“บิ๊กกุ้ย-วัชรพล” จะจากไปให้คนจดจำ หรือปล่อยให้ป.ป.ช.เน่าใน งานนี้ต้องถามใจตัวเอง **“ทักษิณ”ไปเชียงใหม่เบื้องหน้าไหว้บรรพบุรุษ-เบื้องลึกเตรียมพาน้องกลับบ้าน

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** “บิ๊กกุ้ย-วัชรพล” จะจากไปให้คนจดจำ หรือปล่อยให้ป.ป.ช.เน่าใน งานนี้ต้องถามใจตัวเอง

เหม็นเน่าฉาวโฉ่ กรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 3 ราย โดยเป็นอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 1 ราย, เป็นพนักงานสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 ราย และเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจอีก 1 ราย ถูกตั้งข้อกล่าวหา มีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อได้ว่า ให้ความช่วยเหลือในการตกแต่งพยานหลักฐานประกอบคำชี้แจงแก่ "นายตำรวจยศสูงรายหนึ่ง" ซึ่งคุณก็รู้ว่าเป็นใคร? ในการจัดทำเอกสารยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

หลักฐานเด็ดที่มัดตัวเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.เหล่านี้ มาจากการสืบสวนตรวจสอบข้อมูล "เซลเลไบรต์" โทรศัพท์มือถือของนายตำรวจยศ "พ.ต.ท." รายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดบิ๊กตำรวจ

พบข้อมูลการสนทนากับเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน ป.ป.ช. มีการพูดคุยเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายตำรวจยศสูงรายนี้

เรื่องนี้คุ้นๆ ว่าเหมือนเรื่องจริงไม่อิงนิทาน ว่ามี "บิ๊กหวานเจี๊ยบ" กับ "บิ๊กป.ป.ช." ที่คนในองค์กรอิสระ และวงการสีกากีเขาเล่าขานกันว่า โอบอุ้มช่วยเหลือกัน ยังไงไม่รู้!

ฟังว่า ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานป.ป.ช.รับทราบเรื่องแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทั้ง 3 รายเป็นใคร อยู่สังกัดไหน และมีพฤติการณ์กระทำความผิดตามที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา จริงหรือไม่ ?


ป.ป.ช.ตอนนี้เรียกได้ว่า ว้าวุ่นหนัก มีเรื่องราวเหม็นๆ เน่าๆ เข้ามาแทบทุกวันตั้งแต่ "โจ๊กและลูกน้อง" พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.กับกลุ่มลูกน้องคนสนิท “พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ” พัวพันคดีมินนี่ สาวน้อยร้อยเว็บ เครือข่ายพนันออนไลน์ ที่ป.ป.ช.ถูกครหา พยายามช่วยโจ๊ก เต็มที่

ทำไม ป.ป.ช.ต้องช่วยโจ๊ก?! คำตอบก็ต้องกลับไปดูความสัมพันธ์กันระหว่าง "เราสามคน" มี "ลุงป้อม" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ หลาน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ และ เลขาคู่ใจลุง "บิ๊กกุ้ย" พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ที่รั้งประธาน ป.ป.ช.

“ลุงป้อม”เอ็นดู “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” เหมือนหลานในไส้มาแต่ไหนแต่ไร อดีตสมัยโจ๊กยังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ก็มีลุงช่วยเป็น "ป๋าดัน" งานเล็กงานใหญ่ ไว้ใจให้ทำงานจนก้าวพรวดๆ ขึ้นมาเป็นบิ๊กในรั้วปทุมวัน

ส่วน “พลตำรวจเอกวัชรพล” เคยเป็น อดีต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ เลขาธิการของอดีตรองนายกฯลุงป้อม

เรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจ ก็ไม่ด้อยกว่า “โจ๊ก” เส้นทางจากตำรวจเข้าสู่บอร์ด ป.ป.ช. และ กระทั่งได้รับเลือกเป็นประธานป.ป.ช. ก็ต้องบอกว่า “ลุงป้อม”ในช่วงพีคเป็นพี่ใหญ่คสช. เป็นผู้อำนวยการสร้าง!


วางเส้นทางให้ พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ จาก สนช. ที่มีมติเลือกให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ส่งต่อด้วยคำสั่งคณะคสช. ปี 58 เลือกประธานกรรมการป.ป.ช. แทน ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ

ที่ผ่านๆมา ป.ป.ช.ในยุคของ “พลตำรวจเอกวัชรพล”นั่งเป็นประธานเป็นอย่างไรก็คงจะรู้ดีกันอยู่

จาก "นาฬิกาเพื่อน" ของลุงป้อม มาถึงคดีแล้วคดีเล่าของ "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" แล้วก็มีเรื่องคนในป.ป.ช. ช่วยเหลือบิ๊กตำรวจแต่งบัญชีทรัพย์สินเข้าให้อีก!

ทุกวันนี้เป็นอย่างไร? มีเสียงสะท้อนของประชาชน โดย “นิด้าโพล” ออกมาเมื่อวันก่อน สำรวจถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ในหน่วยงานต่าง ๆ พบว่า

ร้อยละ 34.05 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่น ป.ป.ช. ขณะที่มีร้อยละ 11.07 เท่านั้นที่เชื่อมั่น

เพราะฉะนั้น นับจากวันนี้ ถึงหมดวาระในอีก 7เดือน พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ในฐานนะประธาน ป.ป.ช.คงต้องถามตัวเอง จะทำในสิ่งที่ต้องทำเพื่อองค์กรให้คนจดจำ หรือจะปล่อยให้องค์กรอิสระแห่งนี้เน่าใน ทิ้งปัญหาให้ผู้มาใหม่ก็สุดแต่ใจ นะครับนะทั่น


**“ทักษิณ”ไปเชียงใหม่เบื้องหน้าไหว้บรรพบุรุษ-เบื้องลึกเตรียมพาน้องกลับบ้าน

เป็นที่ชัดเจนว่า “อ้ายแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร” จะปิ๊กบ้านเชียงใหม่ ไปไหว้บรรพบุรุษ ช่วงวันที่ 14-16 มี.ค.นี้

โดยวันที่ 14 มี.ค. ในช่วงเช้า จะไปสักการะศาลหลังเมืองกรุงเทพฯ เอาฤกษ์เอาชัยก่อน จากนั้นเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ด้วยเครื่องบินส่วนตัว แน่นอนว่าเมื่อไปถึง ย่อมมีกลุ่มคนเสื้อแดงมารอให้การต้อนรับ ซึ่งตามรายงานบอกว่า น่าจะหลายพันคน

เมื่อไปถึงเชียงใหม่แล้ว จะไปที่ไหนบ้างนั้น คนในพื้นที่ได้วางโปรแกรมว่าจะพา“ทักษิณ” ไปรื้อฟื้นความหลัง เยี่ยมชมผลงานที่ได้ริเริ่มสร้างไว้ อย่างเช่น อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถานที่จัดงานพืชสวนโลก จากนั้นไปรับประทานอาหารกลางวันที่ ช้างม่อยกาแฟ ไปคลองแม่ข่า น้ำตกแม่สา รับประทานอาหารมื้อเย็นที่ร้าน เจี่ยท้งเฮง และเข้าพักที่บ้านพักในสนามกอล์ฟ ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม

วันที่ 15 มี.ค. ไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ จากนั้นไปไหว้ ฮวงซุ้ย หรือ สุสานฝังศพของ นายเลิศ ชินวัตร และ นางยินดี ชินวัตร ผู้เป็นพ่อและแม่ของ “ทักษิณ” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเนินเขาด้านทิศตะวันตก ติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เสร็จแล้วไปวัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง ซึ่งเป็นสุสาน มีกู่เก็บกระดูกของคนในตระกูลชินวัตร เสร็จเรื่องไหว้บรรพบุรุษแล้ว ก็จะไปที่ กาดหลวง ช่วงเย็นมีงานเลี้ยง ที่บ้านกรีนวัลเล่ย์

วันที่16 มี.ค. ไปเยี่ยมชมไนท์ซาฟารี และรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนบินกลับกรุงเทพฯ

ในการไปในสถานที่ต่างๆ ระหว่างอยู่ที่เชียงใหม่ ย่อมมีแฟนคลับ คนเสื้อแดง ที่ยังรักและคิดถึงต้องมารอต้อนรับ ส่วน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในพื้นที่เชียงใหม่นั้น จากที่เคยแลนด์สไลด์ เลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ มีผ่านเข้ามาแค่ 2 คน คือ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” และ “ศรีโสภา โกฏคำลือ” นอกนั้นเป็นของพรรคก้าวไกล 7 ที่นั่ง และ พรรคพลังประชารัฐ 1 ที่นั่ง


“สรวงศ์ เทียนทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงเรื่องที่จะมีส.ส.ของพรรคไปรอต้อนรับ “ทักษิณ” หรือไม่ว่า ไม่มีหรอกครับ เพราะวันที่ 14 มีนาคม เป็นวันประชุมสภา ไม่ได้ห้าม ซึ่งจริงๆ แล้วน่าจะอยู่ที่วิจารณญาณของ ส.ส. ซึ่งไม่ควรจะไปอยู่แล้ว แต่หากเป็นอดีตผู้สมัคร หรืออดีต ส.ส.ก็ไม่มีปัญหา แต่หากเป็นส.ส.ก็ไม่น่าไป เพราะต้องประชุมสภา

เช่นเดียวกับ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาลก็บอกว่าทางพรรค ไม่ได้มีการคุยกันในเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่ไม่ได้มีข้อห้ามในข้อกฎหมาย ไม่มีเรื่องอะไรผิด เพียงแต่ว่าวันนั้นเป็นวันประชุมสภา ก็ควรจะอยู่ประชุม หน้าที่ของเราอยู่ตรงนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครไป สส.เพื่อไทยต้องอยู่ครบ และก็ขอประชาชนว่า อย่าเชิญสส.ไป หรือถ้าเชิญแล้ว สส.ไม่ไปก็อย่าโกรธกัน เพราะเขาติดภารกิจที่สภา

อย่างไรก็ตาม วันประชุมสภาที่ว่าคือ วันพฤหัสบดีที่ 14 มี.ค. เท่านั้น ส่วนวันที่ 15 มี.ค. เป็นวันศุกร์ ไม่มีการประชุมสภา ก็รอดูว่าจะมีส.ส.เชียงใหม่ หรือส.ส.ในจังหวัดใกล้เคียง แห่ไปเชียงใหม่กันหรือไม่

แต่สำหรับ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี น่าจะได้ไปพบกับ “ทักษิณ” เพราะหลังกลับจากออนทัวร์ยุโรป ก็มีกำหนดการ เดินทางไปที่เชียงใหม่ ในวันที่ 15 มี.ค. เพื่อติดตามแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 จนถึงวันที่ 17 มี.ค. จากนั้นช่วงเช้าวันที่18 มี.ค. จะเดินทางไป จ.พะเยา เพื่อร่วมประชุม ครม.สัญจร

การเดินทางไป จ.เชียงใหม่ของ “ทักษิณ” ในครั้งนี้เป็นที่รับรู้กันว่า เพื่อไปไหว้บรรพบุรุษตามประเพณี หลังจากห่างหายไปถึง 17 ปี ขณะเดียวกันก็มีการมองว่า จะใช้โอกาสนี้ เช็กเรตติ้งทางการเมือง กระชับเครือข่าย เพื่อกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือของพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ในทางลึกก็มีกระแสข่าวว่า การไปครั้งนี้เพื่อเตรียมตัวและเช็กความพร้อมของโครงการ “พาน้องกลับบ้าน” เมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างลงตัว ก็จะส่งเครื่องบินส่วนตัวไปรับ “ยิ่งลักษณ์” แล้วมาลงที่สนามบินเชียงใหม่ เนื่องจากที่นี่ เป็นสนามบินนานาชาติ อนุญาตให้เครื่องบินส่วนตัวลงจอดได้ ... ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้าย “ทักษิณซีนีม่า”จะจบแบบหักมุม แฮปปี้เอนดิ้งหรือไม่

ระดับนักแสดงอย่าง “ทักษิณ” หากเล่นใหญ่ เล่นเนียนขนาดนี้ ถ้าไม่ได้รางวัลออสการ์ ก็ถือว่าขัดพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว!!