นายกฯ สัมภาษณ์สรุปผลสำเร็จการเดินทางร่วมประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย ไทยผลักดันความเชื่อมโยงทุกมิติ และการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด พร้อมได้หารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศเดินหน้าความร่วมมือระหว่างกัน
วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเงลา 10.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น นครเมลเบิร์น ออสเตรเลีย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน โดยได้ระบุว่า การเดินทางมาร่วมการประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย เชื่อมั่นว่า การเดินทางมาครั้งนี้ได้เพิ่มโอกาส สร้างประโยชน์ให้ประเทศ และประชาชนไทยอย่างมาก
โดย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมถึงความร่วมมือระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลีย ภายใต้ 3 เสาหลักของอาเซียน คือ 1. การเมืองและความมั่นคง 2. เศรษฐกิจ 3. สังคมและวัฒนธรรม และถือเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปีอาเซียน-ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน
ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะตัวแทนประเทศไทย ได้กล่าวถึงสิ่งที่ประเทศไทยพร้อมผลักดัน ในสองด้านหลัก ได้แก่ 1. ความเชื่อมโยงในมิติต่างๆ (Connectivity) ได้แก่ การค้าการลงทุน เพิ่มมูลค่าทางการค้าผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ ด้านที่สอง ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ให้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ไร้รอยต่อ (Seamles) ด้านที่สาม ด้านดิจิทัลโดยได้เริ่มพัฒนาเจรจาความตกลง DEFA (Digital Economy Framework Agreement) ซึ่งจะสร้างมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และในด้านสุดท้ายที่มีความสำคัญมากคือ ด้านประชาชน การติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างประชาชนผ่านการส่งเสริม Soft Power และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการช่วยเหลือด้านการเชื่อมโยงด้านการตรวจลงตราระหว่างกัน
และ 2. การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ซึ่งไทยสามารถร่วมกับ ออสเตรเลีย ทำให้เกิดระบบนิเวศน์ EV ครบวงจร รวมถึงการออก Sustainability bonds
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อมั่นว่า จะเกิดความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาคผ่านการมีเป้าหมายร่วมกัน และจะเกิดความร่วมมือ เป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ เกิดการพัฒนา ซึ่งจะต้องไม่ลืมที่จะต้องรับมือกับ Climate Change ร่วมกันด้วย โดยประเทศไทยได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมมืออย่างเต็มที่ในกรอบความร่วมมือนี้ ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จของภูมิภาค
ในส่วนอื่นๆ นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับผู้นำ 4 ประเทศ ในการพบหารือกับผู้นำลาวได้พูดถึงการค้าชายแดน พบหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้พูดคุยถึงสันติสุขในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นโอกาสให้พูดคุยเรื่องโอกาส ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยว่าเราควรเริ่มพูดคุยแนวทางการแก้ปัญหาจากการเพิ่มโอกาส ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการลงพื้นที่เมื่อเร็วๆนี้ เป็นการสร้างโอกาสให้เกิดการขุด Hidden Gem ถือเป็นอีกมิติในการแก้ไขปัญหา และในส่วนของการพบปะกับผู้นำออสเตรเลียนั้น ได้พูดคุยเรื่องการสนับสนุนการนำเข้าแรงงานไทยมาทำงานด้านการเกษตรที่ออสเตรเลีย และได้ขอบคุณที่ออสเตรเลียที่ดูแลนักเรียนไทยอย่างต่อเนื่องมาตลอด ในการพบหากับนิวซีแลนด์ ได้พูดคุยกันอย่างเป็นกันเองครับทั้งในเรื่องของ Visa Free และในปีนี้ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์มีกำหนดการเดินทางไทยในช่วงเดือนเมษายน
ในส่วนของการพบหารือกับฝ่ายเอกชน นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับผู้นำเอกชน 6 บริษัทใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทสำคัญทั้งในด้านอุตสาหกรรม พลังงานสะอาด และด้านกองทุน ซึ่งผมเชื่อมั่นมากว่าประเทศไทยคนไทยจะได้ประโยชน์จากการเดินทางครั้งนี้