“เศรษฐา” หารือคณะผู้แทน PEC ย้ำ ศักยภาพเศรษฐกิจไทย ฝ่ายสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทความเป็นผู้นำ วิสัยทัศน์นายกฯ สองฝ่ายเชื่อ การพบกันจะเป็นโอกาสยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
วันนี้ (14 มี.ค.) เวลา 16.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือร่วมกับ นางจีนา เอ็ม. เรมอนโด (The Honorable Gina M. Raimondo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา พร้อมด้วย นาย Mark Ein ประธานสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (The President’s Export Council: PEC) และคณะ รวม 10 ราย ซึ่งมาจากภาคเอกชนและองค์กรชั้นนำของสหรัฐฯ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและส่งเสริมโอกาสขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับและยินดีอย่างยิ่งที่ รมว.พาณิชย์ สหรัฐฯ ได้พาคณะผู้แทน PEC เยือนไทยในครั้งนี้ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันมาอย่างยาวนาน และไทยถือเป็นฐานการผลิตและการลงทุนที่เชื่อถือได้สำหรับสหรัฐฯ โดยทราบว่า คณะผู้แทน PEC ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่ง ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า การหารือร่วมกันของทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยดี โดยมีการพูดคุยถึงประเด็นสำคัญต่างๆ อาทิ การส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาค การส่งเสริมความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในด้านเทคโนโลยี AI ความมั่นคงทางไซเบอร์ (CyberSecurity) รวมถึงการสนับสนุนไทยด้านการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้แสดงความมุ่งมั่นของไทยในการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ โดยการหารือเป็นไปด้วยดี สะท้อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนาน และทั้งสองฝ่ายพร้อมแสวงหาโอกาสในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันมากขึ้นอีก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี การทำงานเชิงรุกในการส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกมายังประเทศไทย และการเพิ่มความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ พร้อมย้ำถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ เห็นพ้องเดินหน้าความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกันใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้ ได้นำประธานสภา PEC และคณะร่วมเดินทางมาไทย เป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
โอกาสนี้ นาย Mark Ein ประธาน PEC และคณะผู้แทน ได้แนะนำตัวต่อนายกรัฐมนตรีและต่างชื่นชมในบทบาทการดำเนินงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งผลักดันและดึงดูดให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศมายังประเทศไทย พร้อมอำนวยความสะดวกในการลงทุน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นที่แต่ละฝ่ายให้ความสนใจ โดยเฉพาะการส่งเสริมความร่วมมือในด้านพลังงานสะอาด การเปลี่ยนผ่านสีเขียว และเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยและสหรัฐฯ ให้ความสำคัญร่วมกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีต้องการส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวของไทย ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมสำคัญ รวมถึงการสนับสนุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และความร่วมมือด้านการศึกษา ตลอดจนเพิ่มพูนความร่วมมือในระดับภูมิภาคมากขึ้น
โดย นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า จะยังดำเนินงานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมากขึ้นต่อไป ไม่เพียงเฉพาะด้านเศรษฐกิจ แต่รวมถึงความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่มีศักยภาพ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี หวังว่า การเยือนของคณะ PEC ซึ่งเป็น fact-finding visit จะทำให้สหรัฐฯ เห็นถึงโอกาสและศักยภาพของไทย พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันอย่างเต็มที่ ผ่านการยกระดับการค้าการลงทุน สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถของไทยในฐานะหุ้นส่วนที่พึ่งพาได้ในห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นของสหรัฐฯ พร้อมเชื่อมั่นว่า การประชุม IPEF Clean Economy Investor Forum ที่สิงคโปร์ จะเป็นอีกหนึ่งเวทีในการส่งเสริมโอกาสการขยายความร่วมมือระหว่างกัน
ทั้งนี้ สภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (The President’s Export Council: PEC) ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชนและองค์กรสหรัฐฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีภารกิจสำคัญในฐานะที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในด้านนโยบายและโครงการที่เกี่ยวข้องกับการค้า โดยการเยือนของคณะ PEC ครั้งนี้ เป็น fact-finding visit เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการให้คำแนะนำแก่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมทั้งจะมีการเผยแพร่รายงานผลการเยือนต่อสาธารณชน
ต่อมา นายเศรษฐา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กอีกว่า หลังจากหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ผมได้พบกับคณะ PEC หรือ (The President’s Export Council) ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชนและองค์กรสหรัฐฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยมีภารกิจสาคัญในฐานะที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในด้านนโยบายและโครงการ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า ทั้งนี้ นาย Mark Ein ประธานกรรมการบริหารบริษัท Kastle Systems ประธาน PEC นำคณะ PEC รวม 10 ราย เช่น Mastercard, Boston Consulting Group, Kearney, Coastal Construction Group, มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ EXIM Bank เข้าพบด้วยครับ
คณะ PEC มาประเทศไทยเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการให้คำแนะนำท่านประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจะเผยแพร่รายงานผลการเยือนต่อสาธารณชนด้วยครับ โดยทาง PEC มีความสนใจที่จะขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะในสาขาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์และ supply chain การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว
นอกจากการให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนมุมมองแล้ว ผมได้นำเสนอโครงการ Landbridge และวิสัยทัศน์ Thailand Vision 2030 ซึ่งสอดคล้องกับความสนใจด้านการลงทุนของสหรัฐฯ ทั้งในเรื่อง พลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า รถ EV เศรษฐกิจสีเขียว และดิจิทัล เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และการจัดตั้ง data center เพื่อสนับสนุน Cloud First Policy ด้วยครับ
โดยที่ภาคธุรกิจ ทั้งสองฝ่ายจะมีการทำ workshop ร่วมกัน จัดโดยสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อเรียงลำดับความสำคัญ และเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ครับ