โฆษก พปชร.แจ้ง “บิ๊กป้อม” แล้ว คาดหมดสมัยประชุมย้ายของออกจากห้องหลังบัลลังก์ ย้ำ ไม่ได้มีปัญหาและพร้อมทำตามกติกา ชี้ ก้าวไกลก็ได้ห้องใหญ่อยู่คนละฟาก
วันนี้ (7 มี.ค.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา และ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีการใช้ห้องหลังบัลลังก์ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ถูก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จับจองไม่ยอมย้ายของออก ซึ่งมีการถามถึงวันเวลาในการย้ายออกมานานหลายเดือน จนประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องออกระเบียบนั้น
นายอรรถกร ชี้แจงว่า คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพราะตอนนี้ยังคงอยู่ในสมัยประชุม เมื่อหมดสมัยก็จะย้ายให้ ซึ่งระหว่างนี้ตนได้แจ้งไปยัง พล.อ.ประวิตร และผู้ใหญ่ในพรรค ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานห้องที่รัฐสภา ซึ่งภายในพรรคเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ ตนไม่ได้อยากมีปัญหา หรือทะเลาะเบาะแว้งกับใคร อีกทั้งการใช้ห้องดังกล่าวก็ใช้มาเกินปีแล้ว ทางพรรคพลังประชารัฐเอง ก็ขออนุญาตอย่างไม่เป็นทางการไปยังสํานักการประชุม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอใช้ห้องดังกล่าว เนื่องจากมีความจำเป็นในบางครั้งที่จะต้องเรียกประชุมย่อย หรือเพื่อให้สมาชิกได้ทำงานอย่างสะดวกช่วงที่มีประชุมสภา และตัวระเบียบเองก็มีเพียงการระบุถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ห้อง เพื่อชี้แจง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กระทั่ง นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร (ประธานวิปฝ่ายค้าน) ได้มาประสานกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อขอห้องดังกล่าวคืน เนื่องจากพื้นที่ห้องนั้นเป็นห้องที่พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้ในสภาผู้แทนราษฎรชุดแล้ว
นายอรรถกร กล่าวต่อไปว่า อีกฟากหนึ่งจากห้องของพรรคพลังประชารัฐ ทางสำนักการประชุม ได้จัดเตรียมไว้สำหรับพรรคการเมืองอื่น โดยพรรคก้าวไกลก็ได้ห้องใหญ่ สำหรับคำพูดที่พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐครอบครองห้องดังกล่าวโดยปรปักษ์นั้น ส่วนตัวมองว่า แล้วแต่ใครจะพูด ฝั่งพรรคก้าวไกลเอง ก็มีห้องลักษณะดังกล่าวใช้เหมือนกัน ถ้าหากใช้มาตรฐานเดียวกัน ก็คงจะเรียกได้เหมือนกัน