วันนี้(15 มี.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จากกรณีที่สำนักงาน กกต.มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ตนมั่นใจว่า กระบวนการในการสั่งยุบพรรคก้าวไกล จะเสร็จสิ้นภายใน 30 วัน นับถอยหลังรอได้เลย เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่ต้องไต่สวนใหม่เลย เพราะเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเอกฉันท์วินิจฉัยแล้วว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ตาม มาตรา 49 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญ
นายสามารถ กล่าวต่อว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคก้าวไกล จากการกระทำความผิด มาตรา 92(1) และ (2) ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง กระทำการล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ฯ นอกจากการยุบพรรคแล้ว กรรมการบริหารของพรรคก้าวไกล จะมีโทษถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตอีกด้วย
“ป.ป.ช.ยังมีการร้องว่า 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่เข้าชื่อเสนอร่างแก้ไข ม. 112 ผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่ง ป.ป.ช.จะมีการลงมติเพื่อส่งศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไปและหากศาลตัดสินว่า มีความผิด สส.พรรคก้าวไกล ทั้ง 44 คน ก็อาจจะถูกตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต นี่คือวิกฤตของพรรคก้าวไกล ผมจึงขอฝากไปถึง สส.พรรคก้าวไกลที่เหลืออยู่ว่า ท่านคงมองอนาคตของพรรคท่านออก วันนี้เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว ถ้าท่านไม่หาพรรคสังกัดใหม่ ท่านจะหลุดออกจาก สส.ไปพร้อมกับการสูญพันธุ์ของพรรคก้าวไกล”