“เศรษฐา” เผย ปธน.ฝรั่งเศส “มาครง” เยือนไทยปีหน้า ตั้งเป้าจัดทำ FTA ไทย-EU ปีครึ่งเสร็จสิ้น พร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด F1 ปี 2O27
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสรุปภารกิจดังนี้ โดยเปิดเผยว่า เอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดี ยินดีให้ความร่วมมือ และสนับสนุนไทย ในการยกเว้นการตรวจลงตรา VISA FREE สำหรับประเทศใน Schengen โดยจะเริ่มพิจารณาได้หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาสหภาพยุโรป ซึ่งจะเสร็จสิ้นประมาณเดือนมิถุนายน และหวังว่า ไม่เกินปลายปีน่าจะเสร็จสิ้น ซึ่งนายกฯ ได้ย้ำกับ ปธน.มาครง ว่า จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองประเทศ เนื่องจากจะเพิ่มโอกาสการเดินทางของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ และถือเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการเร่งรัดการทำ FTA ไทย-EU ซึ่งน่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นภายในหนึ่งปีครึ่ง รวมทั้งมีการพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหารซึ่งจะมีการพูดคุยในรายละเอียดต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ยังมีเรื่องที่น่ายินดี คือ ในเดือนพฤษภาคม 2567 จะนำคณะนักธุรกิจไทยมาฝรั่งเศส และในเดือนกันยายนคณะธุรกิจฝรั่งเศสจะเดินทางเยือนประเทศไทย รวมถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะไปเยือนไทยปีหน้าด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังเล่าถึงบรรยากาศในการหารือด้วยว่า เป็นไปอย่างสบายๆ เป็นกันเอง และนายกรัฐมนตรียังได้ใช้โอกาสนี้อธิบายถึงสถานการณ์ในเมียนมา การดำเนินการต่างๆ โดยได้ย้ำว่า ไทยเป็นกลาง และเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกฝ่ายมาพูดคุยกันของทุกฝ่าย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีพบผู้บริหาร EDF ซึ่งเปรียบเสมือนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในยุโรป เป็นผู้ส่งพลังงานให้หลายประเทศในยุโรป รวมทั้งอังกฤษ ซึ่งได้รับฟังในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งนายกฯ เน้นย้ำว่า มีความละเอียดอ่อน แม้ว่าในหลายประเทศได้มีการพัฒนาในด้านนี้ ซึ่งถือว่าพลังงานที่มีความเสถียรสูง ราคาต่ำ อย่างไรก็ดี นายกฯ เน้นย้ำว่า ในการดำเนินการต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมา โดยทางบริษัทได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย โดยพร้อมเป็นที่ปรึกษาและช่วยพัฒนา ซึ่งนายกฯ ย้ำว่า ในการเดินหน้าเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ต้องให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างละเอียด ตอนนี้ยังถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการศึกษา ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลต้องสอบถามประชาชน ดำเนินการอย่างโปร่งใส
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้พบปะกับผู้บริหาร F1 ซึ่งให้ความสนใจประเทศไทย พร้อมนัดหมายพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดความเป็นไปได้ของสถานที่ ในการจัด street race ซึ่งนายกฯ มั่นใจว่า หากมีการจัดแข่งขันขึ้นจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังประเทศไทย โดยกล่าวว่า การจัดการแข่งขันเร็วที่สุดน่าจะเกิดขึ้นในปี 2027 ซึ่งไทยพร้อมเสนอตัว รวมทั้งไทยจะเปิดตัวโครงการใหญ่เร็วๆ นี้ เรื่องความปลอดภัยในการใช้ถนน (Road Safety) ซึ่งทำงานร่วมกับองค์การสหประชาชาติ