ศาลชลบุรี พิพากษาลงโทษจำคุกและปรับ 2 ผู้จัดรายการช่อง PEACE TV ฐานหมิ่นประมาท "สนธยา คุณปลื้ม" ชี้กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริง ช่วงเป็นนายกเมืองพัทยา จนเกิดความเสียหาย
ศาลจังหวัดชลบุรี ได้มีคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาท คดีหมายเลขดำที่ อ569/2565 และ คดีหมายเลขแดงที่ อ212/2567 ตามที่ นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพรศักดิ์ ศรีละมุล และ นางสาวกุลธิดา ช้วนกุล จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันหมิ่นประมาทใส่ความอันเป็นเท็จ ในรายการ “เชื่อเหอะ โดยหมูไม่กลัวน้ำร้อน” ออกอากาศทางช่องระบบทีวีดาวเทียม (PEACE TV) เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 ซึ่งนายพรศักดิ์เป็นแขกรับเชิญ และ นางสาวกุลธิดา เป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการ
.
จำเลยทั้งสองสร้างความเสียหาย ด้วยการโฆษณากระจายเสียงและกระจายภาพที่เป็นการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาท โดยจำเลยที่ 1 ซึ่งอ้างว่ารู้จักกับโจทก์และให้สัมภาษณ์ในรายการ กล่าวหาเรื่องการใช้งบประมาณขุดลอกคูคลองหรือขุดเจาะเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองพัทยา อ้างว่าโจทก์ดำเนินโครงการเพื่อประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง โดยใช้คำว่า “เงินทอน” และ “ยี่สิบสามสิบเปอร์เซ็นต์” ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
.
คำฟ้องระบุว่า คำพูดดังกล่าวทำให้บุคคลทั่วไปรับฟังเข้าใจว่า โจทก์มีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ อันทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งที่มิใช่ความจริง เนื่องจากโจทก์ทำงานด้านการเมืองและได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตั้งแต่ปี 2535 ได้รับโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง และได้รับตำแหน่งทางสังคมอีกมากมาย สุดท้ายได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยาถึงปี 2565 ประกอบคุณงามความดีทำประโยชน์ให้ประเทศชาติบ้านเมือง
.
ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่ก่อนสืบพยาน จำเลยทั้งสองขอถอนคำให้การเดิม และให้การใหม่เป็นการรับสารภาพตามฟ้อง สำหรับคดีส่วนแพ่งไม่ขอให้การต่อสู้คดี สุดแล้วแต่ดุลพินิจของศาล
.
ศาลพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 โทษจำคุก 2 ปี และปรับ 30,000 บาท จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328,86 โทษจำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 20,000 บาท
.
อย่างไรก็ดี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี และปรับ 15,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 8 เดือนและปรับ 10,000 บาท ศาลพิเคราะห์แล้วจำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ภายหลังรู้สำนึกผิดโดยมีการวางเงินเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย และลงโฆษณาขอโทษโจทก์อันเป็นการบรรเทาผลร้ายจากการกระทำของตนเอง เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยทั้งสองกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจำเลยทั้งสองให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ทั้งนี้ ให้จำเลยทั้งสองจัดให้มีการโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลาติดต่อกัน 7 วัน ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 80,000 บาท และจำเลยที่ 2 ชำระเงิน 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของเงินต้นดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 16 มิถุนายน 2565) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์