อดีตส.ส.ปชป. เทียบ “ชวน-ทักษิณ” 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ใครคือผู้เคารพกระบวนการยุติธรรม มากกว่ากัน? คนหนึ่งเคารพคำตัดสินของศาล ไม่บ่ายเบี่ยง อีกคนหลีกเลี่ยงคดีความ ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
วันนี้ (26มี.ค.) นายเทพไท เสนพงษ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า วันนี้ตนตั้งใจที่จะไปให้กำลังใจนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ด้วยความสำนึกในบุญคุณที่นายชวน ได้ไปให้กำลังใจตนที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ถึง2ครั้ง แต่ตนติดเงื่อนไขการพักโทษ จะเดินทางไปไหนมาไหน ก็ไม่สะดวกเหมือนนายทักษิณ เกรงว่าจะผิดเงื่อนไขข้อห้ามการไปยุ่งเกี่ยวกับนักโทษ ผู้มีคดีความ จึงได้ติดตามข่าวอยู่ที่บ้าน
นายเทพไทกล่าวว่าเมื่อทราบข่าวว่าศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำตัดสินยกฟ้อง ก็รู้สึกดีใจกลับนายชวน ที่ชนะคดีความ ซึ่งนายทักษิณเป็นโจทก์ ฟ้องหมิ่นประมาท ที่นายชวนพูดถึงสถานการณ์ความรุนแรงใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดขึ้นจากความผิดพลาดด้านนโยบายของรัฐบาลทักษิณ จนเกิดไฟใต้ลุกลามจนถึงทุกวันนี้ ในการบรรยายในพิธีเปิดหลักสูตรโรงเรียนการเมือง ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2555 นายทักษิณจึงนำมาฟ้องร้องดำเนินคดี เหมือนการฟ้องแก้เกี้ยว ต้องการจะปิดปากไม่ให้ท่านชวนพูดในประเด็นนี้อีกต่อไป
เมื่อนายชวนถูกฟ้องตกเป็นผู้ต้องหาและคดีกำลังจะหมดอายุความ จึงให้นายราเมศ รัตนะเชวง ไปทวงถาม เร่งรัดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีการสรุปสั่งคดีโดยเร็ว ไม่ต้องการให้คดีนี้ยุติไปโดยการหมดอายุความ ซึ่งจะเกิดข้อครหาต่อการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพาดพิงมาถึงท่านชวนให้ได้รับความเสียหายด้วย
ในระหว่างการต่อสู้คดีในศาล ฝ่ายโจทก์ก็ไม่มีพยานหลักฐานภาพ คลิปเสียงที่เกี่ยวกับคำพูดของนายชวนมายืนยัน ซึ่งจำเลยสามารถปฏิเสธว่าไม่ได้พูดก็ได้ แต่นายชวนกลับแสดงความเป็น สุภาพบุรุษลูกผู้ชายตัวจริง ยืนยันว่าได้พูดจริงทั้งหมด เพื่อต้องการที่จะพิสูจน์ความจริงต่อ ศาลสถิตยุติธรรม จนส่งผลถึงคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันนี้
นายเทพไทกล่าวว่า จากปรากฏการณ์ทั้งหมดเห็นว่านายชวนเป็นผู้ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม เคารพคำตัดสินของศาล ไม่บ่ายเบี่ยง หลีกเลี่ยงคดีความแต่อย่างใด เมื่อเปรียบเทียบกับนายทักษิณ ซึ่งเป็นโจทก์นั้นพบว่า ได้หลีกเลี่ยงกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด เคยมีคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุกคุณทักษิณ3คดี รวมโทษ10ปี ก็หนีคดีไปต่างประเทศนานถึง 15ปี เพิ่งกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และไม่ยอมเข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว ใช้สิทธิ์พิเศษอ้างเป็นผู้ป่วย ต้องพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นาน180วัน จนครบกำหนดวันพักโทษ ได้ใช้อภิสิทธิ์ชนเหนือนักโทษคนอื่นๆทุกคน
“ดังนั้นหากจะเปรียบเทียบสถานะท่านชวน กับคุณทักษิณ ในฐานะที่ทั้ง2คน เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเหมือนกัน สามารถพิสูจน์ได้ว่า ใครคือผู้ที่ยึดมั่นในหลักการ และเคารพกระบวนการยุติธรรมมากกว่ากัน”นายเทพไทกล่าว