ข่าวปนคน คนปนข่าว
**"โจ๊ก" เกมโอเวอร์ ใช้ทนายฟ้อง "บิ๊กเต่า" งัดมุกเก่าขู่แฉเส้นเงินบิ๊กในสตช.ได้ "ตายตกตามกัน" ทั้งกรม!
"โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. วันนี้กำลังกลายสภาพเป็น "นักรบบนศาล"
ตัวเองและกลุ่มลูกน้องคนสนิทถูกตั้งข้อกล่าวหาพัวพันเว็บพนันออนไลน์-ฟอกเงิน ด้วยหลักฐานเส้นทางการเงินยากที่จะปัดสวะพ้นตัวได้
เกมโอเวอร์ไปเรียบร้อยเมื่อวันก่อน หลังจากที่พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลออกหมายจับพวกตำรวจ และพลเรือนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีชื่อของ "โจ๊ก"
ฟังว่า “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” สงบปากสงบคำ พูดแค่ว่าเรื่องนี้ได้มอบให้ทีมทนายความแถลงข่าวไปแล้ว และก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เพราะตัวเองไม่ได้มีความผิด ขอเอาเวลามาคิดมาทำงานเพื่อตำรวจเพื่อองค์กรเพื่อพี่น้องประชาชนดีกว่า และยังยืนยันชัดเจนว่า การทำงานของตนเองการปราบปรามจับกุมที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวข้องพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ใดๆ
แต่สิบปากว่า ไม่เท่าลงมือทำ!! เมื่อปาก “โจ๊ก” พร่ำว่า ขอเอาเวลามาคิดทำงานเพื่อองค์กรตำรวจดีกว่า แต่การกระทำกลับย้อนแย้งเพราะเอาเวลา "คิดแค้น" ส่ง "ณัฐกร โตสกุล" ทนายผู้รับมอบอำนาจจากตัวเอง เดินทางไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อนำเอกสารไปยื่นฟ้อง "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
อ้างว่า เมื่อวันที่ 21 และ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” นำข้อมูลที่อยู่ในสำนวนคดีเว็บพนันของ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.เตาปูน ไปเปิดเผยต่อสื่อ ซึ่งข้อความดังกล่าวมีลักษณะเกินเลยความเป็นจริง ทำให้"โจ๊ก"ได้รับความเสียหาย
ทนายยังขู่ด้วยว่า ไม่ใช่แค่ "บิ๊กเต่า" หากที่ผ่านมามีบุคคลใดที่ทำให้ลูกความ "โจ๊ก" ของตัวเองเสียหาย ทีมทนายก็จะฟ้องร้องทั้งหมด
เรียกว่า ใครว่า “โจ๊ก” ก็จะฟ้องให้เรียบ ดูทรงแล้วทีมทนายความชุดนี้น่าจะเห็นโอกาสได้งานได้เงินค่าจ้างแบบ...หวานเจี๊ยบ!
และแนวทางต่อสู้ของทนายโจ๊กก็อบบี้จากคำพูดของผู้ว่าจ้าง มาเดะๆ
นั่นคือ กลยุทธ์ "ตายตกตามกัน" ด้วยการขู่ ถ้า “โจ๊ก” ผิด ก็ต้องผิดกันกันทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ หากแฉข้อมูลเส้นทางการเงินเว็บพนันออกมาเมื่อไหร่ได้ "ตายหมู่" แน่นอน
โดยทีมทนายจะตั้งโต๊ะแถลงเปิดเส้นทางการเงินทั้งหมด ที่เชื่อมไปยังบุคคลอื่นไม่ใช่แค่ “โจ๊ก” แต่มีคนระดับ"บิ๊ก" ที่จะทำให้สะเทือนทั้งวงการ เหมือนที่โจ๊กเคยบอกไว้นั่นเอง
นี่เป็นความเคลื่อนไหวของ “โจ๊ก” ผู้เชื่อว่าตัวเองต้องมีชีวิตที่ 10 กลับมาแน่นอน หลังจากเป็นแมว 9 ชีวิตมาแล้ว
งานนี้ก็ไม่รู้ว่า "พี่ต่อเฟรนด์ลี่" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร. รับทราบสถานการณ์แล้วจะเห็นเป็นเช่นใด !?
ระหว่าง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาสู้ด้วยวิธี "ฟ้อง" และ "ขู่แฉ" คนในองค์กรหวังให้ตายตกตามกัน กับ การปฏิบัติของ "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พร้อมพนักงานสอบสวนที่ "ทำหน้าที่" ของตัวเอง
"บิ๊กต่อ" ต้องเด็ดขาด มีคำตอบให้กำลังพลผู้ใต้บังคับบัญชา และสังคมให้ได้ว่า จะปกป้องคน "ทำหน้าที่" หรือ "เฟรนด์ลี่" กับ “โจ๊กและพวก” ลอยตัวเหนือปัญหาต่อไป
ต้องไม่ลืมว่า งานนี้ สีกากีสะท้านสะเทือน ไม่ใช่เพราะโจ๊กขู่แฉ แต่โจ๊กเกมโอเวอร์ กำลังคิดจะย้อมสีกากีทั้ง สตช.ให้กลายเป็นสีดำ!
อย่างนี้เฟรนด์ลี่ต่อไปไหวหรือ !?
**หายป่วยอย่างไว!! “ทักษิณ” ไปเชียงใหม่ โปรแกรมแน่นเอี๊ยด คนแข็งแรงเห็นแล้วยังเหนื่อย
เป็นเวลาเกือบครบ 1 เดือน ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับการพักโทษ ออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะผู้สูงอายุ ที่มีโรคร้ายแรง เรื้อรัง ไปพักฟื้นที่ บ้านจันทร์ส่องหล้า และ ในช่วงวันที่14-16 มีนาคมนี้ ก็มีโปรแกรมเดินทางไป จ.เชียงใหม่ บ้านเกิด เพื่อไหว้บรรพบุรุษ พบปะเครือญาติ มววลชนการเมือง
โดยวันที่ 14 มี.ค. จะไปสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้ามืด ก่อนไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่ บน. 6 เพื่อเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ซึ่งนอกจากบรรดาญาติใกล้ชิดแล้ว ก็จะมีกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ที่ยังรักฝังใจ มารอต้อนรับ ซึ่งตามรายงานบอกว่า น่าจะมากันหลายพันคน
เมื่อไปถึงเชียงใหม่ และช่วงที่พักอยู่เชียงใหม่ จะไปที่ไหนบ้างนั้น คนใกล้ชิดและทีมงานได้วางโปรแกรมไว้ แน่นเอี๊ยด หลักๆ ก็จะเป็นการไปรื้อฟื้นความทรงจำ เยี่ยมชมผลงานที่เคยทำไว้ในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี และไปรับประทานอาหารร้านโปรด ที่ก่อนหน้านี้เคยรับประทานเป็นประจำ
อย่างเช่นวันที่ 14 มี.ค. เมื่อไปถึงเชียงใหม่ จุดแรกที่จะไปคือ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถานที่ที่เคยใช้จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ โดยจุดนี้จะมีมวลชน และนักการเมืองในพื้นที่ไปรอต้อนรับ
ส่วนอาหารมื้อเที่ยง “ทักษิณ” จะแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าประจำย่านช้างม่อย
จากนั้นเดินทางต่อไปที่ คลองแม่ข่า ดูการพัฒนาการขุดลอกคลอง และไปยังอ่างเก็บน้ำหนองเขียวห้วยหยวก ดูพื้นที่ก่อสร้างสถานที่ออกกำลังกายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปยังหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สา ต.แม่สา อ.แม่ริม
อาหารมื้อเย็น ที่ร้านเจี่ยท้งเฮง สาขาฟ้าฮ่าม ก่อนที่จะเข้าพัก ที่บ้านพักในสนามกอล์ฟซัมมิท กรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
วันที่15 มีนาคม ช่วงเช้า “ทักษิณ” พร้อมครอบครัว เดินทางไปสักการะครูบาศรีวิชัย ก่อนขึ้นไปกราบสักการะพระธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้นจะเดินทางไปยังตลาดวโรรส หรือกาดหลวง ซึ่งเป็นตลาดที่คนในตระกูลชินวัตร มักจะแวะเวียนมาเป็นประจำ
ช่วงเที่ยงจะแวะรับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านข้าวซอยเสมอใจ ซึ่งเจ้าของร้านพอรู้ข่าว ก็เตรียมต้อนรับด้วยความยินดี บอกว่าเมนูที่ “ทักษิณ” รับประทานแทบทุกครั้งที่มาที่นี่คือ ข้าวซอยเนื้อ
จากนั้นเดินทางไปยัง สุสานแม่ออน ที่เก็บอัฐิของ นายเลิศ ชินวัตร และ นางยินดี ชินวัตร บิดาและมารดา ที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาด้านทิศตะวันตกติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน ตำบลออนเหนือ อำเภอแม่ออน เสร็จแล้ว เดินทางไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง รวมทั้งเยี่ยมญาติที่บ้านชินวัตร และช่วงเย็นก็มีการจัดงานเลี้ยงที่บ้านพักกรีนวัลลเลย์
วันที่ 16 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่อยู่เชียงใหม่ ช่วงเช้า จะไปรับประทานอาหารมื้อเช้า ดื่มกาแฟ ที่ร้านโอเอซิส ก่อนจะเดินทางไปที่ สวนสัตว์ไนท์ซาฟารี ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานสำคัญช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้วรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ที่ ลำดีที่ขัวแดง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
นับว่าเป็นโปรแกรมในช่วงเวลาสองวันครึ่งที่แนนเอี๊ยด ซึ่งคนป่วยหนัก ป่วยเรื้อรัง ไม่น่าจะรับไหว ขนาดคนสุขภาพดีเห็นแล้วยังบอกว่าเหนื่อยแทน