xs
xsm
sm
md
lg

“รองอ๋อง” เคลียร์หลังถูกบี้ลาออก ส่งหนังสือตามขั้นตอน ปัดบุกทำเนียบ “โรม” เดือดจี้ “ครูมานิตย์” ถอนคำ “ไอ้หนู”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอง ปธ.สภา แจงหลังโดนไล่ให้ลาออก ยันไม่ได้บุกทำเนียบ ส่งหนังสือขอพบตามขั้นตอน “โรม” เดือดขอ “ครูมานิตย์” ถอนคำพูด “ไอ้หนู” มองหยาบคายด้อยค่าคุณวุฒิ ควรให้สิทธิเจ้าตัวอธิบาย

วันนี้ (6 มี.ค.) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ชี้แจงหลัง นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ขอหารือการทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ ที่ปฏิบัติเกินอำนาจหน้าบุกไปทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 67 เพื่อทวงถามร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน โดยยืนยันว่า การไปทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่การบุก เพราะ “บุก” เป็นคำที่สื่อมวลชนใช้ ตนเองทำเรื่องขอเข้าพบ โดยได้ส่งหนังสือถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอทราบรายละเอียดร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงิน เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67 เนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียดว่าหน่วยงานใดให้ความเห็นแล้วบ้าง ต่อมา 26 ม.ค. 67 มีหนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า กำลังรอความเห็นจากหน่วยงานอยู่ จากนั้น 31 ม.ค. 67 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งหนังสือขอเข้าศึกษาขั้นตอนการดำเนินการต่อร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินอีกครั้งหนึ่ง

โดยวันที่ 7 ก.พ. 67 ตนเองในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ทั้งนี้วันที่ 14 ก.พ. 67 รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง มีหนังสือตอบกลับ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียด ระบุเพียงว่า กฎหมายการเงินมีขั้นตอนการพิจารณาอย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ใช่คำถามที่ตนเองถามไปว่าติดค้างอยู่ที่หน่วยงานใด จำนวนเท่าใด และมีกรอบระยะเวลาในการติดตามอย่างไร

นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า วันที่ 21 ก.พ. 67 ตนเองจึงส่งหนังสือไปอีกรอบโดยระบุถึงความจำเป็นในการเข้าพบเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อทำให้ร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินมีความโปร่งใส เพราะตนเองผลักดันเรื่องสภาโปร่งใส ดังนั้น ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องมีความโปร่งใสด้วย

จากนั้น วันที่ 29 ก.พ. 67 มีหนังสือส่งกลับมาใจความระบุได้ว่าไม่ต้องไป เดี๋ยวเขาจะมาชี้แจงเอง เรื่องนี้ตนเองจำเป็นต้องปกป้องผลประโยชน์ต่อสมาชิก เพราะกฎหมายการเงินเป็นกฎหมายของทุกพรรคการเมือง อาทิ เพื่อไทย ก้าวไกล ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และประชาชาติ โดยวันดังกล่าวได้ให้เลขาฯ และตำรวจ ไปประสานว่า ตนเองจะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตอบกลับมาในแชตไลน์ว่ารับทราบ และจะส่งคนมาต้อนรับ แต่เมื่อไปถึงสถานที่จริงกลับไม่ได้รับการปฏิบัติตามที่ได้ประสานไว้

เพราะฉะนั้นภาพอาจดูทุลักทุเล ขอยืนยันว่า เป็นการเข้าพบโดยกระบวนการที่ถูกต้อง และมีการประสานงานล่วงหน้า ไม่ได้เป็นการบุก หรือก้าวล่วง ก้าวล้ำ เข้าไปในการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อว่า ตนเองไม่เคยออกมาก้าวล่วงนายปดิพัทธ์สักครั้งเดียว แม้จะมีข่าวเยอะแยะมากมาย ทั้งเชียร์เบียร์ หมูกระทะ ไปสิงคโปร์ ก็เป็นเรื่องของท่าน พร้อมตั้งคำถามว่าการไปทำเนียบรัฐบาลเป็นการทำหน้าที่ตามข้อบังคับข้อใด

ก่อนที่ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ส.ส.ระยอง พรรคก้าวไกล จะประท้วงขอให้นายปดิพัทธ์ ควบคุมการประชุมตามข้อบังคับ ทำให้ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า “นั่งเถอะไอ้หนู” ซึ่ง นายชุติพงศ์ ได้ขอให้ถอน นายครูมานิตย์ ถอนคำพูดดังกล่าว มองว่า ไม่เป็นการสมควร ด้าน นายปดิพัทธ์ จึงกล่าวต่อว่า “เมื่อเช้าผมโดนไล่ให้ไปลาออก เรื่องนี้สำคัญจึงต้องชี้แจง”

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ให้ความเคารพและรู้จักกับนายครูมานิตย์มานาน แต่การใช้คำว่า “ไอ้หนู” เป็นการไม่เคารพกัน ส.ส.ไม่ว่าจะ 1 สมัย 5 สมัย หรือ 10 สมัย ทุกคนเท่ากัน จะมาใช้คำพูดหยาบคายแบบนี้ เพื่อด้อยค่าเรื่องคุณวุฒิไม่ได้ เป็นสิ่งที่ประธานสภา ต้องวินิจฉัยและขอให้นายครูมานิตย์ถอน เข้าใจว่า ข้อกล่าวหารุนแรง ประธานสภา ควรมีสิทธิอธิบาย แต่การปล่อยให้เพื่อนสมาชิกอภิปรายเช่นนี้ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เพราะไม่เคารพกัน

ภายหลัง นายครูมานิตย์ ได้ขออภัยนายรังสิมันต์และคณะ ขอถอนคำพูดว่า “ไอ้หนู” โดยระบุว่า ลุกขึ้นรอถอนคำพูดอยู่แล้ว นายปดิพัทธ์ จึงชี้แจงต่อว่า ไม่ได้บุกไปทำเนียบรัฐบาล หรือกดดันให้เซ็นหรือไม่เซ็น แต่เป็นการติดตามความคืบหน้าการให้ความเห็นของหน่วยงาน ย้ำว่า ตนเองไม่มีอำนาจกดดันให้นายกฯ พิจารณา หากหน่วยงานไม่สามารถให้ความเห็นได้ตลอด 4 ปี กฎหมายที่เพื่อน ส.ส.เสนอ จะไม่ได้รับเสนอถึงโต๊ะนายกฯ

ส่วนประเด็นว่า ได้รับอนุญาตจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือไม่นั้น นายปดิพัทธ์ แจงว่า ตนเองได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่อง กิจการสภา การตรากฎหมายและการบรรจุกฎหมาย ยืนยันว่า ทำตามข้อบังคับโดยมีเจตนาให้กฎหมายของทุกคนได้รับการพิจารณาอย่างเท่าเทียมกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น