“กมธ.ปปง.” เชิญ หน่วยงานเกี่ยวข้อง เอี่ยวคดี “บิ๊กโจ๊ก” ขายทองหนักหมื่นบาท เข้าชี้แจง ตอบไม่ได้เป็นคนใกล้ชิด รองผบ.ตร.หรือไม่ เหตุถามแค่ตามที่มีข่าว
วันนี้ (27มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง. ) และยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ของ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ กับพวก ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยมีการเชิญเลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประธานคณะกรรมการบริหารร้านทองแห่งหนึ่ง ซึ่งมีกระแสข่าวว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นำทองจำนวนหนึ่งไปขาย รวมถึงนายกสมาคมค้าทองคำ และนายกสมาคมเพชรพลอยเงินทอง เข้าให้ข้อมูล ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการบริหารร้านทอง ได้ส่งฝ่ายกฎหมายเข้าชี้แจงแทน ซึ่งใช้เวลาในการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 15.35 น. นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธาน กมธ.ฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ประเด็นสำคัญในการประชุมวันนี้คือ จากที่มีการนำเสนอข่าวว่าคนใกล้ชิดนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เอาทองจำนวนมากไปขายเป็นข้อเท็จจริงแค่ไหน ในการขายทองนั้นมีการรายงานธุรกรรมทางการเงินหรือไม่ และมีการให้เงินสดหรือโอนเงินอย่างไร ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานให้กับร้านขายทองหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทอง เพราะทองกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่อยู่ในกระบวนการฟอกเงินไปแล้ว
นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากร้านขายทอง สมาคมผู้ค้าทองคำ สมาคมเพชรพลอยเงินทอง ปฏิบัติตามกฎหมายของปปง.อย่างชัดเจน ก็จะช่วยเรื่องของการฟอกเงินได้มากขึ้น ซึ่งคำตอบก็เป็นไปตามที่สื่อมีข้อสงสัยและร้านทองก็มีการรายงานธุรกรรมถูกต้อง ซึ่งปปง.ได้รับทราบข้อมูลแล้ว และมีการซื้อขายทองโดยจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งทางร้านทองมีการระบุว่าเวลาที่ไปขายทอง ต้องมีการแสดงตัวตนคือการใช้บัตรประชาชน ฉะนั้น จะไม่ทราบว่ามียศมีตำแหน่ง
นายเลิศศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนหลังจากนี้ทางปปง. จะมีการดำเนินงานอย่างไรต่อ ก็เป็นในส่วนรูปคดี ซึ่งกมธ.จะไม่เกี่ยวข้องในส่วนนั้น แต่เราจะเน้นดูในส่วนของข้อเท็จจริงว่ามีการรายงานธุรกรรมทางการเงินหรือไม่ และสิ่งที่สื่อนำเสนอไปนั้นมีข้อเท็จจริงแค่ไหน และการซื้อขายทองที่เป็นในลักษณะก้อนใหญ่เช่นนี้มีความผิดปกติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ร้านทองไม่ได้ให้ข้อมูลเยอะ เพราะอ้างสิทธิ์ว่าให้ข้อมูลกับปปง. ไปหมดแล้ว และปปง.ไม่อยากให้เสียรูปคดี
เมื่อถามว่า ในการซื้อขายทองเกิดขึ้นกี่ครั้งและเป็นคนเดียวกันนำไปขายตลอดเลยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เกิดขึ้นหลายครั้ง มียอดใหญ่บ้างและย่อยบ้าง และมีหลายบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยในการซักถามนั้น เราถามในช่วงของปี 2563 และการนำทองยอดใหญ่ที่ซื้อมาไปขายนั้น มีการทำเช่นนี้บ่อยหรือไม่
เมื่อถามย้ำว่า คนที่นำทองไปขายเป็นคนใกล้ชิดพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ใช่หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามที่มีการนำเสนอข่าว แต่เราไม่ได้ซักถามว่าเป็นคนใกล้ชิดหรือไม่ เราได้แค่ถามตามที่มีการนำเสนอข่าวมาว่ารายชื่อเหล่านี้ได้อยู่ในรายงานธุรกรรมหรือไม่
เมื่อถามต่อว่า จำนวนทองที่นำมาขายน้ำหนัก10,000 กว่าบาท ใช่หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า จะมากหรือจะน้อยไม่ทราบได้ แต่ย้ำว่าเราถามตามที่เป็นข่าวว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่
เมื่อถามว่า การทำธุรกรรมในครั้งนั้นไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย ปปง.ใช่หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ปปง. มีการรายงาน ทางธุรกรรมทางการเงินจากการซื้อขายทองถูกต้อง และมีหลักฐานชัดเจนทั้งหมด ส่วนจะมีการโยงไปถึงใครหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการส่วนต่างๆ ที่มีการตั้งขึ้นมา
“ยืนยันว่ามีการรายงานธุรกรรมจากการซื้อขายทองจริง ทั้งนี้ กมธ.จะไม่ได้ล้วงลึกไปถึงว่าการสอบสวนเป็นอย่างไร เพราะเป็นหน้าที่ของปปง. และเราจะไม่มีการสอบอะไรเพิ่ม เราจะจบแค่นี้เพราะเราทราบข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนรายละเอียดเชิงลึกจะเป็นเรื่องของปปง.” นายเลิศศักดิ์ กล่าว