xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านเขาค้อร้องผู้นำฝ่ายค้าน ปมพิพาทีที่ดินกองทัพ ยันโดนประกาศป่าสงวนทันที่ และยังไม่ได้รับจัดสรรตามสัญญา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตัวแทนชาวบ้าน 4 ตำบลพื้นที่เขาค้อ ร้องผู้นำฝ่ายค้าน ปมพิพาทที่ดินกับกองทัพในพื้นที่เคยเป็นเขตสู้รบ เผยชาวบ้านจำนวนมากยังไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินตามสัญญา ทั้งที่เคยทำกินมาก่อนภาครัฐประกาศเขตป่าสวนหรืออุทยานทับที่ ร้องทบทวนมติ ครม.ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย



เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา ประชาชนในพื้นที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร 2 คณะ ได้แก่ กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กมธ.การทหาร กรณีพิพาทเรื่องที่ดินทำกินระหว่างประชาชนและกองทัพ

โดยตัวแทนประชาชนเขาค้อ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของชาวบ้าน 4 ตำบล เนื่องจากคนในพื้นที่ มีบางส่วนที่ได้รับใบจองหนังสือแสดงการครอบครองที่ดินชั่วคราว หรือ น.ส.2 ก. แต่มีบางส่วนยังไม่ได้รับ และยังคงรอต่อไป ทำให้ประชาชนเดือดร้อน สืบเนื่องจากเมื่อปี 64 ที่ชาวบ้านได้รับข้อมูลมากขึ้น ทำให้รู้ว่าความเป็นมาของพื้นที่มีความเจ็บปวดที่ภาครัฐละเลยพวกเรา ไม่ทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย ตั้งแต่สมัยยังมีผู้ก่อการร้าย ซึ่งให้พวกเราเป็นแนวกันชนเป็นอาสาสมัคร และเป็นทหารพราน ราษฎรทั้ง 4 ตำบลได้รับการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายที่ดินแปลงใหญ่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2520-2527 จนกระทั่งปี 2529 มีการประกาศพื้นที่ป่าสงวนทับที่ของประชาชน และประกาศทับที่อีกครั้งในปี 2530

ราษฎรขอยืนยันสิทธิ์การครอบครอง ประชาชนอยู่ก่อนการประกาศเป็นป่าสงวน หมู่บ้านทั้ง 35 หมู่บ้าน อยู่มาก่อนการประกาศเป็นป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติ ที่ผ่านมาเราได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อขอให้ทบทวน ยกเลิก แก้ไข ประชาชนไม่ต้องการที่ราชพัสดุหรือที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) เพราะประชาชนได้สิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดินอยู่แล้ว เราไม่ได้ทำผิด ภาครัฐต่างหากที่ทำผิดต่อประชาชน และประชาชนทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เพื่ออยู่ทำมาหากินในพื้นที่ ขอให้ภาครัฐทำตามข้อกฎหมายในโครงการจัดสรรที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินด้วย เนื่องจากมีพระราชบัญญัติและกฤษฎีกาแนบท้ายกฎกระทรวงที่ยังไม่ถูกยกเลิก ซึ่งเราได้ทำหนังสือส่งรายงานถึงภาครัฐต่างๆ ออกไปแล้ว แต่ภาครัฐยังนิ่งเฉยจึงขอให้ สส.นำเรื่องนี้เข้าสู่สภาฯ แทนประชาชนที่เดือดร้อน

ด้านนายชัยธวัช อธิบายว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดในพื้นที่ซึ่งแต่เดิมมีการต่อสู้ขัดแย้งกันระหว่างรัฐไทย กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ฝ่ายความมั่นคงของไทยมีกลยุทธ์ ในการชักชวนให้พี่น้องประชาชนจำนวน หนึ่ง ทั้งที่เป็นคนไทยและกลุ่มชาติพันธุ์เข้ามาร่วมกับกองทัพ เพื่อต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในลักษณะของทหารพรานและเป็นแนวกันชน โดยให้สัญญากับประชาชนว่า จะจัดสรรที่ดินให้และมอบเอกสารสิทธิ์เพื่อตั้งชุมชน ให้มีความมั่นคงต่อไป หลังเสร็จภารกิจต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามความขัดแย้งยุติลง ทางฝ่ายความมั่นคงหรือกองทัพซึ่งเคยขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้เพื่อจัดสรรให้กับประชาชน ก็ได้คืนที่ดินให้กับกรมป่าไม้ในภายหลัง ขณะที่ประชาชนก็ไม่ได้รับที่ดินจัดสรรตามที่สัญญาไว้ จนถึงทุกวันนี้ กระทั่งนโยบายของรัฐบาลที่สืบเนื่องมาจากชุดที่แล้ว ว่าประชาชนซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าจะต้องมาทำสัญญาเช่าที่ดินกับที่ราชพัสดุ ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ว่าเหตุใดต้องมาเช่าที่ดินของตัวเองที่กองทัพเคยสัญญาว่าจะจัดสรรให้เป็นการตอบแทน

ทั้งนี้ ยังมีปัญหาในลักษณะเดียวกันที่ได้ติดตามมา และมีแนวทางแก้ไขปัญหาไว้แล้วแต่น่าเสียดายที่เราเป็นฝ่ายค้าน ก็จะช่วยผลักดันให้มีการแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด ทั้งกรรมาธิการการทหาร และกรรมาธิการการที่ดิน ก็จะต้องทำงานร่วมกัน ปัญหาลักษณะนี้ไม่ได้มีกลุ่มเดียว แต่อยากมีปัญหาของพี่น้องม้ง อ.เขาค้อ ที่เคยอาสาสมัครร่วมต่อสู้กับกองทัพไทย และไม่ได้รับจัดสรรที่ดินเช่นเดียวกัน รวมถึงกลุ่มที่น้องชาติพันธ์ที่ไปร่วมกับฝั่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพไปเจรจาให้ยุติการต่อสู้ แล้วจะจัดสรรที่ดินเพื่อสร้างชุมชนไว้ให้ ก็ไม่ได้รับที่ดินตามสัญญาเช่นเดียวกัน

"จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเคยอยู่ฝั่งไหน ตอนนี้พี่น้องประชาชนอยู่ฝ่ายเดียวกันหมดแล้ว คือได้รับผลกระทบจากการไม่ทำตามสัญญาของฝ่ายกองทัพและความมั่นคง ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านก็เห็นด้วยและมีความเข้าใจ จะทำงานร่วมกันกับกรรมาธิการการทหาร แล้วก็กรรมาธิการที่ดิน เพื่อผลักดันให้มีการแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ในฐานะฝ่ายค้าน" นายชัยธวัช กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น