“หมอพลเดช” แฉ ชุดพญานาคราช ก.เกษตรฯ ตั้งด่าน อายัดยางพารา พร้อมทีมสัมภเวสี เจอ จ่าย จบ เรียกรับกล้วยเป็นเครื่องเซ่น 1 กิโล แลกเคลียร์ถอนอายัด มอง รบ.ไม่ใช่บุฟเฟต์คาบิเนต แต่ปล้นสะดม รีดไถชาวบ้าน ฝากนายกฯ-รมว. ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก บำบัดปัดเป่า เพราะที่นี่คือยางพารา ไม่ใช่แป้ง
วันนี้ (25 มี.ค.) นพ. พลเดช ปิ่นประทีป สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายในญัตติอภิปรายรัฐบาลทั่วไปตามมาตรา 153 ว่า ส.ว.ร่วมโหวต นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหวังว่า จะมีรัฐบาลที่ไม่สุดโต่ง สังคมไทยก้าวข้ามการชุมนุม แต่เมื่อเวลาผ่านมา สองเดือนก็แล้ว สามเดือนก็แล้ว ผลงานของรัฐบาล ยังหาอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันไม่พบ นอกจากเต้นแล้งเต้นกา เป็นจำอวดหน้าจอทีวี ขายฝันลมๆ แล้งๆ ต่อหน้าสื่อมวลชน จัดตั้งกันไปวันๆ
นพ.พลเดช กล่าวว่า อนุ กมธ.รับเรื่องราวร้องทุกข์ วุฒิสภา ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน เรื่องหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจชุดพญานาคราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งอายัดยางของชาวบ้านสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และสั่งให้ดำเนินคดีกับเอกชน ที่ไม่สามารถชี้แจงที่มาของยางก้อน 29 ตัน ทั้งที่ภาคเอกชน เป็นผู้ประกอบการทำสวนยาง และรับซื้อยาง จากชาวบ้านในพื้นที่ แต่ก็ถูกอายัดยาง 600 ตัน มูลค่า 15 ล้านบาทเศษ เพราะสงสัยที่มาของยาง 29 ตัน แต่ผ่านมา 1 เดือน ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ผ่านมา 6 เดือน แม้ชาวบ้านจะนำหลักฐานมาแสดง ก็ไม่ถอนอายัด จนยางก้อนเสียหาย จากยางสีขาว ก็กลายเป็นสีดำ เมื่อผู้ประกอบการทวงถาม ก็ได้รับคำตอบว่า ให้ไปเคลียร์กับที่ปรึกษารัฐมนตรี แต่ไม่บอกว่า รัฐมนตรีคนไหน หรือจะเป็นรัฐมนตรีที่กำลังวุ่นวายอยู่กับ ส.ป.ก. อุทยานเขาใหญ่ หรือไม่ ก็ไม่ทราบ
นอกจากนี้ ยังทราบว่า มีทีมงานอีกหนึ่งชุด คือ ทีมเจอ จ่าย จบ ไม่จ่าย เป็น เจ็บ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าพวกสัมภเวสี ได้เชิญผู้ประกอบการไปคุย และเรียกรับกล้วย 1 กิโล เป็นเครื่องเซ่น แลกการอำนวยความสะดวก ในการถอนอายัด นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล มาแจ้งความดำเนินคดีซ้ำกับผู้ประกอบการ ซึ่งมาจากอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ กรณีนำเข้ายางจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นสัญญาณการลากยาว กลั่นแกล้ง ล่าอาณานิคม และตีเมืองขึ้นใช่หรือไม่
ทั้งนี้ มีเสียงวิจารณ์หนาหู ว่า แท้ที่จริงกลุ่ม ฉก.พญานาคราช ตั้งด่าน เพื่อจัดระเบียบขนส่ง สินค้ายางพารา ข้ามแดน เพื่อนำไปสู่ประเทศที่สาม แต่แอบแฝงการใช้อิทธิพล จัดการคู่แข่งทางธุรกิจของพวกพ้อง ถ้าเป็นรถพ่วงที่ไม่ใช่ ของเสี่ย น. เสี่ย ส. ก็หวังอย่าได้ผ่าน และเมื่อมกราคมที่ผ่านมา มีการจัดระเบียบเพิ่มค่าผ่านทาง จาก 1,000 เป็น 5,000 บาท ต่อรถยาง 1 พ่วง และต้องจ่ายเพิ่มพิเศษ แยกจากบัญชีนายอีก 1,000 บาท เพื่อนำไปส่งมอบให้เสธ คนหนึ่ง และมีเสียงนินทา ดังว่า เป็นคนใกล้ชิดของนักการเมือง ไปสร้างโรงงานรับซื้อน้ำยาง ในประเทศเพื่อนบ้าน จึงถามรัฐมนตรี ทราบหรือไม่
“ผมไม่อยากจะใช้ คำว่า บุฟเฟต์คาบิเนต สำหรับรัฐบาลชุดนี้ แต่ด้วยพฤติกรรม ด้วยพยานหลักฐานที่ปรากฏ สื่อชัดถึงตัวอย่างของการใช้อำนาจ แต่งตั้งทีมงานนักการเมือง เข้าไปจัดสรรผลประโยชน์สินค้าเกษตรในพื้นที่ ซึ่งที่สังขละ เป็นเพียงตัวอย่างเดียว ในจำนวนนับสิบนับร้อย ต่างคนต่างเข้าไปปล้นสะดม รีดไถชาวบ้านตามใจชอบ ราวกับบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป ซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชน เพราะที่นี่มันเป็นยางพารา ไม่ใช่ก้อนถ่าน ไม่ใช่ผงฝุ่น ไม่ใช่ธุลีดิน สำหรับเรื่องนี้ ใครคือเสือ ใครเป็นบรรดาแมลงวัน ก็คงชัดเจนในตัว จึงอยากฝากไปถึงนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหัวหน้าพรรคการเมือง รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ขอจงบำบัดปัดเป่า ความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน และชาติบ้านเมือง ของเราด้วยเทอญ เพราะที่นี่ คือ ยางพารา ไม่ใช่แป้ง” นพ.พลเดช กล่าว