รองนายกฯ สัญจร เขตตรวจราชการอุตรดิตถ์-นครสวรรค์ ลุยเดินหน้าส่งเสริมเลี้ยงโคทันที หลัง ครม.ไฟเขียว “โคแสนล้าน” มั่นใจ เลี้ยงวัวไม่จนแน่นอน พร้อมหนุนอบรมสัตวบาลอาสา หวังช่วยผสมพันธุ์-ดูแลวัวให้ปชช. ปลื้ม ตั้งชื่อลูกวัว “ฟิวเจอร์” ให้ฟาร์มศูนย์เรียนรู้ ชี้ เป็นฟาร์มแห่งอนาคต
วันที่ (20 มีนาคม 2567) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เขตตรวจราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดนครสวรรค์ โดยจุดแรกได้ลงพื้นที่ ตำบลนายาง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ศูนย์เรียนรู้เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยมี น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย นายวารุจ ศิริวัฒน์ สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ร่วมต้อนรับ ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้โคกหนองนากล้วยงาช้าง พุทธพรหมปัญโญ ของนายพงษ์ศิริวัฒน์ ฐิตตะปุญโญ ที่ได้ขับเคลื่อนโคกหนองนา แบบเศรษฐกิจพอเพียง
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า โคกหนองนาโมเดล ถือเป็นเศรษฐกิจพอเพียง ที่สามารถทำให้ประชาชนมีอยู่มีกินได้ ซึ่งในพื้นที่นี้ ตั้งแต่ปี 2564 มีโคกหนองนาถึง 344 แปลง โดยมีการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรจากโคกหนองนา ทำให้โครงการนี้ มีประโยชน์เป็นอย่างมาก ที่ได้รวบรวมคน มาสู่การพัฒนาเพื่อการดำรงชีพที่ยั่งยืน ตามศาสตร์พระราชา ซึ่งตนต้องขอขอบคุณ สส.อุตรดิตถ์ ทั้ง 3 คน ที่ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะมาจากพรรคเดียวกันทั้งหมด ทำให้เป็นจุดแข็งในการขับเคลื่อนโครงการ ส่วนงบประมาณที่จะนำไปพัฒนาอาชีพ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตนก็พร้อมสนับสนุน เพื่อทำให้ประชาชนมีรายได้อย่างยั่งยืนต่อไป
จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ต่อไปยังหอประชุมโรงเรียนนาอินวิทยาคม ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อตรวจเยี่ยมการเลี้ยงวัวพรีเมี่ยม ของกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งมี นายนพพล เหลืองทองนารา สส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย มาร่วมคณะเพิ่ม โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การเลี้ยงโค ตนได้มีข่าวดีมาแจ้งกับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทุกคนว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เมื่อวานที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบโครงการโคแสนล้าน 1 แสนครอบครัว ซึ่งจะให้สมาชิกกองทุน กู้ยืมเงินครอบครัวละ 5 หมื่นบาท เพื่อซื้อวัว จำนวน 2 ตัว โดยจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชน มีรายได้เสริม และมีเงินจากการเลี้ยงวัวมาใช้หนี้ได้ ซึ่งนอกจากเลี้ยงวัวธรรมดาแล้ว ประชาชน ก็สามารถยกระดับเลี้ยงวัวพรีเมี่ยมได้ โดยจะมีราคาสูงกว่าวัวธรรมดาจำนวนมาก ซึ่งจากนี้ ตนก็จะช่วยสนับสนุนการอบรมอาสาสัตวบาล เพื่อให้รู้จักในการดูแลรักษา หรือ ผสมพันธุ์วัว โดยตนมั่นใจว่า คนที่เลี้ยงวัว ไม่จนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ อดีต สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต สส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ต่อไปยังโรงเรียนเก้าเลี้ยววิทยา อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตรวจเยี่ยมการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด “ก้าวเลี้ยวโมเดล” พร้อมร่วมงานวันอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) แห่งชาติ โดยมี นายทวี เสริมภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ให้การต้อนรับ
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ ตนได้ลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด พร้อมรับฟังปัญหา ซึ่งจากปัญหาที่ขาดงบประมาณในการจัดรถรับส่งระหว่างอำเภอนั้น ตนก็ขอแนะนำให้ของบประมาณจากกองทุนยาเสพติด ป.ป.ส. ภาค 6 นอกจากนี้ ตนยังได้รับทราบว่า หลังผ่านการบำบัด ป.ป.ส.ยังสนับสนุนงบประมาณในการส่งเสริมอาชีพ รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาทด้วย ส่วน อสม.ก็ถือเป็นอีกกลไกสำคัญ ที่เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งในโอกาสวัน อสม. ตนก็ขอขอบคุณ อสม.จังหวัดนครสวรรค์กว่า 18,000 คน ที่ได้ทำงานเชื่อมกับประชาชน จนเกิดระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง จนต่างประเทศยอมรับ โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการพัฒนาระบบสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้น ด้วยนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ หรือ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ พร้อมขอยินดี ที่ อสม.จะได้ค่าป่วยการเพิ่มอีก 1,000 บาท
จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ต่อไปยัง วิสาหกิจชุมชนเพียวพลัสฟาร์ม ฟาร์มโคพันธุ์ดีปากน้ำโพ ตำบลพระนอน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาปศุสัตว์ โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัว หลังโครงการโคแสนล้าน ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว สิ่งที่ขาดขณะนี้ คือ สัตวบาลอาสา ที่จะคอยช่วยเหลือประชาชนในเรื่องการผสมเทียม และการดูแลวัว ตนจึงพร้อมสนับสนุนการอบรมสัตวบาลอาสา จำนวน 117 คน ของจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อจะได้มีบุคลากรเข้ามาช่วยในเรื่องการผสมพันธุ์ โดยการเลี้ยงโค ตนมั่นใจว่า จะสามารถช่วยประชาชนได้ เพราะจากการทำโครงการนำร่องที่จังหวัดสุโขทัย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และจากนี้ ตนหวังว่า จะมีการพัฒนาต่อในเรื่องสายพันธุ์ เพื่อทำให้วัวมีราคาสูงขึ้น เหมือนของต่างประเทศ ซึ่งในอนาคต เราอาจพัฒนาจนวัวไทย มีราคาตัวละเป็นแสนได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาวัวของต่างประเทศมากนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนเพียวพลัสฟาร์ม นายสมศักดิ์ ยังได้ตั้งชื่อลูกโค อายุ 10 วัน ของฟาร์มว่า “ฟิวเจอร์” พร้อมอธิบายว่า สาเหตุที่ตั้งชื่อฟิวเจอร์ เพราะฟาร์มแห่งนี้ จะเป็นอนาคตของปศุสัตว์ ที่มีระบบและศูนย์การเรียนรู้ครบวงจร ซึ่งจะสามารถช่วยเกษตรกรได้เป็นอย่างมาก