“เศรษฐา” สรุปผลเยือน “ออสซี่-ฝรั่งเศส-เยอรมนี” ประสบความสำเร็จ แอ่นอกรับแทนขรก. หลังผู้นำโดนแซะทัวร์ตปท.ไม่มีผลงาน บอกโครงการหลายแสนล้านต้องให้เวลาเขาศึกษา แย้ม มีบริษัทระดับโลกเตรียมลงทุนในไทย เสียดายพกผ้าขาวมาติดไปน้อย ส่วนการต่อยอด ต้องดูคุณภาพ-ที่มาสินค้า เตรียมจัดฟอร์มูล่า อี ที่เชียงใหม่ปีหน้า
วันนี้ (14มี.ค.) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงการเดินทางปฏิบัติภารกิจต่างประเทศที่ออสเตรเลีย สาธารณรัฐฝรั่งเศส สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 4-10 มี.ค. ว่า เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและยุทธศาสตร์ความร่วมมือกับทุกประเทศที่เดินทางไป ซึ่งในการเดินทางไปยังออสเตรเลีย ได้พบปะกับผู้นำประเทศมาเลเซีย สปป.ลาว ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมถึงภาคเอกชน และเดินทางไปกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เพื่อร่วมงานมหกรรมท่องเที่ยวนานาชาติ ITB Berlin 2024 ซึ่งในปี 2568 จะยกระดับเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย ทั้งศิลปะ อาหาร และแฟชั่นให้เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก รวมถึงเริ่มต้นพูดคุยในการจัดแข่งฟอร์มูล่า วัน จากการพบปะกับผู้บริหาร ฟอร์มูล่าร์ อี ซึ่งเป็นการแข่งรถพลังงานไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เราต้องการให้มาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทย คาดว่า จะสามารถเริ่มได้ที่ จ.เชียงใหม่ในปีหน้า โดยตนจะมีโอกาสพบกับผู้บริหารฟอร์มูล่า อี ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ เพื่อไปดูว่าพื้นที่ไหนที่มีศักยภาพในการจัดการแข่งขัน ส่วนการจัดการแข่งขันฟอร์มูลา วัน ในประเทศไทย คาดว่า เร็วที่สุดจะเกิดขึ้นในปี 2027 รวมถึงพูดคุยจัดงานมิชลินเวิลด์ฟู้ดเอ็กซ์โปรและการจัดปารีสแฟชั่นโชว์
นายเศรษฐา กล่าวว่า การเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้พบปะกับนายมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในการผลักดันเรื่องเขตการค้าเสรี ( FTA) เป็นหลักและการยกเว้นวีซ่าเซงเก้น รวมถึงหารือกับภาคเอกชน 23 ราย ส่วนการเดินทางไปเยอรมนี มีการหารือภาคเอกชน 7 ราย และหารือกับนายกรัฐมนตรีเยอรมันในเรื่องวีซ่าเซงเก้น และFTA เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลอด 9-10 วันที่ผ่านมา เป็นการพูดคุยอย่างละเอียดและทำการบ้าน ถึงประเด็นปัญหาของธุรกิจในประเทศไทย พร้อมหาข้อเสนอแนะ และพูดคุยถึงบางอย่างที่อาจจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทย ทำให้เชื่อว่าการเดินทางในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
เมื่อถามถึงกรณีที่ยังมีเสียงวิจารณ์ในการเดินทางต่างประเทศของนายกฯ แต่ยังไม่มีผลงานที่ชัดเจน
นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ได้ยินตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งมา ข้อเท็จจริงคือ การลงทุนในระดับแสนล้านไม่ได้ใช้เวลาตัดสินใจภายใน 2-3 เดือน หลายๆ เรื่องต้องใช้เวลาพิจารณานาน และบางเรื่องเป็นการต่อยอดจากรัฐบาลที่ผ่านมาที่ต่อยอดในโครงการที่ดีๆ การที่เดินทางไปบอกกับทั่วโลกว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว หรือมีความเหมาะสมที่จะเข้ามาลงทุนนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของตนเพียงคนเดียว
"แม้ว่าจะชอบหรือไม่ชอบในตัวผม แต่ขออย่าด้อยค่าศักยภาพของประเทศไทย และหน้าที่ของผมคือ การพิสูจน์ตัวเอง และบอกให้ทั่วโลกได้รู้ว่า ไทยมีอะไรดีบ้าง ซึ่งข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้มีส่วนร่วมในการทำงานมาโดยตลอด รวมถึงทีมงานของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีการเตรียมการบ้านไว้เยอะมาก ไม่ใช่ว่า เป็นเรื่องที่อยู่ดีๆ แล้วผมจะบินเข้าไปเจอได้เลย แต่เป็นการเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หรือหากย้อนไปในเรื่องของวีซ่าฟรี ที่มีบางฝ่ายมองว่า ไทยอาจจะไม่ได้ประโยชน์ แต่สุดท้ายกระทรวงการต่างประเทศก็สามารถทำได้" นายเศรษฐา กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามทยอยทำเรื่อยๆ เช่น วีซ่าเชงเก้น ต้องยอมรับว่า สหภาพยุโรปมีหลายประเทศ ไม่ใช่ประเทศเดียวที่จะสามารถตกลงได้ เราต้องการให้ทุกประเทศมีความสบายใจ และทำให้คนไทยสามารถเดินทางได้สะดวก ซึ่งทางยุโรปกังวลมากสุดคือ เรื่องการลี้ภัย จึงต้องมีการพูดคุยและกระทรวงการต่างประเทศ ก็ให้ข้อมูลชัดเจนว่า เรามีมาตรการที่จะปกป้องเรื่องนี้ได้ จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณานาน
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการลงทุนของ data center จากบริษัท เช่น google หรือ Microsoft นั้น บริษัทเหล่านี้ลงทุนเป็นแสนล้าน หรือ Tesla ที่ต้องการเข้ามาลงทุน จำเป็นที่จะต้องศึกษาสภาพแวดล้อม เรื่องของที่ดิน เราจึงจำเป็นต้องให้เวลาตรงนี้ ตนคิดว่า การที่รัฐบาลได้ประกาศ IGNITE Thailand ใน 8 ข้อ จะเป็นการเสริมศักยภาพของประเทศไทยต่อไป เพื่อให้ทั่วโลกได้เข้าใจว่า ประเทศไทยดีอย่างไร และเหมาะสมที่จะมาลงทุนในประเทศไทย เชื่อว่า การที่อยู่ในตำแหน่งนี้ต้องพิสูจน์ตัวเองเรื่อยๆ ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย ก็สอบถามมา ตนก็มีหน้าที่ตอบ เพราะการที่จะทำงานใหญ่ให้คนมาลงทุนเป็นล้านๆ ไม่ใช่แค่ตนเพียงคนเดียว แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของทีมงานข้าราชการที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย
“ทุกอย่างต้องใช้เวลาที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ จากนี้ต่อไปเชื่อว่า จะทยอยเห็นผลงานมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง 21 มี.ค.นี้ ประธานไมโครซอฟต์จะมาเยือนที่ทำเนียบรัฐบาล และมีหลายบริษัทระดับโลกที่มีการตกลงกันแล้ว แต่ขอเก็บไว้ก่อน ส่วนตัวไม่รู้สึกอะไรกับเสียงวิจารณ์ แต่เป็นห่วงข้าราชการ ที่ทำงานมาหนัก ไม่อยากให้เขารู้สึกท้อถอยกับเสียงติฉินนินทาเหล่านี้”นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ผ้าขาวม้าที่นายกฯนำไปต่างประเทศ ได้นำมาโชว์ครบทุกผืนหรือไม่ เพราะได้มีโอกาสพบกับเจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ และมีโอกาสจะต่อยอดได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เอาไปน้อยไปนิดนึง เหลือผืนสองผืน แต่เป็นสีที่คล้ายกัน แต่พยายามจะใช้ให้มากที่สุด แต่เรียนตรงๆ ว่า ไม่ได้หาซื้อมาเพื่อเป็นผู้นำแฟชั่นจ๋า แต่เป็นผ้าขาวม้าของพี่น้องประชาชนที่นำมามอบให้ หรือผูกเอวให้ด้วยความรัก ความผูกพัน ตนจึงอยากจะช่วยตอบสนองเขาด้วยการนำผลิตภัณฑ์ที่ดีๆ ไปให้กับชาวโลกได้เห็นว่า เรามีผลิตภัณฑ์แบบนี้เหมือนกัน
เมื่อถามย้ำว่า ต่างชาติมีความสนใจจะนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่อหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็มีสนใจ แต่ต้องใช้เวลา เพราะแบรนด์ใหญ่ๆ ทั่วโลกมีมาตรฐานระดับโลก รวมถึงที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ก็มีส่วน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของไทยคงต้องใช้เวลา แต่ตนได้พยายามเชื้อเชิญบริษัทแฟชั่นจากฝรั่งเศสให้มาดูว่า สามารถประสานความร่วมมือตรงไหนได้บ้าง ซึ่งจะมีข่าวดีในความร่วมมือของบริษัทไทยและฝรั่งเศส จะจัดงานร่วมกัน รวมถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะมาเยือนไทยในปีหน้าด้วย