องเข้าคุกแม้แต่วันเดียว

ไม่เพียงแต่ “ทักษิณ” เท่านั้น อาจมีลูกหลงแบบสะกิดสะเกาไปถึง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้วย

ก็ต้องติดตามดูกันว่าเมื่อถึงเวลานั้น บรรดาส.ส.เพื่อไทย และประธานฯ ในที่ประชุม จะเบรกเกมอย่างไร เพราะทั้งคู่ถือว่าเป็นคนนอก ที่ไม่สามารถเข้ามาชี้แจงต่อที่ประชุมได้

เรื่องนี้ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ก็ออกตัวเลยว่าอย่าเพิ่งไปมองถึงเรื่องการฟ้องร้อง ขอให้มองข้อบังคับการประชุมเป็นหลัก ที่ผ่านมาในอดีตทุกสมัย การกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น เป็นหน้าที่ของประธานสภา ที่จะต้องตักเตือน แต่ถ้าไม่เชื่อฟัง ยังกล่าวถึงบุคคลภายนอก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ“ทักษิณ” ไม่ว่าใครก็ตาม เขาไม่มีโอกาสมาชี้แจงในสภา ก็เป็นเรื่องปกติที่เขาต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมาย ฟ้องร้องดำเนินคดี


ขณะที่ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้เรียกรัฐมนตรีที่คาดว่าจะตกเป็นเป้าในการอภิปรายครั้งนี้เข้าไปหารือที่ทำเนียบรัฐบาล

อาทิ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น โดยให้เดินหน้าทำงาน ไม่ต้องกลัว เอาสิ่งที่ทำมาพูด ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น เขาถาม ก็ตอบไป

สำหรับเวลาในการอภิปรายที่ ฝ่ายค้านขอมาทั้งหมด 22 ชม. ฝั่งรัฐบาลรวม ครม. 6 ชม.นั้น คงต้องมีการต่อรองกันใหม่ โดยฝ่ายค้านเหลือ 18 ชม. รัฐบาล 10 ชม. จะได้มีเวลาตอบคำถามของฝ่ายค้านให้กระจ่างแจ้ง

ต้องจับตาว่าศึกนี้ ฝ่ายค้านจะเอาจริง หรือเล่นละคร รอร่วมรัฐบาล

แน่นอนขณะที่รัฐบาลชี้แจงตอบโต้ฝ่ายค้านนั้น เชื่อว่าจะใช้โอกาสนี้ โปรมโมตโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เรียกคะแนนกลับคืนมาด้วย


**รู้ดำ-รู้แดงกันไป "เจ้าขุน-เจ้านาย-นิชคุณ-อชิ" ถึงคิวเกณฑ์ทหาร

เริ่มไปแล้วสำหรับฤดูกาลเกณฑ์ทหารปี 2567 จากวันที่ 1 ไปจนถึงวันที่ 12 เมษาฯนี้

ว่ากันว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชาย ไม่ดำก็แดง ซึ่งก็หมายถึงการลุ้นจับใบดำใบแดงให้รู้ๆ กันไป ที่ทำบรรยากาศการเกณฑ์ทหารได้ลุ้นกันคึกคัก ยกเว้นบุรุษเพศสภาพที่มีคำกล่าว "ถ้าเราสวยพอก็ไม่ต้องเป็นทหาร"

ก่อนหน้ามีกระแสข่าวว่าผู้ชายไทยในยุคพ.ศ.นี้ ไม่ค่อยมีใครอยากเกณฑ์ทหาร ด้วยทัศนคติไม่ชอบ "ทหารการเมือง" ที่มีตัวอย่าง 8-9 ปีที่ผ่านมา ตามมาด้วยคำถาม "เป็นทหารเกณฑ์แล้วได้อะไร!

แถมมีข่าวการฝึกหนักที่พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นห่วง และ การถูกเรียกไปเป็น "ทหารรับใช้" ของนายทหารใหญ่ทั้งหลายไม่ได้รับใช้ชาติ




ร้อนถึง "บิ๊กทิน" สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องออกโรงมาเร้า ในทำนอง ระบบทหารเกณฑ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เป็นทหารได้อะไรมากที่คิด ทั้งการศึกษา ความปลอดภัยของระหว่างฝึก และสวัสดิการต่างๆที่ดีขึ้น

ตบด้วยคำพูดทิ้งให้คิด “ลูกผู้ชายครั้งหนึ่งต้องเป็นหินบ้าง”

แหม..นี่ก็ต้องติดตามกันไปว่า มาตรฐานทหารเกณฑ์ หรือ "หิน" ของบิ๊กทิน ปีนี้จะเป็นอย่างไร เพราะมีต่อเนื่องไปถึงช่วงก่อนเทศกาลหยุดยาวสงกรานต์ กันเลยทีเดียว

ที่แน่ๆ แต่ละปีมักจะมีคนดัง ดารานักร้องนักแสดงคนบันเทิงที่มีชื่อเสียงเข้ารับการตรวจเลือก ซึ่งก็แน่นอนมักจะมีเป็นแฟนคลับตามลุ้นตามเชียร์กัน

ฟังว่าปี 2567 นี้ คนในวงการบันเทิง ที่เป็นชายไทยอายุครบตามเกณฑ์ ต้องเข้ารับการตรวจเลือกมีจำนวน 11 คน

ตรวจรายชื่อก็ต้องบอกว่ารูปร่างหน้าตาเข้าตากรรมการจัดอยู่ในประเภท ดี1 ประเภท1 เช่น "เจ้าขุน" จักรภัทร วรรธนะสิน และ "เจ้านาย" จินเจษฎ์ วรรธนะสิน สองพี่น้องลูกชาย "เจ" เจตริน วรรธนะสิน นักร้องชื่อดังยุค 90




ขณะที่ "นิชคุณ ขจรบริรักษ์" นักแสดง "อชิ" อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช ลูกชาย "ฟลุค" เกริกพล มัสยวาณิช ก็มีรายชื่อ ที่เขตสวนหลวง กทม.

นอกจากนั้น ตามรายงานว่ามี "ภูมิ" เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์ นักแสดง, ‘โดนัท’ ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์ นักแสดง, ‘อาร์ตติส’ ธนากรณ์ ญาติกลาง นักร้อง, ‘ไรอัน’ กาจบัณฑิต จำปาศิลป์ นักร้องลูกทุ่ง, แทค พงศกร สุเกียง นักแสดง, และ สราลัญ- สรัญวุฐิ วัชรพล

งานนี้สำหรับบางคนเปรียบเปรยว่า หวยรางวัลที่ 1 ที่ว่าลุ้นยากแล้วเกณฑ์ทหารลุ้นยากยิ่งกว่า แม้จะมีแค่ใบดำ และแดง ก็ตาม

50-50 โอกาสเป็นของใครจะได้ไปรับใช้ชาติหรือไม่ได้เป็นก็ขอให้ตามกรี๊ดตามเชียร์กันตามอัชญาศัย ...ส่วนใครจะดราม่าเกิดอาการหอบหืดขึ้นมาฉับพลันเหมือนเคยมีดารารุ่นพี่เคยเป็นมาแล้วก็หวังว่าจะไม่มีดราม่าเช่นนั้นอีกนะจ๊ะ...คงต้องคิดมุกใหม่แล้วละ.!