xs
xsm
sm
md
lg

“ถวิล” ซัด รบ.รวมหัวช่วยอดีตนายกฯ ทำกระบวนการยุติธรรมเสียหาย ปู้ยี่ปู้ยำพระเกียรติอภัยโทษเหลือ 1 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ส.ว.ถวิล” อัด รบ.เศรษฐา รวมหัวช่วยอดีตนายกฯ พักโทษ ทำกระบวนการยุติธรรมไทยเสียหายย่อยยับ ปู้ยี่ปู้ยำพระเกียรติอภัยโทษลดเหลือ 1 ปี ชี้ ต้องโทษ ครม.น้อมประคองส่งมอบให้เขาเอง ลุ้นกฎหมายตามเช็กบิลย้อนหลัง เชื่อ กฎแห่งกรรมบิดเบือนไม่ได้

วันนี้ (25 มี.ค.) นายถวิล เปลี่ยนสี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายถึงปัญหากระบวนการยุติธรรมภายใต้การบริหารของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า รัฐบาลแถลงนโยบายในสภา ว่า จะฟื้นฟูหลักยุติธรรมให้เข้มแข็ง ศักดิ์สิทธิ์ โปร่งใส เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ซึ่งสวยหรูดูดีมาก แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามแถมยังสร้างความเสียหายให้กับหลักนิติธรรมของประเทศอย่างมาก ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ที่เด่นชัดสุด กรณีอดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีไปต่างประเทศ แล้วกลับเข้ามา โดยตนไม่ต้องการจะพูดเรื่องส่วนตัว หรือส่วนบุคคล แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวคนใดคนหนึ่งที่อยากจะไปกินข้าวหรือไปเที่ยวที่ไหน แต่เป็นเรื่องที่กระทบต่อนโยบายความยุติธรรมของคนทั้งประเทศที่ทุกคนมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้

นายถวิล กล่าวว่า เรื่องของอดีตนายกรัฐมนตรี ตามหลักการ เมื่อกลับมารับโทษเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนทำผิดคดีถึงที่สุดก็ต้องรับโทษอย่างตรงไปตรงมา กฎหมายก็ศักดิ์สิทธิ์ บ้านเมืองก็อยู่ร่วมได้โดยปกติสุข แต่น่าเสียดายตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างลงบนผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมของเรา ทั้งการเตรียมการดูแลต้อนรับที่สนามบินตั้งแต่วันแรก ได้รับสิทธิมากมายจนหลายคนถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ตอนนั้นตนมองว่าเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อยของประเทศ และเป็นการปกป้องความปลอดภัยให้นักโทษ จากนั้นอดีตนายกฯได้ไปศาล ตนก็นึกว่าเรื่องจะจบแค่นั้น ควรดำเนินตามครรลองที่ควรจะเป็นเหมือนที่เคยทำมาตลอด แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแค่เข้าไปอยู่ในเรือนจำกลางไม่กี่ชั่วโมงก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้นที่ 14 ด้วยข้อมูลทางแพทย์ที่เคลือบแคลงน่าสงสัย ไม่ชัดเจน

ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยลดโทษจาก 8 ปี ให้เหลือ 1 ปี และมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นไม่หยุด เช่น รักรักษาตัวเกิน 180 วัน แทบไม่ได้สัมผัสกับเรือนจำเลย ประตูเรือนจำทำด้วยอะไร สีอะไร คงนึกไม่ออก จนตอนนี้ได้พักโทษมีการเปิดบ้านรับแขกบ้านแขกเมืองไม่ถึงเดือนก็เดินทางไปเยี่ยมบ้านที่เชียงใหม่ มีทั้งรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงมารอรับและรายงานข้อราชการ โดยอาการเจ็บป่วยที่แพทย์บอกว่าวิกฤตหายหมดไม่เหลือเค้าคนป่วยเลย

”เรื่องนี้สังคมไทยมองว่ามันบิดเบี้ยว เบี่ยงเบน ไม่เสมอภาคเท่าเทียมรายอื่น แต่ที่น่าเสียใจคือผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เจ้าหน้าที่เรือนจำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปถึงแพทย์ รมต.ยุติธรรม กลับยืนยันเสียงแข็งว่าเรื่องนี้ปฏิบัติไปโดยถูกต้องชอบธรรมครบถ้วนตามกฏหมายแล้ว ไม่เอะใจบ้างหรือว่าการแก้โจทย์ทดเลขตรงไหนผิดหรือเปล่า ทำไมคำตอบถึงออกมาค้านสายตาคนทั้งประเทศและคนทั้งโลก คิดบ้างไหมว่าในฐานะที่เป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำงานภายใต้พระนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องดำรงความเสมอภาคเท่าเทียมให้กับประชาชน ท่านลองหลับตาสวดมนต์ทำใจสบาย แล้วสาบานกับตัวเองว่าได้ปฏิบัติโดยถูกต้องเป็นธรรมเสมอภาคแล้วจริงหรือไม่

“ผมคิดว่าคำตอบปรากฏในใจท่านแล้ว ท่านคิดว่าคนไทยกินหญ้า กินแกลบ หรือ กินน้ำค้าง ไม่ได้กินข้าวเหมือนพวกท่านหรืออย่างไร จึงหลอกตัวเองและคนทั้งประเทศ คงคิดว่าเดี๋ยวคนก็จะลืม เพราะปลุกม็อบแล้วบาดเจ็บกันมามากแล้ว คนไทยขี้ลืม ในฐานะที่ผมทำงานด้านความมั่นคงมาหลายปี บอกได้เลยเรื่องนี้จะไม่ลืมเป็นอันขาด และจะเป็นบาดแผลลึกที่ไม่มีวันหาย จะเป็นฝันร้ายที่ไม่มีวันจางหายเป็นอันขาด และอาจจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวเหมือนที่หลายคนได้พูดถึงก็ได้”

นายถวิล กล่าวว่า กระบวนการที่ไม่ตรงปกนี้จะมีผลกระทบต่อสังคม คือ ทำให้เกิดความแตกแยกเพิ่มขึ้น เพราะคนที่รักก็เชียร์ ส่วนคนที่เกลียดชังก็แช่ง แล้วความสงบสามัคคีจะเกิดขึ้นได้อย่างไร จะอ้างว่าปรองดองโดยฝ่ายหนึ่งยืนเหยียบอยู่บนหัวอีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่เห็นว่ามันจะบรรลุผลอย่างไร เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำเรื่องนี้จะกระทบต่อค่านิยมที่สำคัญของบ้านเมือง เราจะไปบอกกับลูกหลานได้อย่างไรว่าให้ซื่อตรง ยึดมั่นเป็นในความเป็นธรรม เพราะความจริงที่เห็นมันย้อนแย้งอยู่ตลอดเวลา และยังทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมืองหมดสิ้น เพราะกว่าคดีจะมาถึงขั้นลงโทษผู้กระทำผิดได้ เราใช้จ่ายทรัพยากรทั้งบุคคล เงินทอง ทรัพย์สินต่างๆลงไปไม่ใช่น้อย แต่การบริหารโทษของท่านในชั้นปลายน้ำทำให้ความพยายามต่างๆที่ยากลำบากสูญสลายไปในพริบตาความน่าเชื่อถือของนานาชาติก็เสียหาย

การที่รัฐบาลเขียนนโยบายว่าการลงทุนในเรื่อง หลักนิติธรรมเป็นการลงทุนที่ถูกและคุ้มค่าที่สุดในการบริหารประเทศ แต่สิ่งที่ทำลงไปเป็นการเอาชื่อเสียงความเชื่อถือของระบบยุติธรรมประเทศที่แสนแพง ต้องขาดทุนย่อยยับ และยังทำลายระบบราชการ และ ระบบยุติธรรมเสียหาย โดยเฉพาะการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาเพราะสาธารณชนเชื่อแล้วว่าไม่ว่าผลจะออกมาเป็นโทษกับเขาเพียงใดก็ตาม ถ้ามีอำนาจมีเงิน ก็สามารถทำให้กลับกลายไปได้

“ที่สำคัญสุด อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยโทษเหลือ 1 ปี แต่ได้ถูกพวกท่านทำปู้ยี่ปู้ยำด้วยวิธีการต่างๆนานา ทั้งฉ้อฉลเสียหาย จนทำให้อดนึกไม่ได้ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ได้คำนึงถึงพระเกียรติยศ พระเมตตาของพระองค์ท่านบ้างหรือไม่ ผมไม่โทษอดีตนายกฯ เพราะอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเขาก็ต้องยินดีรับเอา เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แม้โดยส่วนตัวผมไม่ชอบและชิงชังรังเกียจความเห็นแก่ตัวอย่างนั้นก็ตาม แต่ขอตำหนิรัฐบาลที่กำกับดูแลจนทำให้เกิดเรื่องน่าละอายเช่นนี้ ท่านน้อมประคองส่งมอบสิ่งนี้ให้เขาเอง ทั้งที่สามารถป้องกันแก้ไข ที่น่าเสียใจยิ่งกว่านั้นคือท่านยังยืนยันว่าทำถูกทำดีแล้ว อวิชชาที่บดบังสติปัญญาเช่นนี้ ผมคิดว่ายากที่จะพูดให้เข้าใจหรือทำให้เห็นแจ้งเห็นจริง คงต้องรอกฎหมายตามเช็คบิลการกระทำต่างๆที่ไม่ถูกต้อง โดยป.ป.ช. ซึ่งเป็นสิ่งที่จะตามมา แต่สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนกว่าไม่สามารถบิดเบือนได้ คือ “กฎแห่งกรรม” วันหนึ่งไม่ช้าเกินรอที่จะทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรงที่จะมอบคุณมอบโทษให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตามวิบากกรรมที่กระทำของทุกคนต่อไป” นายถวิล กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น