ผอ.สำนักอุทยานฯ เตรียมลงพื้นที่ข้อพิพาทที่ทับซ้อนเขาใหญ่รอบสอง เสียใจ ส.ป.ก.ไม่เคยมาชี้แจง ไม่โกรธที่ถูกฟ้องร้อง หลังบุกถอนหมุด
วันนี้ (6 มี.ค. 67) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามปัญหาข้อพิพาทที่ดินทับซ้อนในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับเขตปฏิรูปที่ดิน โดยยืนยันว่าหมุดที่ปัก เป็นหมุด ส.ป.ก.ซึ่งปกติแล้วจะนำหลักหมุด ส.ป.ก.ไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าซื้อมาจากล็อตใด ใครเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง ผลการพิสูจน์ออกมาแล้วว่าเป็นของ ส.ป.ก. จึงมายื่นฟ้องตนเอง ยอมรับว่าไม่ได้กังวล ซึ่งการชี้แจงของ ส.ป.ก.เมื่อวานนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าหมุด ส.ป.ก.สามารถถือไปไหนมาไหน หรืออยากปักที่ไหนก็ได้ใช่หรือไม่ จึงอยากถาม ส.ป.ก.ว่าการรังวัดปักหมุด จะต้องใช้แผนงาน แผนการเงิน ต้องจ้างคนและรถเพื่อขนหมุดไปปัก แต่ ส.ป.ก.ดูเหมือนไม่ได้จ้างคน ไม่มีแผนงาน หรือให้คนหิ้วถุงหมุดไปปักใช่หรือไม่ ส.ป.ก.จึงต้องออกมาให้ความชัดเจนในสังคม
ส่วนการชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ที่ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการแบ่งพื้นที่ระหว่างกรมอุทยานฯ และกรมแผนที่ทหาร นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า กรมแผนที่ทหารพยายามโชว์ร่องรอยของแผนที่ในอดีต ซึ่งกรมอุทยานฯ ก็พยายามชี้ให้เห็นว่าร่องรอยนั้นคือพื้นที่สวนป่า ไม่ใช่พื้นที่ที่ชาวบ้านเข้าไปทำกิน หรือเป็นพื้นที่ของชาวบ้านตั้งแต่ดั้งเดิม
ทั้งนี้แนวเขตที่มีการอ้างอิง กรมแผนที่ทหารยอมรับว่าไม่ได้ยึดพื้นที่หมด แต่ยึดจาก Field book และพื้นที่ข้างเคียงว่ามีพื้นที่ร่องห้วย และสอบถามจากชาวบ้านว่าเป็นยอดเขาอะไร ซึ่งห้วยดังกล่าวมีความยาวหลายสิบกิโลเมตร ฉะนั้นจะมาบอกว่าอยากได้พื้นที่จากพื้นที่จุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งไม่ได้ เพราะห้วยมีความยาวมาก สุดท้ายเรื่องนี้ได้ร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปรังวัดพร้อมกัน ดังนั้นแผนที่ที่จะคุยกันต่อไป จึงไม่ต้องนำแผนที่ทหารเข้ามาพิจารณา เพราะหากยอมรับได้ก็จะไม่ทีเรื่องไปถึงศาลปกครอง
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยอีกว่าตนเองเรียนจบเรื่องการรังวัดมา อ่านแผนที่เป็น มีความรู้อยู่แล้ว หากมีการลงพื้นที่ร่วมกันก็พร้อมยอมรับทุกเรื่อง ส่วนวันนี้เห็นวี่แววแล้วว่าเรื่องจะไปในทิศทางใด และจบแบบใด พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ต้องยึดตามหลักวิทยาศาสตร์ ยึดจากหมุดของกรมแผนที่ทหารก่อนจะโยงมาในแนวของพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องมีเส้นสมมติสักเส้นหนึ่ง หากไม่จบที่เส้นนี้ ก็ต้องมีสักเส้นที่จบ ไม่สามารถยึดจาก Field Book ได้ ดังนั้นการลงพื้นที่ร่วมกันครั้งหน้าน่าจะได้ข้อสรุปและไม่มีความขัดแย้ง เพราะถ้าทุกคนหวังดีกับประเทศชาติก็ไปด้วยกันได้แน่นอน ทั้งนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้อนุมัติว่าต้องยึดตามกรมแผนที่ทหาร แต่ ส.ป.ก.นำไปใช้และนำมาฟ้องร้องตนเอง ยืนยันว่าไม่ได้โกรธ เพราะเป็นไปตามที่คาดไว้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าการพูดคุยกับ ส.ป.ก.จะจบในรูปแบบใด เพราะไม่เคยเข้ามาชี้แจงใน กมธ. นายชัยวัฒน์ กล่าวว่ารู้สึกเสียใจ เพราะการประชุมสองครั้งไม่มีผู้แทนมาเลย อย่างวันนี้อ้างว่าเป็นวันสถาปนา ส.ป.ก.มองว่าต้องมีความรับผิดชอบ เมื่อมีนัดประชุมต้องเข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.โดยเฉพาะประเด็นที่มีการโต้แย้ง