xs
xsm
sm
md
lg

“อุ๊งอิ๊ง”ไม่พร้อม เศรษฐา อยู่ยาว!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 แพทองธาร ชินวัตร - เศรษฐา ทวีสิน
เมืองไทย 360 องศา

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 298 ต่อ 166 เสียง ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมาย เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลแตกแถว หรือยังไม่พร้อมที่จะแตกตัวออกไป ขณะเดียวกัน ก็ยังมีช็อตต่อเนื่องตามมาอีก นั่นคือการประเมินว่า นับจากนี้จะทำให้ นายเศรษฐา ทวีสิน อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ยาวนานขึ้น โดยสาเหตุสำคัญมาจากความไม่พร้อมของ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และลูกสาวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกมองว่าเป็นเจ้าของพรรค และควบคุมรัฐบาลนี้นั่นเอง

คนที่มีความเชื่อแบบนั้น ก็มีนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่าเรื่อง “เศรษฐา อยู่ยาว!” ระบุว่า หลังมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ผ่านฉลุย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 67 คะแนนท่วมท้น แสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพ และเสถียรภาพของฝ่ายรัฐบาลยังเหนียวแน่น การที่มีกระแสข่าวจากคว่ำ ร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่าย ปี 67 เพื่อเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เป็นข่าวโคมลอย หรือการปล่อยข่าวทั้งสิ้น

ส่วนตัวมั่นใจว่า คุณเศรษฐา ทวีสิน จะเป็นนายกรัฐมนตรี ได้อีกต่อไป ยังไม่มีสัญญาณใดๆที่ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีในตอนนี้ ผมมีเหตุผลมายืนยันว่า คุณเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้อีก ดังนี้

1.ผลการลงมติร่างพรบงบประมาณ ปี 67 ผ่านฉลุย แสดงให้เห็นความเป็นเอกภาพ และมีความเป็นปึกแผ่นอยู่ ในพรรครัฐบาลไม่มีพรรคใดแตกแถว 2. การอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของสมาชิกวุฒิสภาและตามมาตรา 152 ของพรรคฝ่ายค้าน ได้อย่างสบายเพราะไม่มีการลงมติใดๆ 3. พรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีพรรคใดคิดถอนตัว ยังไม่พร้อมที่จะแตกหัก ไม่มีการขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ในโครงการใหญ่ๆ 4. พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังไม่พร้อมแตกหักกับรัฐบาล ยังมีลักษณะค้านแบบกั๊กๆ ชกไม่เต็มหมัด เหมือนกับมีความหวัง หรือข้อตกลงอะไรกันอยู่ 5. กลุ่มอนุรักษ์นิยม พึงพอใจการทำหน้าที่ของคุณเศรษฐา ที่ส่งเสริม และสนับสนุนกิจกรรมของฝ่ายอนุรักษ์นิยมทุกโครงการ

6.คุณทักษิณยังไม่พร้อมสนับสนุนให้ลูกสาว คือคุณอุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แทนคุณเศรษฐา ในตอนนี้ 7. ถ้าเปลี่ยนจากคุณเศรษฐา ให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าทักษิณคงไม่ยอม และพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คงไม่ยอมยกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้กับหัวหน้าพรรคการเมืองอื่น 8. กลุ่มอนุรักษ์นิยม ยังจำเป็นต้องจับมือกับระบอบทักษิณต่อไป จนกว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบ หรือ อ่อนแอลง 9. การแสดงภาวะผู้นำ กล้าตัดสินใจโยกย้าย 2 บิ๊กตำรวจ มาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ โดยไม่มีแรงเสียดทานใดๆ แสดงว่า ได้รับไฟเขียวจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมแล้ว ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ผมจึงมั่นใจว่า คุณเศรษฐา ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรี ได้อย่างมั่นคงต่อไป

สอดคล้องกับผลโพลล่าสุด ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2567” เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 42.75 ระบุว่า เป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) อันดับ 2 ร้อยละ 20.05 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

อันดับ 3 ร้อยละ 17.75 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 4 ร้อยละ 6.00 ระบุว่าเป็น นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 5 ร้อยละ 3.55 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ)

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.45 ระบุว่า เป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 2 ร้อยละ 22.10 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 12.75 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 5.10 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 3.50 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 2.30 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 7 ร้อยละ 1.70 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย

แม้ว่าผลสำรวจของ “นิด้าโพล” ดังกล่าว อาจไม่ใช่เป็นคำตอบโดยตรงที่จะบอกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน จะได้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแบบยาวๆ ก็ตาม แต่ในทางอ้อม ก็สามารถเป็นเหตุผลสนับสนุนได้เป็นอย่างดี นั่นคือ เมื่อพิจารณาจากคำตอบที่บอกว่าสนับสนุนใครเป็นนายกฯ และแม้ว่าบอกว่าสนับสนุน นายพิธา เป็นอันดับหนึ่ง สูงถึงร้อยละ 42.75 ตามมาด้วย นายเศรษฐา ที่ได้อันดับ 3 ร้อยละ 17.75 ขณะที่อันดับ 2 ถึงร้อยละ 20.05 ตอบว่า ยังหาคนเหมาะสมไม่ได้ ขณะที่ น.ส.แพทองธาร หล่นไปอยู่อันดับ 4 แค่ร้อยละ 6.00 เรียกว่าถูกทิ้งขาดแบบไม่เห็นฝุ่น

หากมองในความนิยมทางการเมือง มันก็สะท้อนให้เห็นชัดว่า “อุ๊งอิ๊ง” อยู่ในระดับใด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีการโปรโมตกันมาเต็มพิกัด ซึ่งหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่ากระแสที่ถือว่า “ปัง” ที่สุดสำหรับเธอก็คือ ในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ถือว่าน่าจะขึ้นสูงสุดแล้ว แต่ก็ไม่อาจเอาชนะกระแสของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลได้ หลังจากนั้นความนิยมของเธอก็ตกลงมาเรื่อยๆ ขณะที่ฝ่ายพรรคก้าวไกล ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะจากโพลล่าสุดแม้กระทั่งรวมกันทั้ง นายเศรษฐา และน.ส.แพทองธาร ก็ยังไม่เท่า นายพิธา ขณะเดียวกันเมื่อพูดถึงความนิยมของพรรคปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยก็ตามหลังขาดอีก

เมื่อแยกมาโฟกัสเฉพาะ นายเศรษฐา ทวีสิน กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร มันก็เห็นได้ชัดว่า นาทีนี้ นายเศรษฐา ยังเหนือกว่า น.ส.แพทองธาร แบบขาดลอย และเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มแล้ว ก็ยังมองไม่เห็นว่าเธอจะตีตื้นมาได้อย่างไร เพราะหากสังเกตจะเห็นว่า “ตกลงไป” เรื่อยๆ จนความนิยมไปอยู่ระดับเดียวกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปแล้ว

จากเหตุผลและปรากฏการณ์ดังกล่าว มันก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นว่า นายเศรษฐา ทวีสิน จะสามารถยังนั่งอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้อีก “สักพัก” หนึ่ง อย่างน้อยก็น่าจะเกินปี แต่ก็ไม่น่าจะครบวาระ 4 ปีแน่ เพราะในเวลานี้พรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถสร้างผลงานได้เตะตาแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับมีเสียงวิจารณ์หนักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ไม่สามารถผลักดันนโยบายตามที่หาเสียงเอาไว้ แต่ถึงอย่างไร มันก็ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนตัว

เพราะอย่างที่เห็น “ศักยภาพ” ของ “อุ๊งอิ๊ง” ในเวลานี้มีสภาพไม่ต่างจาก“ลูกสาวเถ้าแก่” ที่ถูกดันขึ้นมาแบบผิดธรรมชาติ แต่ไม่ว่าจะเข็น จะโปรโมตอย่างไร มันก็ยังไม่ได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับอีกคน อย่าง นายเศรษฐา แม้ว่าจะมองว่าเป็นแค่ “ขัดตาทัพ” แต่เมื่อพิจารณาจากบุคลิก ท่าทางในการทำงาน ก็ยังดูเหนือชั้นกว่า ดังนั้นแม้ว่านาทีนี้อาจยังฟันธงไม่ได้ว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ นายเศรษฐา จะอยู่ได้ยาวแค่ไหน แต่บอกได้เพียงว่า น่าจะเกินปี หลังจากนั้นค่อยมาประเมินกันอีกที เพราะถึงตอนนั้นต้องมาประเมิน “เถ้าแก่” ด้วยว่าจะเอาอย่างไร !!


กำลังโหลดความคิดเห็น