นายกฯ ชี้แจง รัฐบาลตระหนักถึงการใช้เวลาบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นประโยชน์สูงสุด ย้ำเยือนต่างประเทศ เป็นเรื่องความจำเป็นและขนบธรรมเนียมประเพณี ยืนยันให้ความสำคัญเดินทางลงพื้นที่แก้ปัญหาให้ประชาชน
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (25 มีนาคม 2567) เวลา 10.10 น. ณ ห้องประชุมวุฒิสภา อาคารรัฐสภา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา ตามมาตรา 153 ของรัฐธรรมนูญ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงหลังนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ผู้เสนอญัตติฯ แถลงต่อที่ประชุมสภาฯ ในประเด็นต่าง ๆ เช่น กรณีที่ต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภาฯ และควรให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปให้มากกว่า 1 วัน การดำเนินกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนทุกกลุ่ม การเดินทางไปเยือนต่างประเทศ การเดินทางไปตรวจราชการในต่างจังหวัด สรุปดังนี้
นายกฯ กล่าวว่าวันนี้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มารับฟังความคิดเห็นข้อติชมของท่านสมาชิกทุกท่าน ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทุกคนมีการให้เกียรติกับฝ่ายนิติบัญญัติทั้งสองสภา โดยรัฐบาลมีหน้าที่บริหาร แต่เมื่อไรก็ตามที่ทางฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อสงสัยมีข้อเสนอแนะที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลจะต้องมารับฟังและมาตอบ ก็ยินดีมาตอบด้วยความเต็มใจ ไม่เคยมีความคิดว่าทำไม 8-9 ปีมา ไม่เคยมีการเรียกอภิปรายในมาตรานี้ แล้วทำไมมาแค่ 7 เดือนถึงต้องมี ตรงนี้เราทราบหน้าที่ดีว่าเรามีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่ระบุไว้ ไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจ เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องมาทำงาน มาตอบให้สมาชิกทุกท่านมีความกระจ่าง
สำหรับเรื่องของการเดินทางไปเยือนต่างประเทศหลายครั้งนั้น นายกฯ ย้ำว่า หลายครั้งที่เดินทางไปเยือนต่างประเทศเป็นเรื่องของความจำเป็น ทั้งเรื่องของการประชุมอาเซียน ประเทศใน Middle East หรืออาเซียน ออสเตรเลีย และหลายครั้งก็เป็นเรื่องของขนบประเพณีที่ผู้นำใหม่มาต้องไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา ลาว หรือการประชุม UNGA เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกฯ ให้ความตระหนักดีถึงการที่ใช้เวลาของการบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ เข้าใจและรับทราบถึงข้อกังวลดังกล่าว แต่ปัจจุบันเชื่อว่าเรามีการใช้เทคโนโลยีในการที่จะบริหารราชการและมีการติดต่อกับคณะรัฐมนตรี และข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำพาประเทศไทยฝ่าวิกฤติไปได้โดยที่บางครั้งอาจจะไม่จำเป็นต้องมาเจอตัวกันโดยตรง ซึ่งนายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
นายกฯ กล่าวถึงการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ว่า ได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็ได้ไปติดตามและเตรียมการเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น (PM 2.5) ทั้งนี้ เรื่องของปัญหาฝุ่นแม้ยังมีอยู่แต่ก็ลดน้อยลงไป 30-70% แล้วแต่พื้นที่ ตรงนี้พิสูจน์ได้จาก Heat Map ที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับปีที่ผ่านมากับปีนี้ ซึ่งการที่นายกฯ ได้เดินทางไปเชียงใหม่ครั้งล่าสุด ก็ได้ลงพื้นที่ลงไปทำงานในหลายจังหวัดก่อนที่จะมีการประชุม ครม. สัญจรที่จังหวัดพะเยา ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้นายกฯ ได้ดื่มไวน์ นั้น นายกฯ ชี้แจงว่า วันนั้นจำได้ว่าไม่ได้ดื่มไวน์ เพราะว่าไม่สบาย อาจจะมีการสับสนเรื่องการตั้งแก้ว แต่ยืนยันไม่ดื่มไวน์เลย โดยย้ำให้ความสำคัญกับการที่เดินทางลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้ ประชาชน