“จิรายุ” เผย ทร.กำลังส่ง จนท.ไปขอข้อมูลทหารซักชุดชั้นในแล้ว บอกเป็นทหารปลดประจำการ การันตีระเบียบถูกยกเลิกแล้ว ฝ่าฝืนมีบทลงโทษตั้งแต่ตักเตือน-ออกจากราชการ เผย ยังมีทหารอยากไปรับใช้บ้านนาย ลั่นจะมาบอกโลกสวยว่าไม่มีเลยไม่ได้ เตือน ผบช.ต้องดูแลให้ดี มิเช่นนั้นบูมเมอแรงจะกลับสู่เจ้านายอย่างที่เป็นข่าว
วันนี้ (12 มี.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีคลิปพลทหารซักชุดชั้นในบ้านพักนายทหาร ว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ได้มีการประชุมผู้แทนของกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพบก ซึ่งสรุปว่า พลทหารในคลิปเป็นพลทหารที่เคยประจำการอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ของกองทัพเรือ และปลดประจำการไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อสืบค้นประวัติ ปรากฏว่า พลทหารคนดังกล่าวไปทำงานอยู่ที่จังหวัดนครปฐม วันนี้ทางกองทัพเรือจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปขอข้อมูลว่าเหตุใดจึงปรากฏลักษณะเช่นนี้ และเกิดที่ไหน อย่างไร เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพิจารณาของคณะกรรมการเพื่อดำเนินการ ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวในที่ประชุม ว่า เราไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเป็นเอกสารว่าห้ามกองทัพหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปทหารไปรับใช้ทั้งภรรยา และบุตร ตามกฎที่ตราไว้ตั้งแต่ปี 2455 และมีการแก้ไขปรับปรุง 2476 มาจนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อปี 2566 ได้ยกเลิกไปหมดแล้ว
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ผู้บังคับบัญชาท่านใดอยู่กับน้องๆ ต้องดูแลให้ดี ถ้าดูแลน้องไม่ดี น้องเขาออกมาตำหนิติเตียนผ่านสื่ออย่างนี้ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ แต่ต้องยอมรับความจริงว่าในสังคมไทยจะบอกว่าไม่มีเลยเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกกระทรวง ทบวง กรม ตัวอย่างเช่น ตำรวจ มีตั้งแต่พลตำรวจจนถึงกระทั่งนายสิบ นายร้อย อยากจะไปเดินถือกระเป๋าให้กับท่านนายพลพร้อมที่จะทำทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชานั้นดูแลได้ดีขนาดไหน และที่สำคัญ มีภาพปรากฏเรื่องของน้องพลทหารไปทำกับข้าวจัดอาหารวางในจาน มองได้สองมุม เพราะในกองทัพมีองคาพยพหลากหลาย บางคนฝึกหนักถืออาวุธปืน 3 เดือน แล้วอยากจะไปฝึกโรงครัว เพราะเป้าหมายอยากจะไปเป็นเชฟ พอปลดประจำไปแล้วก็เอาภาพต่างๆ ไปนำเสนอให้กับโรงแรมและร้านอาหารต่างๆ หลายคนก็ได้ทำงานดีกว่าคนทั่วไป หลายคนอยู่ในโรงนอนเพื่อนขี้เกียจจัดที่นอนก็รับจัดที่นอนให้ ก็มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะมีการตรวจเช็ค หลังปลดประจำการก็ไปทำงานโรงแรม
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะการฝึกต่างๆ ไม่ได้หมายความว่า ถือปืนอย่างเดียว การฝึกทุกอาชีพในกองทัพมีหลากหลาย แต่ขอย้ำว่า ถ้านำพลทหารไปทำงานด้วยแล้วเขาอยู่ต้องมีความสุข ถ้าเขาอยู่แล้วไม่มีความสุขมีเรื่องร้องเรียนเมื่อใด ก็ต้องดำเนินการตามระเบียบวินัยทางการทหารต่อไป หากพบว่ามีความผิดก็ต้องถูกลงโทษ เริ่มตั้งแต่ตักเตือน ภาคฑัณธ์ กักขัง จนกระทั่งให้ออกจากราชการ แต่กรณีที่เห็นน่าเสียดายว่าเป็นเพียงคลิบจึงไม่สามารถตอบได้ว่าเหตุเกิดที่ไหน ซึ่งคลิปลักษณะเช่นนี้ในการทหารต่างประเทศบางทีก็สร้างให้เกิดการเกลียดชัง กับหน่วยงานต่อต้านอะไรต่างๆ ซึ่งสามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องดำเนินการ ตามระเบียบ
“จะมาบอกโลกสวยว่าไม่มีเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ท่านต้องอยู่กับลูกน้องให้มีความสุข ผู้บังคับบัญชาต้องดูแล เพราะบางคนไม่อยากไปเฝ้าป้อม ไม่อยากอยู่ในปี เขาอยากมาอยู่บ้านนาย ซึ่งบางครั้งมีการแย่งกันไปอยู่ เพราะเขาบอกว่าอยู่บ้านนายสบาย แต่อยู่แล้วต้องได้วินัยทางการทหาร ต้องได้ความรู้ความสามรถ และเจ้านายต้องดูแลให้ดี ถ้าดูแลไม่ดีบูมเมอแรงก็จะกลับไปสู่เจ้านายอย่างที่เป็นข่าว” นายจิรายุ กล่าว